More

    Mazda MX-5 MY2024 อัพเกรดหล่อโรสเตอร์จิ๋ว

    นับตั้งแต่ Mazda MX-5 เจเนอเรชันที่ 4 เปิดตัวตั้งแต่ปี 2015 ได้รับการตอบรับอย่างดีจากสาวกรถสปอร์ตที่เด่นในเรื่องความคล่องตัวและความสปอร์ตลงตัว

    Mazda

    ล่าสุดเปิดตัว Mazda MX-5 MY2024 รหัส ND ทั้งบอดี้เปิดประทุนหลังคาผ้าใบ soft-top และเปิดประทุนหลังคาแข็งหรือ RF hard-top สานต่อความสำเร็จจากยอดขายทั่วโลกเกือบ 200,000 คันในระยะเวลาเกือบ 10 ปีของการจำหน่ายถึงจะร่างเดิมปรับมาหลายรอบครั้งนี้ปรับใหม่เริ่มที่ชุดไฟหน้า Bi-Beam LED ที่มีไฟหน้า ไฟเลี้ยว และไฟส่องสว่างเวลากลางวันรวมอยู่ในโคมดียวกัน จากเดิมไฟส่องสว่างเวลากลางวันจะอยู่ที่ข้างๆกันชนหน้าซ้าย-ขวา ชุดรับสัญญาณระบบเรดาห์

    ควบคุมการทำงานของระบบความปลอดภัยทั้งระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ MRCC เตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติ SBS ชุดไฟท้าย LED ออกแบบใหม่รวมทั้งไฟเลี้ยวไฟเบรกและไฟถอยหลังในโคมเดียวที่ดูหรู มองชัดเจนในเวลากลางคืน และล้ออัลลอยเลือกได้สองแบบทั้งขนาด 16 นิ้ว ลาย 8 ก้าน สีดำเมทาลิคและสีเงิน พร้อมยาง 195/50R16 และลายใหม่ 8 ก้านคู่ทั้งสีดำเมทาลิคและทูโทนสีดำตัดสีเงิน ขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง 205/45 R17 หลังคาแข็ง RF Retractable Fastback ที่ด้านบนหลังคาถอดได้และส่วนด้านหลังสามารถพับเก็บได้ ในเวลา 12 วินาที กับความเร็วไม่เกินที่ 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และยังมีรุ่นเปิดประทุนหลังคาผ้าใบ soft-top

    มิติตัวรถเท่าเดิมตั้งแต่ความยาว 3,915 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,730 มิลลิเมตร ความสูง 1,235 มิลลิเมตร ฐานล้อ 2,310 มิลลิเมตร และน้ำหนักรถ 961-1,080 กิโลกรัม

    Mazda

    ภายในห้องโดยสารยังคงคัดสรรเลือกใช้เฉพาะวัสดุคุณภาพสูง ประณีตทุกจุดสัมผัส ไม่ว่าจะเป็นเบาะหนังใหม่ Leganu แบบสีดำหุ้มหนังกลับและผ้า และหนัง Nappa สีแทน รองรับการใช้งาน Apple CarPlay พร้อม Mazda Connect โดยแสดงข้อมูลผ่านหน้าจอสี Center Display ขนาดใหม่ 8.8 นิ้วแทนขนาดเดิม 7 นิ้ว ช่วยอำนวยความสะดวกในทุกการติดต่อพร้อมปรับ interface ใหม่ตอบสนองได้ดีขึ้น เพิ่มสุนทรียภาพในการขับขี่ด้วยระบบเสียงคุณภาพ Bose® รอบทิศทาง พร้อมลำโพง 9 ตำแหน่ง คิ้วบันไดกันรอยสเตนเลส พร้อมออปชันใหม่กระจกมองหลังปรับแสงอัตโนมัติแบบไร้กรอบ พร้อมปุ่มโทรติดต่อขอความช่วยเหลือ SOS มาตรวัดเรืองแสงออกแบบใหม่

    Mazda

    ขุมพลังแรงเช่นเดิมกับเครื่องยนต์เบนซิน SKYACTIV-G 2.0 ลิตร รหัส PE-VPR (RS) 184 แรงม้าที่ 7,000 รอบต่อนาที แรงบิด 205 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาทีและเบนซิน 1.5 ลิตร SKYACTIV-G รหัส P5-VPS 132 แรงม้าที่ 7,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 152 นิวตันเมตร ที่ 4,500 รอบต่อนาที สองความแรงจับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 สปีด SKYACTIV-MTและเกียร์อัตโนมัติ SKYACTIV-Drive 6 สปีด พร้อม Paddle Shift ระบบเฟืองท้ายลิมิเต็ดสลิปแบบอสมมาตรพัฒนาขึ้นใหม่ทำให้มีเสถียรภาพที่ดีขึ้นสำหรับที่มีให้เฉพาะรุ่นเกียร์ธรรมดา ขับเคลื่อนล้อหลัง

    พวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้าปรับเซ็ตน้ำหนักใหม่ให้ความรู้สึกตอบสนองรวดเร็ว การเปลี่ยนแปลงอีกประการหนึ่งคือเพิ่มโหมด DSC-Track สำหรับปิดระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว สำหรับคนซาดิสม์ควบคุมรถด้วยตัวเองไม่พึ่งตัวช่วยพร้อมระบบควบคุมสมรรถนะการทรงตัวขณะเข้าโค้ง KPC (Kinemetic Posture Control) ช่วยให้รถทำงานผสานกันอย่างมีประสิทธิภาพโดยที่ไม่เพิ่มน้ำหนักให้กับตัวรถ ช่วงล่างด้านหลังถูกออกแบบเพื่อช่วยป้องกันการยกของตัวรถ (Anti-Lift) จะทำการควบคุมแรงเบรกที่ล้อหลังฝั่งด้านในโค้ง ในขณะที่รถเข้าโค้งเพื่อลดอาการโคลงของตัวรถ ทำให้รถมีเสถียรภาพและเข้าโค้งได้ง่ายยิ่งขึ้นกว่าเดิม

    Mazda

    พร้อมความปลอดภัยครบครันทั้งถุงลมนิรภัยด้านข้างและด้านหน้า 2 คู่ ระบบสัญญานเตือนกันขโมย และระบบเซ็นเซอร์กะระยะด้านหลัง 4 จุด เพื่อมอบความปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่ไปตลอดเส้นทางและความปลอดภัยสุดล้ำ i-ACTIVSENSE เพื่อความปลอดภัยและลดความเสี่ยงเมื่อเผชิญเหตุไม่คาดคิดบนท้องถนน อาทิ เตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน LDWS (Lane Departure Warning System) ช่วยหยุดรถอัตโนมัติแบบ Advance (Advanced SCBS : Advanced Smart City Brake Support)

    ช่วยหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง SCBS-R (Smart City Brake Support-Reverse) ให้ความเร็วสูงสุด 15 กิโลเมตรต่อช่วโมง ตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ABSM (Advanced Blind Spot Monitoring) เตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert) ช่วยเตือนเมื่อเหนื่อยล้าขณะขับขี่ DAA (Driver Attention Alert) ไฟหน้า LED อัจฉริยะ ALH (Adaptive LED Headlamps) และ ควบคุมความเร็วอัตโนมัติ แบบ Mazda Radar Cruise Control (MRCC)

    Mazda

    Mazda MX-5 MY2024 เตรียมขายที่ญี่ปุ่นและออสเตรเลียช่วงต้นปี 2024 ส่วนเมืองไทยพบกันในช่วงปีเดียวกับญี่ปุ่นและออสเตรเลีย มีให้เลือกทั้งหมด 7 สีได้แก่ สีแดง โซล เรด คริสตัล (Soul Red Crystal) สีเทา แมชชีน เกรย์ (Machine Gray) สีน้ำเงิน ดีพ คริสตัล บลู (Deep Crystal Blue) สีดำ เจ็ท แบล็ก (Jet Black) สีขาว สโนว์เฟลก ไวท์ เพิร์ล (Snowflake White Pearl) สีบรอนซ์ แพลตทินั่ม ควอตซ์ (Platinum Quartz) และสีน้ำตาล เซอร์คอน แซนด์ (Zircon Sand) (แทนสีเทา โพลีเมทัล เกรย์ Polymetal Gray)

    ที่มา Carwatch และ Carsales

     

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts