ในที่สุด SAIC Motor เลือกจีนเป็นที่แรกเปิดตัวยานยนต์รุ่นล่าที่เหนือกว่าทุกรุ่นในค่ายและหวังจะเป็นอีกรุ่นที่บุกตลาดทั่วโลกกับ MG 7
ห่างหายไปนานถึง 15 ปี ที่เคยนำพื้นฐานของ Rover 75 มาแปะตรา MG ขายในจีนมาคราวนี้ไฉไลยิ่งกว่ามาในร่าง Sedan Coupe หลังคาลาดลงคล้ายกับรถ Fastback แต่ความจริงก็คือรถซีดานนี่เอง เอาแรงบันดาลใจของ MG Cyberster มาขัดเกลาจนสมบูรณ์แบบหรูด้วยไฟหน้า LED ทรงสปอร์ตด้านหน้าหล่อด้านท้ายทรงเท่ด้วยไฟท้าย LED แนวยาว พร้อมโลโก้ MG ล้ออัลลอยขนาดใหญ่ 18 นิ้วพร้อมยาง 225/50R18 กับ 19 นิ้ว พร้อมยางขนาด 245/40 R19 และ 245/40 ZR19 กันชนหลังทูโทนติดตั้งลิ้นสปอยเลอร์หลังสีดำครอบทับกันชนและท่อไอเสียคู่สองฝั่งแถมมีสปอยเลอร์หลังที่ออกแบบมาสามารถยกตัวเมื่อความเร็วรถเกิน 100 กม./ชม. และพับเก็บได้เมื่อความเร็วรถลดลงเหลือ 70 กม./ชม.ประตูรถทั้งสี่บานเป็นแบบ Hardtop ไร้กรอบ กับกระจกรถโอเปร่าตัวรถมีความยาว 4,884 มม. ความกว้าง 1,889 มม. ความสูง 1,447 มม. และฐานล้อ 2,778 มม.
ภายในหรูเท่ตั้งแต่ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้าน คอนโซลหน้าที่มีจอขนาดใหญ่แนวยาว 33 นิ้ว ที่รวมทั้ง มาตรวัดดิจิตอลแบบ LCD 10.25 นิ้ว และจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้วรวมไว้ในชุดเดียวกันรองรับการเชื่อมต่อที่หลากหลาย ประมวลผลเร็วด้วยการใช้ชิปคุณภาพ Xiaolong 8155 ควบคุมทั้งโหมดการขับขี่ที่กำหนดเองและช่วยจอดอัจฉริยะ พร้อมลำโพง BOSE 14 จุด จอแสดงข้อมูลเหนือแผงคอนโซลหน้าแบบ AR HUD พร้อมชุดเบาะนั่งหุ้มหนังแบบ Dinamica กับหนัง Nappa ที่มีโทนให้เลือกทั้งสีแดง เขียว และดำ และวัสดุหนังผิวสัมผัสคุณภาพสูง
ขุมพลังมีให้เลือกถึงสองแบบตั้งแต่เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 2.0 ลิตร 20A4E 262 แรงม้า แรงบิด 405 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่งแรง 0-100 กม./ชม. ทำได้ 6.5 วินาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีดในรุ่น 405 VGTI และเบนซินเทอร์โบแปรผัน VGT 1.5 ลิตร 185 แรงม้า แรงบิด 300 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ DCT 7 สปีด มีเฟืองท้ายไฟฟ้า E-LSD กับ mCDC ช่วงล่างอัจฉริยะควบคุมด้วยไฟฟ้าและอาจมีรุ่นเสียบปลั๊ก PHEV ตามมาด้วย
เบื่องต้น MG 7 เตรียมขายจีนเร็วๆนี้ ส่วนรุ่น PHEV ตามมากลางปี 2023 แต่เตรียมส่งทำตลาดทั่วโลกด้วยหรือไม่นั้นต้องติดตาม
ที่มา PC Auto และ Autohome
