ในการเปิดตัว Mercedes-Benz CLE อย่างเป็นทางการนอกจากจะเป็นการนำรถสปอร์ตสองรุ่นมายุบรวมเหลือรุ่นเดียวอีกครั้งในรอบ 13 ปีแล้ว
ยังมีการเปิดตัวพร้อมกันถึงสองบอดี้สองตัวถังหนึ่งในนั้นคือ Mercedes-Benz CLE Cabriolet เวอร์ชันปิดประทุนที่ดูๆไปแล้วไม่ต่างจากเวอร์ชันคูเป้ทุกสัดส่วนตั้งแต่ดีไซน์กระจังหน้า diamond-pattern grille เส้นตัดแบ่งเส้นเดียวอันเป็นเอกลักษณ์ประกบกับไฟหน้าแบบ Digital Light LED ปรับโคมไฟให้เล็กและเรียวขึ้นพร้อมความสว่างที่กว้างไกลกว่าเดิม ชุดกันขนหน้าดีไซน์เน้นความสปอร์ตแบบหน้ายิ้ม เอกลักษณ์เด่นนั่นคือกระจกไร้กรอบ
ด้านหลังดีไซน์ไฟท้าย LED ที่สวยงามพร้อมกันชนหลังดีไซน์เท่กรอบท่อไอเสียสี่ท่อ ล้ออัลอัลลอยเลือกได้หลายขนาดตั้งแต่ขนาด 18 -20 นิ้ว เริ่มที่ขนาด 18 นิ้วพร้อมยางหน้า 225/45ZR18 และยางหลัง 245/40ZR18 ขนาด 19 นิ้วพร้อมยางหน้า 225/40ZR19 และยางหลัง 255/35ZR19 ใหญ่สุด 20 นิ้ว เพียงแต่เป็นหลังคาผ้าใบสีแดงที่ใช้เวลาในการเปิดปิดในเวลาอันสั้นๆเท่านั้น
ภายในแน่นอนก็ยกมาจากรุ่น C-Class ตั้งแต่ มาตรวัดดิจิทัลขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว พร้อมพวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้าน คอนโซลกลางแบบจอสัมผัสแนวตั้งขนาดใหญ่ OLED 11.9 นิ้ว รวมการทำงานของเครื่องปรับอากาศแยกอุณหภูมิกับความบันเทิง MBUX (Mercedes-Benz User Experience) เอาไว้ด้วยกัน พร้อมระบบสั่งงานด้วยเสียงพร้อมคำทักทายสุดเก๋กับคำว่า “Hey Mercedes” กับเบาะหนังแท้คุณภาพ Nappa สีแดง
ไฟสร้างบรรยากาศ Ambient Lights ภายใน 64 สี กับลำโพง Burmester 16 จุด กำลังขับ 710 วัตต์เป็นออปชันเสริมส่วนลำโพงมาตรฐานมี 7 จุด กำลังขับ 225 วัตต์ และ 5จุด กำลังขับ 125 วัตต์ และการตกแต่งแผงประตูให้ดูแตกต่าง รวมถึงความจุด้านท้ายมากถึง 420 ลิตร
ขุมพลังเครื่องยนต์เหมือนเวอร์ชันคูเป้มาครบทั้งดีเซลและเบนซินเทอร์โบ ทั้ง 4 สูบและ 6 สูบแถวเรียง พ่วงระบบMild Hybrid สร้างและจ่ายไฟฟ้าเพื่อเลี้ยงระบบไฟฟ้าของรถโดยเป็นระบบมอเตอร์ไฟฟ้าแบบพิเศษแบบ 48V technology และแบตเตอรี่ขนาดเล็กสุด พร้อม EQ Boost ให้กำลัง 23 แรงม้า แรงบิด 200 นิวตันเมตร และทุกขุมพลังจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด 9G-Tronic เริ่มที่
– ดีเซลเทอร์โบ 2.0 ลิตร OM654M Mild Hybrid ให้กำลังมากถึง 200 แรงม้าที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิด 440 นิวตันเมตรที่ 1,800-2,800 รอบ/นาที ความเร็วสูงสุด 238 กม./ชม. อัตราเร่ง 0-100 กม./ขม. ทำได้ 7.5 วินาที ในรุ่น CLE 220 d
– เบนซินเทอร์โบ 2.0 ลิตร M254M ให้กำลังมากถึง 204 แรงม้าที่ 5,800 รอบ/นาที แรงบิด 320 นิวตันเมตรที่ 1,600-4,000 รอบ/นาที ความเร็วสูงสุด 240 กม./ชม. อัตราเร่ง 0-100 กม./ขม. ทำได้ 7.4 วินาที ในรุ่น CLE 200 และรุ่น CLE 200 4MATIC ขับเคลื่อนสี่ล้อกับขุมพลังเดียวกันแต่ความเร็วสูงสุด 236 กม./ชม. อัตราเร่ง 0-100 กม./ขม. ทำได้ 7.5 วินาที
– เบนซินเทอร์โบ 2.0 ลิตร M254M อัพพลังเป็น 258 แรงม้าที่ 5,800 รอบ/นาที แรงบิด 400 นิวตันเมตรที่ 2,000-3,200 รอบ/นาที ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม. อัตราเร่ง 0-100 กม./ขม. ทำได้ 6.2 วินาที ในรุ่น CLE 300 4MATIC
-เบนซินเทอร์โบ 3.0 ลิตร M256M อัพพลังเป็น 381 แรงม้าที่ 5,800-6,100 รอบ/นาที แรงบิด 500 นิวตันเมตรที่ 1,800-5,000 รอบ/นาที ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม. อัตราเร่ง 0-100 กม./ขม. ทำได้ 4.4 วินาที ในรุ่น CLE 450 4MATIC
มาพร้อมกับระบบช่วงล่างที่เตี้ยลงกว่าเดิม 15 มม. รวมไปถึงการติดตั้งระบบบังคับเลี้ยวล้อหลัง 2.5 องศาส่งผลให้รัศมีวงเลี้ยวแคบลงเมื่อเทียบกับ C-Coupe Mercedes-Benz CLE Cabriolet จะเปิดตัวหลังเวอร์ชันคูเป้ ตั้งแต่ต้นปีหน้า ทางด้านเมืองไทยมาแน่นอนช่วงปีเดียวกัน
ที่มา Motor 1
