More

    เห็นจะๆ Polestar 4 พวงมาลัยขวาวิ่งทดสอบในไทย

    หลังจากได้เผยแพร่ภาพหลุด Polestar 4 เวอร์ชันพวงมาลัยขวาจอดใต้คอนโดแห่งหนึ่งใจกลางกกรุงจนเรียกเสียงฮือฮาอย่างมากว่าแบรนด์ดาวเหนือเตรียมขายไทย 

    Polestar

    ล่าสุดผู้ใช้ Facebook รายหนึ่งแชะภาพรถยนต์ Polestar 4 จอดรถบริเวณที่ชาร์จรถอีวี The one วัดลาดปลาดุกโดยเป็นคันเดียวกันที่ติดป้าย TC  เลขทะเบียนเดียวกัน ไม่ปิดอำพรางตัวเห็นทั้งคัน เพื่อนำมาทดสอบในไทยเพื่อส่งข้อมูลไปยังบริษัทแม่เพื่อปรับให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมเมืองไทย รุ่นใหม่ค่ายดาวเหนือรุ่นนี้เปิดตัวที่งาน SHANGHAI Auto Show เมื่อปีกลาย พัฒนาใหม่หมดและไม่เกี่ยวข้องกับ Polestar 3 ในร่างคอมแพ็คเอสยูวีทรงคูเป้

    Polestar 4

    หล่อโดนใจสาวกตั้งแต่ โลโก้ดาวเหนือบนขอบฝากระโปรงหน้า ในชุดกระจังหน้าปิดทึบทั้งแผงประกบกับไฟหน้า LED ดีไซน์ใบมีดคู่ ชุดกันชนหน้าพร้อมช่องระบายอากาศทรงสปอร์ตเสริมสเกิร์ตในตัว ด้านข้างเก๋ด้วยที่เปิดประตูดีไซน์ซ่อนรูปเรียบเนียนกับกระจกไร้กรอบหรือ Hardtop แบบโอเปร่า กระจกมองข้างดีไซน์เอกลักษณ์ หลังคารถที่ลาดลง ไฟท้าย LED ดีไซน์ U คว่ำ แนวยาว จุดสังเกตรุ่นนี้ไม่มีกระจกหลังบานใหญ่มาให้มาเป็นแนวปิดทึบ ล้ออัลลอยมีให้เลือกตั้งแต่ขนาด 20- 22 นิ้ว พร้อมยางขนาด 265/40 R22 จากค่าย Pirelli หรือ Michelin

    ตัวรถสร้างจากพื้นฐาน Sustainable Experience Architecture (SEA) ถึงแม้วางตำแหน่งการตลาดให้เล็กกว่า Polestar 3 มิดไซซ์เอสยูวี ด้วยความยาว 4,839 มิลลิเมตร ความกว้าง 2,139 มิลลิเมตร ความสูง 1,544 มิลลิเมตร น้ำหนักรถ 2,170 กิโลกรัม ฐานล้อ 2,999 มิลลิเมตร

    Polestar

     

    ภายในหรูดูดีด้วยจอมาตรวัดดิจิตอลขนาดใหญ่ 10.2 นิ้ว กับจอสัมผัสเชื่อมต่อระบบความบันเทิงและการสื่อสารขนาดใหญ่ 15.4 นิ้ว พัฒนาร่วมกับ Google  รองรับ Android Automotive OS มีคุณสมบัติในตัวของ Android เช่น Google Maps, Google Assistant Google Play Store และรองรับ Apple CarPlay พร้อมลำโพง Harman Kardon 12 จุด กำลังขับ 1,400 วัตต์ และยังอัปเกรดเพิ่มลำโพงฝังที่พนักพิงศรีษะด้านหน้าแต่ละข้าง รวมทั้งหมด 16 จุด

    พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้านจอ Head-Up Display ขนาด 14.7 นิ้วพร้อมสีข้อความในจอ HUD เป็นสีเหลือง ก็มีมาให้ ที่เปิดประตูภายในดีไซน์เก๋ เบาะนั่งหุ้มด้วยวัสดุหนัง NAPPA, ผ้าไมโครเท็กซ์ Bio-attributed MicroTech และหนังที่ทำจากหนังสัตว์ที่ผ่านมาตรฐานหลักสวัสดิภาพสัตว์หรือ Animal welfare พร้อมเบาะหลังมีพื้นที่วางของ 500 ลิตรในกรณีไม่พับเบาะแต่ถ้าพับเบาะแบบ 60/40 จะมีพื้นที่มากถึง 1,536 ลิตร พรมปูพื้นทำจาก ECONYL เข็มขัดนิรภัยสีเหลืองทุกเส้น เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมระบบฟอกอากาศ Air particle filter สร้างบรรยากาศอันอบอุ่นด้วยไฟ Ambient lighting มีที่ชาร์จมือถือไร้สาย และหลังคารถแบบพาโนรามิกซันรูฟ

    Polestar 4ขุมพลังขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้าล้วนที่มีแบตเตอรี่ประเภทลิเธียมไอออนที่มีความจุแบต 102 kWh ที่มีถึงสองทางเลือกเริ่มที่รุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว ให้กำลัง 272 แรงม้า แรงบิด 343 นิวตันเมตร วิ่งไกลสุดต่อการชาร์จหนึ่งครั้งทำได้ 600 กิโลเมตรตามาตรฐาน WLTP อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 7.4 วินาที ความเร็วสูงสุด 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมงและรุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ขับเคลื่อนสี่ล้อ permanent magnet synchronous motor ให้กำลังสูงสุด 544 แรงม้า แรงบิด 686 นิวตันเมตร วิ่งไกลสุดต่อการชาร์จหนึ่งครั้งทำได้ 560 กิโลเมตรตามาตรฐาน WLTP อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 3.8 วินาที ความเร็วสูงสุด 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

    ทั้งคู่การชาร์จแบบกระแสตรงหรือชาร์จเร็ว DC รองรับการชาร์จสูงสุด 200 kW ภายใน 28 นาที แบบ CCS2 และชาร์จแบบกระแสสลับหรือขาร์จช้า AC รองรับการชาร์จสูงสุด 22 kW ภายใน 5.15 ชั่วโมง แบบ Type 2 คู่กับเกียร์อัตโนมัติ Single Speed มาพร้อม SuperVision Advanced Driver Assistance System จาก Mobileye ที่มีกล้อง 12 ตัว เรดาร์ 1 ตัว และเซนเซอร์อัลตราโซนิก 12 ตัวเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน

    Polestar

    Polestar 4 ผลิตที่จีนตั้งแต่พฤศจิกายน 2023 ผลิตที่โรงงานที่เมืองหางโจว ประเทศจีน และเมืองบูซาน ประเทศเกาหลี ด้านเมืองไทยเตรียมที่จะขายเร็วๆนี้และอาจมาพร้อมกับรุ่นอื่นๆและถ้ามีความคืบหน้าเกี่ยวกับค่ายรถยนต์ดาวเหนือรายนี้จะนำมาเสนอในครั้งต่อไป

    ที่มาภาพคุณ Nott และ Cholatit Chonboonyadej 

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts