More

    KIA Carnival หน้าใหม่ดีเซล 194 ม้าขายตัดหน้าไทยที่อินโดเริ่ม 2.19 ล้าน

    และแล้วอินโดนีเซียก็ตัดหน้าเมืองไทยเมื่อ KIA Carnival รุ่นปรับโฉมครั้งแรกในร่างเอ็มพีวีไซซ์ใหญ่ได้เปิดตัวและราคาจำหน่ายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

    KIAหน้าตาปรับใหม่หมดตั้งแต่หัวจรดท้ายนำแรงบันดาลใจมาจากรุ่น Sorento ตั้งแต่ไฟหน้ารูปตัว T ประกอบด้วยไฟหน้า LED แนวตั้งพร้อมแถบไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ Daytime แบบ LED ลากยาวมาจากขอบไฟด้านข้างมาถึงด้านหน้าทั้งบนและล่าง กระจังหน้าลายเสือหรือ Tiger Face แบบขอบสีเงินพร้อมตราโลโก้ KIA ย้ายไปอยู่ขอบฝากระโปรง รับกับกันชนหน้ารูปตัว H พร้อมไฟตัดหมอกหน้า LED แทรกในช่องระบายอากาศส่วนล่างใต้ป้ายทะเบียนเสริมคิ้วกันชนหน้าสีเงินสไตล์เด่นและช่องระบายอากาศแนวตั้งสองฝั่ง

    กระจกมองข้างทรงสปูนพร้อมไฟเลี้ยว ล้ออัลลอยลายใหม่ ขนาด 18 นิ้วพร้อมยาง 235/60R18 และขนาดใหญ่สีทูโทน 19 นิ้ว พร้อมยาง 235/55 R19 ไฟท้าย LED ออกแบบใหม่ทรงตัวทีเส้นแนวนอนกับตำแหน่งป้ายทะเบียนใหม่ พร้อมกันชนหลังใหม่ทูโทนเสริมคิ้วสีเงินและตัดที่ปัดน้ำฝนด้านหลัง

    KIAภายในอัปเกรดใหม่เห็นได้ชัดที่คอนโซลกลางได้รับการปรับปรุงให้ดูเรียบง่ายขึ้นโดยการลดจำนวนปุ่มการใช้งานฟังก์ชันต่างๆลง มีแผงสัมผัสแบบเดียวกับระบบควบคุมสภาพอากาศเหมือนกับ KIA รุ่นอื่นๆ เช่น Sportage, Niro และ Sorento เน้นเส้นสายสีเหลืองบนแผงหน้าปัดและการ์ดประตูหน้า ปรับเปลี่ยนกุญแจเป็นแบบดิจิทัล รองรับการอัพเดตแบบ over-the-air ที่ดีขึ้น จอคู่ขนาด 12.3 นิ้วทั้งมาตรวัดดิจิทัลดีไซน์ใหม่และจอสัมผัสความบันเทิงอัปเกรดระบบปฏิบัติการ ccNC ที่ Hyundai-Kia พัฒนาเอง ในชุดคอนโซลหน้า เบรกมือไฟฟ้าและ Auto Brake Hold ระบบเสียงจาก BOSE® รอบคันถึง 12 ตำแหน่ง จุดชาร์จ USB ทั้งหมด 6 จุด Mood Light ที่แผงประตูด้านหน้า ซันรูฟไฟฟ้า 2 ตำแหน่ง ระบบปรับอากาศอัตโนมัติควบคุมแบบสัมผัสเย็นทั้งคัน ที่ชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย Wireless Charger พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้านดีไซน์หรูหรา

    KIAองค์ประกอบเด่นที่ยังครองใจครอบครัวนั่นคือการออกแบบจัดวางที่นั่ง 7 แบบ 2+3+2 ไม่สูญเสียเนื้อที่หรือลดทอนความสบายของผู้โดยสารคนใด ในรูปแบบ เบาะนั่งแถว 2 แบบ Relaxation ปรับเอนด้วยไฟฟ้า พร้อมเบาะรองขา ระบบระบายอากาศ และระบบอุ่นเบาะ ส่วนรุ่น 11 ที่นั่ง แบบ 2+3+3+3 โดยเบาะโดยสารแถวสุดท้ายสามารถปรับพับเรียบได้สนิท Pop-up Sinking Seat เพิ่มพื้นที่สำหรับจัดเก็บสัมภาระปรับพับได้เพื่อเพิ่มพื้นที่มากถึง 2,905 ลิตร ประตูสไลด์ไฟฟ้า Smart Power Sliding Door ประตูท้ายไฟฟ้า Smart Tailgate พร้อมระบบ Away-Auto Close สามารถเปิดโดยอัตโนมัติเมื่อยืนอยู่ใกล้ตัวรถและปิดเองโดยอัตโนมัติเมื่อเดินห่างออกจากตัวรถพร้อม One-Touch Remote เพียงแค่กดปุ่มบนรีโมทค้างไว้ประตูสไลด์ไฟฟ้าและประตูท้ายจะเปิดพร้อมกันโดยอัตโนมัติ

    KIAพลังแรงเร้าใจด้วยเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ CRDI Smartsteam 2.2 ลิตร 194 แรงม้าที่ 3,800 รอบต่อนาที แรงบิด 441 นิวตันเมตรที่ 1,750-2,750 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดและโหมดแมนวลในรูปแบบ เกียร์แบบหมุน Dial Type – Shift by Wire (SBW)

    พร้อมเทคโนโลยีการขับขี่และความปลอดภัยอัจฉริยะ Advanced Driver Assistance System (ADAS) หรือ DRIVE WiSE ซึ่งประกอบไปด้วย ควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน Smart Cruise Control with Auto Stop and Go ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ Lane Following Assist (LFA) ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน Lane Keeping Assist (LKA) ช่วยเตือนและเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติที่ทางแยก Forward Collision-Avoidance Assist Junction Turning Function (FCA-JT)

    ช่วยเตือนและช่วยควบคุมพวงมาลัยเมื่ออยู่ในจุดอับสายตา Blind Spot Collision-Avoidance Assist กล้องมองภาพจุดอับสายตาเมื่อผู้ขับขี่เปิดสัญญาณไฟเลี้ยวซ้ายหรือขวา Blind Spot View Monitor (BVM) ช่วยเตือนและเบรกอัตโนมัติขณะถอยรถ เมื่อมีรถยนต์ด้านหลังเคลื่อนที่เข้ามาใกล้ขณะที่กำลังถอยรถ Rear Cross-Traffic Collision-Avoidance Assist (RCCA) เตือนความเมื่อยล้าของผู้ขับขี่ Driver Attention Warning (DAW) แจ้งเตือนผู้โดยสารด้านหลัง Rear Occupant Alert (ROA) ป้องกันการเปิดประตูเมื่อมีรถวิ่งมาด้านข้าง Safe Exit Assist (SEA)

    พร้อมความปลอดภัยพื้นฐานครบครันทั้งระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ (Rain Sensor) เซนเซอร์ช่วยจอด PDW (Parking Distance Warning) กล้องรอบคัน SVM (Surround View Monitor) ถุงลมนิรภัยรอบคัน รวม 8 จุด ควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ESC) ที่มาพร้อมกับเบรก (BAS) ป้องกันล้อหมุนฟรี (TCS) และช่วยออกตัวขณะรถอยู่บนทางลาดชัน (HAC)

    KIAKIA Carnival ขายอินโดนีเซียถึง 3 รุ่นย่อยทั้งรุ่น Premiere ทั้ง 7 และ 11 ที่นั่ง และรุ่น Dyanmic 11 ที่นั่งในราคาเริ่มต้น 960,000,000- 1,155,000,000 IDR เป็นราคารวมค่า on the road หรือราว 2,190,000-2,624,000 บาท ทางด้านเมืองไทยยังขายหน้าเดิมอยู่ส่วนรุ่นปรับโฉมจะมาหรือไม่ขึ้นอยู่กับว่าทางมาเลเซียจะปรับไลน์ไปประกอบรุ่นปรับโฉมในช่วงไหนนั้นต้องติดตาม

    ที่มา uzone

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts