หลังจากเปิดขาย Honda WR-V เวอร์ชันญี่ปุ่นตั้งแต่ 22 มีนาคมที่ผ่านมาสร้างความมหัศจรรย์กวาดยอดจองไปกว่า 13,000 คัน
กลายเป็นยอดจองมากกว่าสี่เท่าจากเป้าขายต่อเดือน 3,000 คันนับเป็นนิมิตหมายอันดีที่รถยนต์อเนกประสงค์รุ่นใหม่นำเข้าจากอินเดียมาขายญี่ปุ่นได้รับการตอบรับอย่างดียิ่ง
สำหรับกลุ่มลูกค้าที่สนใจ Honda WR-V เวอร์ชันญี่ปุ่น หรือ Honda Elevate เป็นกลุ่มลูกค้าที่มีหลากหลายช่วงอายุจากเคยใช้รถเล็กแบบ MINICAR รถเก๋งคอมแพคคาร์ รถเอสยูวีขนาดกลางถึงใหญ่และรถเอ็มพีวี ต้องการรถรุ่นนี้เป็นอย่างมาก
โดยรุ่น Z ซึ่งเป็นรุ่นรองท็อปเป็นรุ่นมีสัดส่วนการจองมากสุด 55% รองลงมาคือรุ่นท็อป Z+ 30% และรุ่นเริ่มต้น X เพียง 15% สีภายนอกที่ได้รับความนิยมได้แก่ สีขาวมุกแพลทินัม Platinum White Pearl 35% สีดำคริสตัล Crystal Black Pearl 28% และสีเทา Lloyd Grey Metallic คิดเป็น 18%
รุ่นนี้วางตำแหน่งการตลาดอยู่ต่ำกว่า Honda HR-V (หรือ VEZEL)กับ Honda ZR-V เรื่องหน้าตาไม่ต้องพูดถึงเพราะเหมือนรุ่น Elevate ราวกับแกะสปอร์ตเท่พร้อมลุยเริ่มที่กระจังหน้าห้าเหลี่ยมขนาดใหญ่ครอบด้วยขอบโครเมียมสีเงิน ไฟหน้า LED โคมทันสมัยพร้อมไฟ DRL แบบ LED ในโคมเดียวกัน ในชุดกันขนหน้าเข้มด้วยคิ้วกันกระแทกสีเงินและไฟตัดหมอกหน้า LED
กระจกมองข้างทรงสปูน พร้อมหลังคาประดับด้วยแร็คหลังคาสีเงิน เสา C ขนาดใหญ่ ด้านหลังมาพร้อมไฟท้าย LED รูปเลข 7 แนวยาวในชุดกันชนหลัง คิ้วขอบล้อสีดำลงตัวด้วยล้ออัลลอยทูโทนขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง Bridgestone Tranza T005A 215/55R17 และขนาด 16 นิ้วพร้อมยาง 215/60R16 ทั้งแบบล้ออัลลอยและฝาครอบล้อครอบล้อกระทะ
ตัวรถใช้แพลตฟอร์มเดียวกันกับ Honda City เจเนอเรชันที่ 5 มาขยายตัวถังให้เป็นรถยกสูงจอมเท่ด้วยมิติตัวรถมีความยาว 4,325 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,790 มิลลิเมตร ความสูง 1,650 มิลลิเมตร ฐานล้อ 2,650 มิลลิเมตร ความสูงจากใต้ท้องรถ 195 มิลลิเมตร น้ำหนักรถ 1,206-1,258 กิโลกรัม และความจุถังน้ำมัน 40 ลิตร
ภายในมาพร้อมความสบายแบบ 5 ที่นั่ง เบาะหลังพีบได้แบบ 60/40 พร้อมพื้นที่วางของด้านท้าย 458 ลิตร โดดเด่นด้วยพื้นที่วางของกว้างที่สุดในรถระดับเดียวกันตั้งแต่ความยาว 840 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,110 มิลลิเมตร และความสูง 932 มิลลิเมตร ออปชันทันสมัยทั้งคอนโซลหน้าหรู มาตรวัดดิจิทัล 7 นิ้ว
จอสัมผัสขนาดใหญ่ 8 นิ้วรองรับความบันเทิงและการเชื่อมต่อทุกรูปแบบที่ชาร์จมือถือไร้สาย พร้อม Honda Connect ให้ความสบายแก่เจ้าของรถทั้งฟีเจอร์สั่งสตาร์ทรถได้จากระยะไกล Remote Engine Start ระบบนำทาง เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมช่องแอร์ด้านหลัง และพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้านดีไซน์เดียวกับรุ่น City
ขุมพลังยกมาจาก Honda City ด้วยเบนซิน I-VTEC ขนาด 1.5 ลิตร รหัส L15ZF ให้กำลังสูงสุด 118 แรงม้าที่ 6,600 รอบต่อนาที แรงบิด 142 นิวตันเมตรที่ 4,300 รอบต่อนาที คู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT พร้อมความปลอดภัย Honda Sensing ทั้ง ระบบเตือนการชนด้านหน้าและตรวจจับคนเดินถนนด้วยกล้องและเรดาห์ Collision Mitigation Braking System (CMBS) ป้องกันการเหยียบคันเร่งพุ่งชนสิ่งกีดขวางด้าหน้าและด้านหลัง False Start Prevention Function
ระบบช่วยเบรก Short-Distance Collision Mitigation ช่วยหักหลบคนเดินถนน Pedestrian Accident Reduction Steering แจ้งเตือนและช่วยเหลือเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ Road Departure Prevention Function
ปรับตั้งความเร็วแปรผันอัตโนมัติ Adaptive cruise control (ACC) ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน Lane keeping support System (LKAS) เตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ Preceding Vehicle Start Notification Function การจดจำสัญญาณป้ายจราจร Sign Recognition Function ปรับไฟสูงอัตโนมัติ Auto High Beam (AHB)
สัญญาณกะระยะการจอดรถหน้าและหลัง Parking Sensor System พร้อมความปลอดภัยพื้นฐาน ควบคุมการทรงตัว (VSA) ช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HSA) ไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS) กล้องมองภาพขณะถอยหลังปรับได้ 3 มุมมอง กล้องมองภาพ Honda Lane Watch และถุงลมนิรภัยรอบคันHonda WR-V มีทั้งหมด 5 สีตั้งแต่สีแดง Illumina Red Metallic สีขาวมุก Platinum White Pearl สีดำ Crystal Black Pearl สีน้ำตาล Gold Brown Metallic และสีเทาเข้ม Meteoroid Gray Metallic
มีรุ่นย่อยถึงสามรุ่นทั้งX, Z และ Z+ เริ่มต้น 2,098,800- 2,489,300 Yen หรือราว 515,000-605,000 บาท เป็นราคาไม่รวมภาษีนำเข้าของไทยแต่ถ้านำเข้ามาขายไทยราคารวมภาษีนำเข้าเริ่ม 969,000-1,135,000 บาท
ที่มา Carwatch
ที่มาภาพ Shinichi Tsutsumi