More

    BMW X5 Facelift 2024 ยกระดับความปราดเปรียวมั่นใจทุกการขับขี่

    หลังจากเปิดตัวที่ตลาดโลกไปตั้งแต่ต้นปีสำหรับการปรับโฉมครั้งแรกในรอบ 4 ปีของ BMW X5 รุ่นปรับโฉม จนล่าสุดความหล่อหรูได้มาถึงเมืองไทยแล้ว

    BMW

    BMW X5 รุ่นปรับโฉมหรือ LCI รหัส G05 ยกระดับความปราดเปรียวและความมั่นใจในการขับขี่ผ่านการปรับดีไซน์อย่างละเอียดอ่อน ตอกย้ำตำแหน่งผู้นำรถยนต์เอนกประสงค์ (Sports Activity Vehicle – SAV) ในเซกเมนต์รถยนต์หรู อัดแน่นไปด้วยสมรรถนะการขับขี่ที่เหนือชั้น เครื่องยนต์อันทรงพลัง การออกแบบที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ และความสะดวกสบายเหนือชั้นภายในห้องโดยสาร มาพร้อมอัตลักษณ์การออกแบบใหม่ถ่ายทอดรูปลักษณ์อันแข็งแกร่งได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น

    เพิ่มลูกเล่นความเฉียบคมด้วยไฟหน้าและกระจังหน้าแบบไตคู่อันเป็นเอกลักษณ์พร้อมชุดไฟหน้าใหม่แบบ Adaptive LED ที่เพรียวบางลง 35 มิลลิเมตร ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน LED Daytime ทรงลูกศรชี้ออกด้านนอกยังทำหน้าที่เป็นไฟเลี้ยว สร้างความโดดเด่นยิ่งขึ้นให้กับตัวรถ รวมไปถึงช่องดักอากาศด้านหน้าทั้งสองฝั่งของตัวรถ ทั้งยังนำองค์ประกอบนำแสงไฟเบอร์ออปติกงดงามมาใช้ในไฟท้ายและไฟเบรกสร้างความสะดุดตายิ่งขึ้น รูปทรงตัว L แบบ LED ที่พบเห็นได้ถูกนำมาประกอบในแนวนอนของตัวรถ

    BMW

    สร้างความรู้สึกเหมือนได้เห็นสัญลักษณ์อักษร X ส่องสว่างบริเวณไฟท้าย ในรุ่น X5 xDrive50e M Sport ใหม่ หรูหรายิ่งกว่าด้วยกระจังหน้า BMW kidney ‘Iconic Glow’ ภายนอกตกแต่งด้วยวัสดุสีดำเงา และโคมไฟหน้าตกแต่งดีไซน์ M สีดำ ส่วนรุ่น X5 xDrive30d M Sport ใหม่ และ X5 xDrive50e M Sport ใหม่ มาพร้อมระบบปรับการทำงานไฟสูงอัตโนมัติ คาลิเปอร์เบรกดีไซน์ M Sport ระบบปลดล็อกประตูอัจฉริยะ ชุดแต่ง M Aerodynamics และชุดแต่งภายนอก M สีดำเงา พร้อมล้ออัลลอย M 20 นิ้ว แบบ Star Spoke สลับสี พร้อมยาง 275/45 R20 ในล้อหน้า และ 305/40 R20 ในรุ่น X5 xDrive30d M Sport ใหม่ และขนาดใหญ่ 21 นิ้ว M แบบ Y-Spoke สลับสี พร้อมยาง 275/40 R21 ในล้อหน้า และ 315/35 R21 ในรุ่น X5 xDrive50e M Sport ใหม่

    BMW

    ภายในห้องโดยสารล้ำสมัยผสมผสานของระบบปฏิบัติการ BMW Operating System 8 และเทคโนโลยี BMW iDrive ใหม่ล่าสุดมาพร้อมกับจอแสดงผลแบบโค้ง BMW Curved Display แบบ 14.9 นิ้วในจอสัมผัส และมาตรวัดดิจิทัล 12.3 นิ้วในรถยนต์ SAV และนอกจากอุปกรณ์มาตรฐานที่ใส่มาทั้งสองรุ่นย่อยไม่ว่าจะเป็นระบบ BMW Live Cockpit Professional ระบบ BMW ConnectedDrive และฟังก์ชันสั่งงานด้วยการเคลื่อนไหวมือ (BMW Gesture Control) ระบบความบันเทิงภายในตัวรถยังถูกยกระดับขึ้นอีกขั้นด้วยระบบเสียงรอบทิศทาง Harman Kardon ในรุ่น X5 xDrive30d M Sport และระบบเสียงรอบทิศทางคุณภาพสูง Bowers & Wilkin Diamond ในรุ่น X5 xDrive50e M Sport

    ระบบสัมผัสบนหน้าจอควบคุมช่วยลดจำนวนปุ่มและสวิตช์ต่าง ๆ ผ่านการควบคุมหลากหลายฟังก์ชันด้วยระบบดิจิทัล แถบไฟกราฟฟิกภายในรถยังมาพร้อมตัวอักษรชื่อรุ่น “X5” ความสะดวกสบายสูงสุดและบรรยากาศในห้องโดยสารของรุ่น X5 xDrive30d M Sport และรุ่น X5 xDrive50e M Sport ยังเสริมด้วยเบาะนั่งตอนหน้าแบบ Comfort ปรับไฟฟ้า พวงมาลัยหุ้มหนังดีไซน์ M ชุดไฟสร้างบรรยากาศ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ 4 โซน และระบบ Travel & Comfort ทั้งสองรุ่นยังตกแต่งภายในด้วยวัสดุหนังแท้ BMW Individual และวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ดีไซน์ M นอกจากนี้ในรุ่น X5 xDrive50e M Sport ใหม่ ยังมาพร้อมภายในห้องโดยสารที่เอ็กซ์คลูซีฟยิ่งกว่าด้วยการตกแต่งด้วยผลึกแก้ว ‘CraftedClarity’ และเข็มขัดนิรภัยดีไซน์ M

    พร้อมไฟ Ambient Light ถัดจากช่องแอร์คอนโซลกลาง หลังคาแบบ Panorama glass roof Sky Lounge เพิ่มความโปร่งอย่างโอ่อ่าเหนือระดับ เบาะหลังพับได้แบบ 40 : 20 : 40  ทั้งคู่ ในรุ่น X5 LCI รองรับปริมาตรการบรรจุของตั้งแต่ 650 ลิตรถึง 1,870 ลิตร ประตูท้ายที่สามารถแยกเปิดสองส่วนเพื่อให้สะดวกต่อการขนย้ายสัมภาระ เปิดปิดอัตโนมัติด้วยระบบไฟฟ้า

    BMW

    สเปกไทยมาพร้อมสองขุมพลังแรงจากตระกูล TwinPower Turbo กับ ดีเซลเทอร์โบ 6 สูบ 3.0 ลิตร รหัส B57D30B ให้กำลังถึง 286 แรงม้าที่ 4,000 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 650 นิวตันเมตรที่ 1,500-2,500 รอบต่อนาที แรงมาพร้อมระบบ Mild Hybrid แบตก้อนเล็กสุดและมอเตอร์ไฟฟ้าขนาดเล็กสุด เพิ่มมอเตอร์ไฟฟ้าแรงดัน 48 V เสริมพละกำลังขึ้นมาอีก 12 แรงม้า แรงบิด 200 นิวตันเมตรในขณะสตาร์ทรถและเร่งความเร็ว โดยเมื่อทำงานร่วมกันให้กำลังรวมสูงสุด 298 แรงม้า แรงบิด 670 นิวตันเมตร เร่งเครื่องทำความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเวลาเพียง 6.1 วินาที ขณะที่ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 233 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แถมเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมกว่าที่เคยด้วยการใช้ AdBlue สารพิเศษที่ช่วยลดปริมาณไนโตรเจนออกไซด์ในไอเสีย โดยทำปฏิกิริยาเคมีเพื่อแตกสารดังกล่าวให้กลายเป็นไนโตรเจนและน้ำ ซึ่งล้วนไม่เป็นภัยต่อสิ่งแวดล้อมในรุ่น X5 xDrive30d M Sport

    ปิดท้ายด้วยรุ่น X5 xDrive50e M Sport เพิ่มพลังเร้าใจด้วยระบบขับเคลื่อนที่ได้รับการปรับปรุงเพิ่มเติม บนพื้นฐานเบนซินเทอร์โบ 6 สูบปลั๊กอินไฮบริด รหัส B58B30M1 313 แรงม้า ที่ 5,000 – 6,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร ที่ 1,750 – 4,700 รอบต่อนาที จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าคู่แบบ BMW eDrive ให้กำลังถึง 197 แรงม้าที่ 7,000 รอบ/นาที แรงบิด 280 นิวตันเมตรที่ 100-5,500 รอบ/นาที และสร้างแรงบิดสูงถึง 450 นิวตันเมตร พร้อมความจุแบตเตอรี่ Lithium-ion 29.5kWh เมื่อทำงานร่วมกันจะได้กำลังถึง 489 แรงม้า แรงบิด 700 นิวตันเมตร ส่งพลังเร่งความเร็วจากหยุดนิ่งสู่ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในเวลา 4.8 วินาที และสามารถทำระยะทางขับเคลื่อนไฟฟ้าได้สูงสุดที่ 113 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC ขณะที่ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมงและความเร็วสูงสุดในโหมดไฟฟ้าอยู่ที่ 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

    BMW

    ทุกขนาดขุมพลังจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด Steptronic พร้อมขับเคลื่อนสี่ล้อ xDrive พัฒนากำลังขับเคลื่อนและควบคุมการทรงตัวได้อย่างดีเยี่ยม ถ่ายแรงขับเคลื่อนอย่างนุ่มนวลระหว่างล้อหลังทั้งสองข้าง ไม่ว่าบนเส้นทางออนโรดหรือออฟโรดสะดวกสบายในการขับขี่ระยะไกลผ่านเทคโนโลยีแชสซีขั้นสูง ช่วงล่าง Adaptive M ในรุ่น X5 xDrive30d M Sport มอบความรู้สึกในการขับขี่ที่กระชับปราดเปรียว ในขณะที่รุ่น X5 xDrive50e M Sport ถูกติดตั้งด้วยช่วงล่างถุงลม Adaptive 2-axle มอบความสะดวกสบาย

    ระบบความปลอดภัยถูกยกระดับขึ้นอีกขั้นด้วยระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ (DSC) ระบบควบคุมการยึดเกาะถนน (DTC) ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรก (ABS) ระบบช่วยเสริมแรงเบรกอัตโนมัติ (Brake Assist) ระบบควบคุมการกระจายแรงเบรกอัตโนมัติ (CBC) ระบบเบรกมือไฟฟ้าพร้อมฟังก์ชัน hold อัตโนมัติขณะรถหยุดนิ่ง เซนเซอร์ควบคุมระยะการจอดด้านหน้าและหลัง เซนเซอร์ควบคุมระบบความปลอดภัยเมื่อเกิดการชน ระบบ Active Protection ในรุ่น X5 xDrive50e M Sport ใหม่ ยังมาพร้อมกับระบบสร้างเสียงจำลองเตือนผู้ใช้ถนนรอบข้างเพื่อเสริมความปลอดภัยสูงสุดอีกด้วย

    BMW

    BMW

    BMW X5 รุ่นปรับโฉมหรือ LCI มีให้เลือกใน 4 สีตัวถัง ได้แก่ สีเทา Skyscraper Grey Metallic, สีขาว Mineral White Metallic, สีดำ Black Sapphire Metallic, และสีน้ำตาล Manhattan Metallic มาพร้อมราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมแพ็คเกจบำรุงรักษา BSI Standard นาน 3 ปีหรือ 60,000 กม. ดังนี้

    • รุ่น X5 xDrive30d M Sport ราคาจำหน่าย: 5,099,000  บาท (เพิ่มจากเดิม 180,000 บาท )
    • รุ่น X5 xDrive50e M Sport ราคาจำหน่าย: 5,399,000  บาท (เพิ่มจากเดิม 180,000 บาท )

     

     

     

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts