More

    หลุดเต็มตา! Ford Ranger Raptor กระบะโหดกว่าไทย 424 ม้าแดนมะกัน

    สหรัฐอเมริกาพร้อมแล้วที่จะเปิดตัวกระบะ Ford Ranger เจเนอเรชันใหม่ที่ปรับความหล่อให้ถูกจริตชาวมะกันด้วยพิ้นฐานเดียวกับสเปกไทย

    Ford

    แต่สำหรับกระบะโหด Ford Ranger Raptor ก็พร้อมที่จะขายควบคู่กันและล่าสุดเว็บบอร์ด Ranger6G เผยภาพกระบะรุ่นนี้พวงมาลัยซ้ายที่โรงงาน Ford Michigan Assembly Plant เมืองเวยน์ ที่อยู่ในเวย์นเคาน์ตี้ รัฐมิชิแกน มาพร้อมสีเทาใหม่ Cactus Grey

    หน้าตาแทบไม่ต่างจากสเปกไทยแต่เพิ่มมาเพื่อความแตกต่างตรงที่มีแถบสะท้อนแสงสีเหลืองตรงคิ้วขอบล้อด้านหน้าซ้าย-ขวา ไฟเบรกดวงที่สาม ย้ายไปอยู่ที่ขอบบนกระจกท้ายจากเดิมจะอยู่ชุดเดียวกับที่เปิดกระบะท้าย และกระจกหลังเลื่อนเปิดปิดได้

    นอกนั้นเหมือนเดิดุด้วย ไฟหน้าใหม่รูปตัว C แบบ Matrix LED พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวัน Daytime running lights แบบ LED ไฟเลี้ยวแบบไดนามิก ไฟสูงแบบตัดแสงปรับระดับแสงแบบอัตโนมัติ

    กระจังหน้าสีดำเข้มติดตัวอักษร F-O-R-D ขนาดใหญ่ ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง Performance All-Terrain BFGoodrich K02 High T285/70 R17 ซุ้มล้อสีเทาเข้มที่สะดุดตา ช่องลมข้างบังโคลนสีเทาเข้มมีประโยชน์ด้านอากาศพลศาสตร์นอกจากความสวยงาม บันไดข้างดีไซน์ใหม่ทำจากอะลูมิเนียมที่แข็งแรง

    ไฟท้าย LED กันชนหลังสีเทาเข้มมีบันไดเหยียบเพื่อขึ้นกระบะท้าย ตะขอลากจูงคู่หน้าและหลังติดตั้งในตำแหน่งสูงเพื่อเพิ่มมุมจากพร้อมลุยในเส้นทางออฟโรดทุกสถานการณ์ ได้กล้องรอบคัน 360 องศา

    Ford Ford

    ภายในเหมือนสเปกไทยดุดันด้วยเบาะที่นั่งแบบสปอร์ตทั้งเบาะหน้าและหลังมอบความสบายและกระชับแม้รถวิ่งด้วยความเร็วบนทางโค้งหุ้มหนังเสริมความหรูหราอีกขั้น ตกแต่งด้วยโทนสีส้ม Code Orange บนแผงหน้าปัด  มีไฟส่องสว่าง Ambient Light สีอำพันอบอุ่นภายในห้องโดยสาร

    พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันหุ้มหนังเกรดพรีเมียมพร้อมแถบบอกตำแหน่งองศาพวงมาลัยหรือ On-centre mark กับแป้น Paddle Shift เคลือบแมกนีเซียม มาตรวัดดิจิทัลความชัดเจนสูงขนาด 12.4 นิ้ว จอแบบสัมผัสตรงกลางขนาด 12 นิ้ว แสดงผลการเชื่อมต่อและระบบความบันเทิงผ่านระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC 4A® รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน iOS และ Android ระบบเสียง Bang & Olufsen® 10 ตำแหน่ง มอบประสบการณ์เสียงเหนือระดับระหว่างการผจญภัยครั้งใหม่ และระบบ Ford Pass แท่นชาร์จไร้สาย

    แต่ว่าขุมพลังที่ส่งเข้าไปที่จำหน่ายที่อเมริกาถึงจะใช้ขุมพลังเดียวกับไทยด้วยเบนซินเทอร์โบคู่ EcoBoost V6 รหัส DD2S 3.0 ลิตร แต่ให้มากกว่าไทยถึง 424 แรงม้า แรงบิด 596 นิวตันเมตร ซี่งมากกว่าไทย 397 แรงม้า ที่ 5,650 รอบต่อนาที และแรงบิด 583 นิวตันเมตร ที่ 3,500 รอบต่อนาที และมากกว่ายุโรป 292 แรงม้า แรงบิด 494 นิวตันเมตร

    Ford

    พร้อมระบบป้องกันการรอรอบ (Anti-Lag System – ALS) ส่วนหนึ่งของโหมด BAJA ใน จะรักษาการหมุนของเทอร์โบชาร์จเจอร์ที่ความเร็วสูงต่อไปอีกถึง 3 วินาที กับเกียร์อัตโนมัติไฟฟ้า 10 สปีด e-Shifter ปรับได้ 2 ระดับ พร้อมท่อไอเสียควบคุมไฟฟ้าพร้อมโหมดปรับเสียงให้เลือกได้ถึง 4 โหมด ทั้ง โหมดเงียบ Quiet โหมดปกติ Normal โหมดสปอร์ต Sport และ โหมดบาฮา Baja

    ตะลุยออฟโรดได้ดียิ่งกว่าเดิม ด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Full Time ตลอดเวลา ด้วยเกียร์ทรานสเฟอร์ควบคุมไฟฟ้าใหม่ล่าสุดที่ปรับได้ตามต้องการ ระบบดิฟล็อก 4 ล้อพร้อมลุยทุกสภาพพื้นผิว ควบคุมเฟืองท้ายคู่หน้าและหลัง แบบ locking differentials

    ตอบโจทย์คอออฟโรดตัวจริงด้วยโหมดการขับขี่ 7 โหมด มีทั้ง โหมดการขับขี่ทางเรียบ On Road ได้แก่ โหมดปกติ Normal, โหมดสปอร์ต Sport, โหมดทางลื่น Slippery โหมดการขับขี่ออฟโรด Off Road มีทั้ง โหมดหิน Rock Crawl, โหมดทราย Sand, โหมดโคลน Mud/Ruts และ โหมดบาฮา Baja

    มีระบบควบคุมความเร็วสำหรับการขับขี่ออฟโรด (Trail Control™) เสมือนระบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติสำหรับการขับขี่ออฟโรด ผู้ขับขี่ จะควบคุมการเร่งความเร็วและการเบรก

    ช่วงล่างออกแบบลุยทุกเส้นทางด้วยปีกนกบนและล่างใหม่ที่ทำจากอะลูมิเนียมที่แข็งแรง พร้อมวัตต์ลิงก์ด้านหลังที่พัฒนามาเพื่อให้เจ้าของรถขับขี่ด้วยความเร็วสูงบนถนนขรุขระได้อย่างมั่นใจ

    พร้อมโช้คแบบ Live Valve  Internal Bypass ขนาด 2.5 นิ้ว ของ FOX สามารถปรับช่วงล่างแบบเรียลไทม์เพื่อประสบการณ์การขับขี่ทางเรียบที่เหนือระดับ ติดตั้งแผ่นกันกระแทกใต้ท้องรถที่มีขนาดใหญ่เกือบ 2 ทำขึ้นจากเหล็กที่มีความแข็งแรงหนา 2.3 มม. เมื่อประกอบเข้ากับแผ่นปิดใต้เครื่องยนต์และชุดเกียร์จึงช่วยปกป้องชิ้นส่วนสำคัญ อาทิ หม้อน้ำ ระบบบังคับเลี้ยว คานด้านหน้า อ่างน้ำมันเครื่อง และชุดเฟืองได้ดีเยี่ยม

    Ford

    Ford Ranger Raptor เปิดไลน์ประกอบตั้งแต่ 10 กรกฎาคมและส่งมอบพร้อมกับ Ranger รุ่นปกติตั้งแต่เดือนสิงหาคมเป็นต้นไปที่สหรัฐอเมริกา

    ที่มา Carscoops

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts