More

    Nissan Qashqai 2025 มาดใหม่สปอร์ตเอสยูวีสไตล์คนเมือง

    เปิดตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับ Nissan QASHQAI เจนสามรุ่นปรับโฉมพื้นฐาน Nissan X-Trail สานต่อความสำเร็จทั้งในยุโรป ออสเตรเลีย และบางประเทศ

    Nissan

     

    หน้าใหม่ปรับครั้งแรกในรอบสามปีในร่างรหัส J12 ตั้งแต่กระจังหน้าดีไซน์ใหม่ลายรังผึ้งขนาดใหญ่พร้อมคิ้วโครเมียมแนวนนอนกับโลโก้ นิสสัน พร้อมชุดไฟหน้า LED ดีไซน์ใหม่ที่ประกอบด้วยส่วนนบนเส้นแนวนอนนั่นคือไฟเลี้ยวและไฟ DRL แบบ LED ทำงานร่วมกับไฟ DRL รูปตัวแอลห้าตัวใต้โคมไฟหน้า LED matrix ทรงสามเหลียมดวงเล็ก ในชุดกันชนหน้าพร้อมช่องระบายอากาศทรงสี่เหลี่ยมคางหมู และไฟตัดหมอกหน้า LED

    ด้านข้างคงเดิมด้วยหลังคารถทรงเรียวพร้อมหลังคาดำ กระจกมองข้างทรงสปูน คิ้วชายล่างประตู ไฟท้าย LED ดีไซน์บูมเมอแรงใหม่ เด่นไม่ซ้ำใคร ประตูท้ายเปิด-ปิดอัตโนมัติ ให้ความสบายในการขนถ่ายสัมภาระ ล้ออัลลอยลายใหม่ ขนาด 17 นิ้วพร้อมยาง 215/65 R17 ขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 235/55R18 19 นิ้ว พร้อมยาง 235/50 R19 และใหญ่สุดลาย Diamond Cut 20 นิ้ว พร้อมยาง 235/45R20

    Nissan

    ภายในใหม่ปรับปรุงในส่วนซอฟท์แวร์ระบบจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว มาพร้อมเทคโนโลยีอันล้ำสมัยเพื่อเชื่อมต่อผู้ใช้งานกับรถได้อย่างลงตัว อาทิ Google built-in ที่มาพร้อมแอปและบริการของ Google (มีจอสัมผัสขนาด 7 กับ 9 นิ้วให้เลือก) เชื่อมต่อความบันเทิงด้วย Nissan Connect รองรับ Apple CarPlay Android Auto มาตรวัดขนาดใหญ่แบบดิจิทัลเต็มรูปแบบ 12.3 นิ้ว (มี 7 นิ้วให้เลือก) จอแสดงข้อมูลเหนือคอนโซลหน้าสี head-up display ขนาด 10.8 นิ้ว พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้านทรงท้ายตัด พร้อมหุ้มหนังสัมผัส Alcantara ทั้งในคอนโซลหน้า คอนโซลกลางพร้อมที่พักแขน ขอบแผงประตู

    ชาร์จมือถือไร้สาย wireless charging เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติแยกส่วนซ้าย-ขวา นอกจากนี้ ประตูคู่หลังสามารถเปิดกว้างถึง 90 องศา สามารถเข้าออกได้สบายไร้กังวลแต่อย่างใดและเบาะนั่งคนขับปรับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทางและเบาะหลังพับได้แบบ 60/40

    Nissanขุมพลังมาครบขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละประเทศเริ่มที่ เบนซินเทอร์โบ DIG HR13DDT 1.3 ลิตร 150 แรงม้าที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิด 250 นิวตันเมตรที่ 1,600-3,750 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Xtronic CVT ในรุ่นขับเคลื่อนสองล้อหน้า สำหรับออสเตรเลียและบางประเทศ

    สเปกยุโรปได้ขุมพลัง Mild Hybrid Turbo DIG 1.3 ลิตร 140 แรงม้าที่ 5,000 รอบต่อนาที แรงบิด 240 นิวตันเมตรที่ 1,600 รอบต่อนาที และ 159 แรงม้าที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิด 260 นิวตันเมตรที่ 1,750 รอบต่อนาที ในรุ่นเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ขับเคลื่อนสองล้อ และรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ เกียร์อัตโนมัติ Xtronic CVT ได้ขนาด 1.3 ลิตร Mild Hybrid DIG มากสุด 159 แรงม้าที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิด 270 นิวตันเมตรที่ 1,750 รอบต่อนาที

    ขุมพลัง e-Power สำหรับ เปกยุโรป ออสเตรเลียและบางประเทศด้วยขุมพลังเบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตร 3 สูบ รหัส KH5T ให้กำลังถึง 158 แรงม้าที่ 4,600 รอบต่อนาที แรงบิด 250 นิวตันเมตรที่ 2,400-4,400 รอบต่อนาที จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังถึง 190 แรงม้าที่ 4,500-7,500 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิด 330 นิวตันเมตรที่ 0-3,000 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Single speed constant ratio

    Nissanพร้อมอินเวอร์เตอร์ และ แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนความจุ 2 kWh ทำงานร่วมกันเน้นให้มอเตอร์ขับเคลื่อนและเครื่องยนต์ทำหน้าที่ปั่นไฟเท่านั้น พร้อมกันนี้ยังติดตั้งระบบ e-Pedal ซึ่งใช้คันเร่งในการกดเร่งแซงและชะลอความเร็วในชุดเดียวกัน

    ชุด e-Pedal พัฒนาใหม่นี้สามารถชะลอหยุดจนถึงจุดหยุดนิ่งคิดเป็นแรงจีมากถึง 0.2 G แต่ไม่ถึงหยุดสนิท พร้อมความปลอดภัยที่เพิ่มเข้ามาทั้งระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ที่ผู้ขับกำหนดเอง พร้อมเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB เวอร์ชันใหม่ และเพิ่มรักษาช่องทางฉุกเฉิน lane keeping system ในรุ่นเริ่มต้นจากเดิมมีให้ในรุ่นกลางและรุ่นท็อป

    NissanNissan Qashqai รุ่นปรับโฉมประกอบที่อังกฤษที่โรงงานในเมือง Sunderland โดยมีสีภายนอกทั้งหมด ดังนี้ สีขาวมุก Pearl White, สีฟ้า Deep Ocean, สีแดง Fuji Red, สีทูโทนหลังคาดำมีทั้ง สีน้ำเงิน Magnetic Blue และสีเทา Ceramic Grey เริ่มรับจองที่ยุโรปกลางปี 2024 ทางด้านออสเตรเลียเริ่มขายปลายปีนี้

    ที่มา Nissan และ Carsales

     

     

     

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts