More

    Mitsubishi Pajero 2027 สายลุยเจนใหม่จ่อใช้แพลตฟอร์ม Outlander

    หลังจากที่แฟนๆขาลุยทราบข่าวว่า Mitsubishi Pajero เจเนอเรชันที่ 5 เตรียมกลับมาโลดแล่นบนถนนสายลุยในปี 2027 หลังลากจากกันไปเมื่อสามปีก่อน

    Mitsubishi

    แต่การมาครั้งนี้อาจทำให้แฟนๆต้องผิดหวังไปตามๆกันเมื่อสื่อออสเตรเลียอ่ย่าง Carexpert อ้างอิงข้อมูลจากสื่อญี่ปุ่นอย่าง BestCarWeb ว่า Mitsubishi Pajero เจเนอเรชันที่ 5 เตรียมที่จะใช้ตัวถังแบบโมโนค็อกแบบเต็มๆ ม่ได้ใช้แชสซีส์ขั้นบันไดจาก Mitsubishi Triton เจนใหม่ หรือแม้กระทั่งเอามาจากเพื่อนร่วมชายคาอย่าง Nissan PATROL เจนใหม่ แต่เป็นการหยิบยืมแพลตฟอร์มจาก Mitsubishi Outlander แบบ CMF-C/D ด้วยการนำแพลตฟอร์มรถไฟฟ้า CMF-EV มาพัฒนานั่นอง (เดิมเคยใช้ร่วมกันทั้งโมโนคอกและแชสซีสขั้นบันไดตั้งแต่เจนที่ 3-4)

    ตัวรถมีความยาว 4,900 มิลลิเมตร กว้าง 1,900 มิลลิเมตร สูง 1,850 มิลลิเมตร ซึ่งเกือบจะเหมือนกับ Pajero เจนที่แล้วโดยมีความยาวเท่ากัน แต่แคบกว่า 25 มิลลิเมตร และสูงกว่า 50 มิลลิเมตร และเหตุที่หันมาคบกับ โมโนค็อก เพื่อหวังความสบายในการเดินทาง

    Mitsubishi

    และขุมพลังอาจยกมาจาก Mitsubishi Outlander ทั้ง เบนซิน MIVEC ขนาด 2.4 ลิตร รหัส 4B12 ให้กำลังถึง 128 แรงม้าที่ 5,000 รอบต่อนาที แรงบิด 195 นิวตันเมตรที่ 4,300 รอบต่อนาที จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว สูงถึง 116 แรงม้า แรงบิด 255 นิวตันเมตรในมอเตอร์ตัวหน้า S91 และ 136 แรงม้า แรงบิด 195 นิวตันเมตรในมอเตอร์ตัวหลัง YA1 เชื่อมต่อกับระบบแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนเพิ่มความจุเป็น 20 kWh ให้กำลังรวมสูงสุด 380 แรงม้า ถ้าวิ่งด้วยโหมดไฟฟ้า EV อย่างเดียว วิ่งได้ไกลมากถึง 83 กับ 87 กิโลเมตร ชาร์จได้ทั้งชาร์จกระแสตรง DC และกระแสสลับ AC

    Mitsubishi

    เบนซินล้วนมีสองรูปแบบทั้งขนาด 2.5 ลิตร รหัส PR25DD 184 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 245 นิวตันเมตรที่ 3,600 รอบต่อนาที และเบนซินเทอร์โบรหัส 4B40 Turbo 1.5 ลิตร 215 แรงม้าที่ 5,000 รอบต่อนาที แรงบิด 280 นิวตันเมตรที่ 3,000-3,500 รอบต่อนาที จับคู่กับระบบ Mild Hybrid หรือ MHEV 48 V ทั้งมอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ขนาดเล็กสุดไว้สร้างพละกำลังให้แรงเร็วขึ้นกว่าเดิม จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT 8 สปีด ทั้งสามความแรงติดตั้งระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Super-All Wheel Control มีทั้งหมด 7 โหมด ตั้งแต่โหมด NORMAL”, “ECO”, “POWER”, “TARMAC”, “GRAVEL”, “SNOW” และ “MUD” และขับเคลื่อนล้อหน้า

    จับตาแล้วว่าตำนานสายลุยเจนใหม่ที่จะเริ่มสายการผลิตในอีกสามปีข้างหน้าการออกแบบพัฒนาและเทคโนโลยีจะลงเอยในรูปแบบไหนต้องติดตาม

    ที่มา Carexpert

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts