ในขณะที่เมืองไทยเตรียมพบเจเนอเรชันใหม่ของยอดรถลักชัวรีแวน Toyota Alphard และ Toyota Vellfire อย่างเป็นทางการในวันที่ 16 สิงหาคม
ปรากฏว่า อินโดนีเซียเล่นบทเสือปืนไวเปิดตัวพร้อมขายอย่างเป็นทางการ ประเดิมขาย Toyota Alphard เจเนอเรชันที่ 4 ที่งาน Gaikindo Indonesia International Auto Show (GIIAS) 2023 นำพื้นฐานจาก Lexus LM เจเนอเรชันที่สองปรับสไตล์เป็นตัวของตัวเองตั้งแต่
- กระจังหน้าโครเมียมพร้อมโลโก้สามห่วงครั้งแรกที่นำมาใช้ใน Alphard พร้อมไฟหน้าแบบ LED 3 ดวง
- ไฟ Daytime Running Lights ไฟเลี้ยวหน้า-หลังแบบ Sequential
- กระจังหน้าดีไซน์แนวนอน 6 ชั้นกับชุดกันชนหน้า-กันชนหลังดีไซน์หรู
- ไฟตัดหมอกหน้า LED
- ด้านข้างมีเอกลักษณ์ด้วยสัญลักษณ์ตัวอักษร Alphard และตราโลโก้เฉพาะ บริเวณประตูคู่หน้าตรงเสา B
- เสริมคิ้วโครเมียมเด่นทั้งกรอบกระจกทุกส่วน
- กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว LED ทรงสปูน
- ที่เปิดประตูโครเมียมแบบดึงก้านออกแบบหลุมก้านเปิดประตูให้เรียบเนียนกับตัวถัง
- ล้ออัลลอยมีให้เลือกถึง 2 ขนาดตั้งแต่ ขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง 225/65R17 ขนาด และใหญ่สุด 19 นิ้ว พร้อมยาง 225/55R19
- ด้านท้ายยังดูดีกว่าเดิมด้วยชุดแผงป้ายทะเบียนติดตรา Alphard ที่ออกแบบเว้นช่องว่าของตัวอักษรให้สวยงาม ข้างบนของชุดแผงป้ายทะเบียนติดตราสามห่วงไว้
- สองฝั่งประดับด้วยไฟท้าย LED แบบเป็นเกล็ดเสริมขอบโครเมียมไว้กรอบไฟท้ายพร้อมฝาท้ายเปิดปิดด้วยระบบไฟฟ้า
- ประตูสไลด์ 2 บาน เปิดปิดด้วยระบบไฟฟ้า
- หลังคามูนรูฟ 2 บานตรงกลางซ้าย-ขวา
- สร้างบนพื้นฐาน TNGA (GA-K) ใหญ่ขึ้นทุกมิติตั้งแต่ความยาว 4,995 มม. ความกว้าง 1,850 มม. ความสูง 1,945 มม. ฐานล้อ 3,000 มม.
ภายในอลังการกับงานออกแบบที่หรูหราตอบโจทย์ผู้นำเริ่มที่
- ชุดแผงคอนโซลหน้าที่ไปคล้ายกับ Lexus LM บุด้วยหนังสัมผัสเดินด้ายอย่างประณีต ตกแต่งด้วยลายไม้
- จอสัมผัสขนาดใหญ่ตั้งแต่ 14 นิ้ว
- รองรับการเชื่อมต่อผ่านแอป T-Connect เชื่อมต่อได้ทั้ง Apple CarPlay และ Andorid Auto
- ถัดลงมาเป็นปุ่มการทำงานของจอสัมผัสและเครื่องปรับอากาศแยกอุณหภูมิ
- มาตรวัดดิจิทัล 12.3 นิ้ว
- พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้านออกแบบใหม่หุ้มหนังผสมลายไม้
- จอแสดงข้อมูลการขับขี่เหนือแผงคอนโซลหน้า Head-Up Display
- ชุดเบาะนั่ง VIP Captain Seat ดีไซน์หรูโอบกระชับกว่าเดิม
- จอการทำงานดีไซน์คล้ายกับสมาร์ตโฟนขนาด 5.5 นิ้ว ติดเบาะนั่ง VIP ซ้าย-ขวา สำหรับการปรับเบาะและควบคุมระบบความบันเทิงกับแอร์ได้
- ไฟสร้างบรรยากาศแบบ LED 64 สีบนหลังคา
- ลำโพงคุณภาพพรีเมียม JBL 15 จุด
- ลำโพงมาตรฐาน 8 กับ 10 จุดให้เลือก
- ช่องชาร์จแบบเสียบสายผ่าน USB-C ทั้ง 2 จุด
- ที่ชาร์จมือถือไร้สาย
ขุมพลังที่มีทั้งแบนซินล้วนและเบนซิน Hybrid เบนซินใหม่ Dynamic Force A25A-FXS 2.5 ลิตร ให้กำลังถึง 190 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 236 นิวตันเมตร ที่ 4,300-4,500 รอบ/นาทีในภาคเครื่องยนต์ ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าหน้าแบบ 5NM ให้กำลัง 182 แรงม้า แรงบิด 270 นิวตันเมตร และมอเตอร์ไฟฟ้าหลังแบบ 4NM 54 แรงม้า แรงบิด 121 นิวตันเมตรและแบตเตอรี่ Hybrid แบบ Nickel-Metal ทำงานร่วมกันได้กำลังสูงถึง 250 แรงม้าแรงบิด 315 นิวตันเมตร จับคู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ ECVT พร้อม Manual Mode 6 สปีด ในรุ่นขับเคลื่อนสองล้อหน้า
และยังมีเบนซินยอดนิยมยกมาจาก Alphard เจนที่ 3 กับขนาด 2.5 ลิตร Dual VVT-I 2AR-FE 182 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาทีแรงบิดสูงสุด 235 นิวตันเมตร ที่ 4,100 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i 7 สปีด Sequential Shift มาประจำการด้วยเลือกได้ทั้งขับเคลื่อนล้อหน้า
พร้อมช่วงล่างอิสระ 4 ล้อ ด้านหน้าอิสระแมคเฟอร์สันสตรัทและด้านหลังอิสระ Double Wishbone เสริมเหล็กกันโคลงและตัวค้ำโช้คเพิ่มประสิทธิภาพในการเกาะถนนเสริมด้วยพวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้าและระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense ทั้ง
- เตือนการชนด้านหน้า Pre-Collision System (PCS) สามารถทำงานตอนกลางคืนและเบรกขณะข้ามแยกได้ควบคุมความเร็วและระยะห่างหน้ารถแบบทุกย่านความเร็ว All-Speed Dynamic Radar Cruise Control (DRCC) พร้อมหยุดและเคลื่อนรถอัตโนมัติ
- เตือนรถออกนอกเลนพร้อมพวงมาลัยช่วย Lane Departure Alert (LDA)
- ช่วยให้รถอยู่ตรงกลางแม้ไม่มีเส้นจราจร LTA (Lane Tracing Control)
- ช่วยเปลี่ยนเลนอัตโนมัติ Lane Change Assist (LCA) เปิด-ปิด
- ไฟสูงอัตโนมัติ Auto High Beam (AHB) พร้อมไฟสูงปรับการกระจายแสงอัตโนมัติ Adaptive High Beam System (AHS)
- อ่านป้ายจราจร Traffic Sign Recognition (TSR)
- เตือนเมื่อรถเคลื่อนที่ไปข้างหน้า Traffic Movement Notification (TMN)
- หักเลี้ยวสิ่งกีดขวางอัตโนมัติ PDA (Proactive Driving Assist)
- ช่วยลดความเร็วขณะเข้าโค้ง Curve Speed Reduction (CSR)
- เตือนมุมอับด้านหน้า FCTA (Front Cross Traffic Alert)
- เตือนรถด้านข้าง Blind Spot Monitoring (BSM)
- เตือนขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
- เตือนขณะออกจากรถ Safe Exit Assist (SEA)
- กระจกมองหลังแสดงภาพจากกล้องด้านหลัง
- ล้างเลนส์กล้องจากการฉีดน้ำ
- เซนเซอร์รถอัจฉริยะสามารถเบรกอัตโนมัติเมื่อเจอสิ่งกีดขวาง Intelligent Clearance Sonar
- ถุงลมนิรภัยรอบคัน
Toyota Alphard จำหน่ายสามรุ่นย่อยในอินโดนีเซียทั้งรุ่น 2.5 X Sport Order, 2.5 X และ 2.5 HEV เริ่ม Rp.1,356,100,000-1,657,000,000 หรือราว 3,126,000-3,820,000 บาท ส่วนเมืองไทยพบกันมาทั้งสองรุ่นทั้ง Toyota Alphard และ Toyota Vellfire โดยสเปกที่ขายโดย Toyota Motor ประเทศไทยจะเป็นอย่างไร 16 สิงหาคม มีคำตอบ
ที่มา Toyota Indonesia