More

    Volvo EM90 วิ่งไกล 738 กม. ออกจากไลน์ผลิตที่เมืองจีน เริ่ม 4 ล้านต้นๆ

    นับตั้งแต่ Volvo EM90 เอ็มพีวีพลังอีวีรุ่นแรกของค่ายเปิดตัวก็ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นที่สุดรถหรูตอบโจทย์ผู้บริหารยุคใหม่อย่างแท้จริงVolvo

     

    ล่าสุด Volvo ก็ได้เปิดสายการผลิตอย่างเป็นทางการโดยคันแรกที่ออกจากสายการผลิตนั้นเกิดขึ้นที่โรงงานในเมืองหนิงโป มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีนและพร้อมส่งมอบให้กับลูกค้าที่ได้จองล่วงหน้า สำหรับ Volvo EM90 ได้แรงบันดาลใจจากตำนานคลาสิก Volvo DUETT เอสเตททรงเอ็มพีวีขับเคลื่อนล้อหลังที่จำหน่ายตั้งแต่ปี 1953-1969 ผสมผสานกับความทันสมัยด้วยหน้าตาหรูสไตล์สวีแดนตั้งแต่ไฟหน้า Matrix LED ดีไซน์ค้อน Thor Hammer อันเป็นเอกลักษณ์พร้อมกระจังหน้าทรงทึบติดตราโลโก้ Iron Mark เรืองแสง

    ขอบฝากระโปรงหน้าที่หนากว่าเดิม ด้านข้างอลังการดับดีไซน์ทั้งรูปแบบเสา A จนถึงเสา D กระจกเล็กบริเวณเสา A ดีไซน์กระจกเสา B ที่เล่นระดับต่อเนื่องจนถึงเสา C กระจกมองข้างทรงสปูนทรงใหญ่ ประตูสไลด์ไฟฟ้าเปิดได้สองข้าง หลังคาพาโนรามิกซันรูฟแบบคู่สองบานทั้งบานเล็กฝั่งคนขับตอนหน้าและบานใหญ่ฝั่งผู้โดยสาร เสาอากาศแบบครีบฉลาม ด้านท้ายเห็นไฟท้าย LED แนวยาวสองฝั่งติดตราตัวอักษร Volvo แบบเว้นช่องเรืองแสงในชุดฝาท้ายขนาดใหญ่พร้อมสปอยเลอร์หลัง

    ล้ออัลลอยลายสปอร์ตปัดเงาขนาด 19 นิ้วพร้อมยาง 255/50R19 และขนาดใหญ่ 20 นิ้ว พร้อมยาง 265/45R20 สร้างจากแพลตฟอร์ม SEA (Sustainable Experience Platform) ของ GEELY พื้นฐานร่วมกันกับ ZEEKR 009 โดยตัวรถมีความยาว 5,206 มิลลิเมตร ความกว้าง 2,024 มิลลิเมตร ความสูง 1,859 มิลลิเมตร ฐานล้อเท่ากันกับรุ่น 009 อยู่ที่ 3,205 มิลลิเมตร น้ำหนักรถ 2,763 กิโลกรัม

    Volvo EM90 Concept World Stills

    ภายในแบบอลังการงานสร้างในรูปแบบสามแถวหกที่นั่งแบ่งเป็น 2-2-2 ที่นั่ง โดยเบาะนั่งตอนที่สองแบบ VIP lounge พร้อมระบบระบายอากาศ มีโต๊ะพับสำหรับนั่งทำงาน พร้อมสวิตช์ควบคุมบนแผงประตู มีพื้นที่บรรทุกของด้านท้ายเมื่อพับเบาะตอนที่สามมากถึง 1,826 ลิตร เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติแบบแยกอุณหภูมิสามโซนพร้อมไส้กรองเครื่องปรับอากาศทรงประสิทธิภาพสูงและระบบฟอกอากาศแบบแอคทีฟซึ่งสามารถขจัดฝุ่นละออง PM2.5 ได้มากถึง 95%

    คอนโซลหน้าดีไซน์เรียบง่าย พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้าน ประกอบด้วยมาตรวัดความเร็วแบบสีแนวนอน  พร้อมจอสัมผัสระบบความบันเทิงขนาด 15.4 นิ้ว หน้าจอบนหลังคาขนาด 15.6 นิ้ว ชัดแบบ High-Definition พร้อมระบบปฏิบัติการ Snapdragon รองรับเชื่อมต่อ 5G ยังติดตั้งลำโพง Bowers & Wilkinson จำนวน 21 ตัว รวมถึงลำโพงที่ติดตั้งไว้ในพนักพิงศีรษะของเบาะด้วย กำลังขับรวม 2,460W ไฟสร้างบรรยากาศ Ambient Light

    ขุมพลังไฟฟ้าจะมีทั้งแบบมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลังเท่านั้นให้กำลังถึง 272 แรงม้า แรงบิด 343 นิวตันเมตร ความจุแบตแบบ Lithium Nickel Manganese Cobalt Pack จาก CATL ขนาดใหญ่ ทั้งแบบ 116 kWh วิ่งไกลสุด 738 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน CLTC สามารถชาร์จกระแสตรง DC iระดับ 10 ถึง 80% ภายในเวลา 28 นาที และชาร์จกระแสสลับ AC โดยให้อัตราเร่ง 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 8.3 วินาที

    รุ่นนี้เป็นหนึ่งในหกรุ่นที่เน้นทำตลาดรถไฟฟ้าล้วนมาตั้งแต่ปี 2023 ทั้งเอสยูวี เอ็มพีวี รถเก๋ง เอสเตท สอดรับกับนโยบายของค่ายฯ ภายในปี 2030 เน้นขายรถยนต์พลังอีวีอย่างเดียว ประเดิมขายที่แรกประเทศจีนตั้งแต่เดือนมีนาคมปี 2024 มีทั้งหมด 4 สีภายนอกตั้งแต่สีครีม Palladium Sand, สีเทาเข้ม Tidal Grey, สีขาว Crystal White และสีดำ Onyx Black ในราคาเริ่มต้น 818,000 yuan หรือราว 4,085,000 บาท ส่วนเมืองไทยจะมีโอกาสนำเข้ามาขายเวอร์ชันพวงมาลัยขวาหวังเป็นมือพิฆาตอัครเอ็มพีวีแดนอาทิตย์อุทัยได้หรือไม่ต้องติดตาม

    ที่มา  AUTOHOME

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts