สามปีของการทำตลาดจนได้รับการขนานนามเจ้าจิ๋วบ้าพลังสำหรับ Toyota GR Yaris ล่าสุดเปิดตัวรุ่นปรับโฉมครั้งแรกอยางเป็นทางการที่ญี่ปุ่น
สิ่งที่เปลี่ยนไปเริ่มที่ชุดกันชนหน้าออกแบบช่องระบายอากาศดีไซน์ใหม่ให้กรอบด้านข้างซ้าย-ขวาช่องใหญ่ขึ้นเป็นแนวตั้งถึงสองช่อง ช่องระบายอากาศส่วนกลางบนและล่างออกแบบหลอมรวมกับกรอบด้านข้างให้เป็นหนึ่งเดียวพร้อมตราสามห่วงในชุดกระจังหน้าทรงปีกประกบกับไฟหน้า LED ฝากระโปรงหน้า-หลัง และประตูซ้าย-ขวา ผลิตจากอลูมิเนียม สามารถลดน้ำหนักของตัวรถให้น้อยลง หากยังคงไว้ซึ่งความแข็งแกร่งและทนทาน หลังคาคาร์บอนไฟเบอร์หล่อขึ้นรูป ช่วยให้น้ำหนักลดน้อยลงแล้ว ยังช่วยให้ตัวรถมีจุดศูนย์ถ่วงต่ำลง ด้านท้ายออกแบบใหม่ ไร้ตราสามห่วง ออกแบบสปอยเลอร์หลังบนมาท้ายใหม่ย้ายไฟเบรกดวงที่สามไปอยู่ในชุดแผงไฟ LED ส่วนกลางกลมกลืนกับไฟท้าย LED รูปตัวซี กันชนหลังทรงเดิมเปลี่ยนดีไซน์ลิ้นสปอยเลอร์ใหม่แบบสีดำพร้อมท่อกลมเดี่ยวติดตั้งสองฝั่งซ้าย-ขวาบ่งบอกถึงความเข้มเต็มขั้น และล้ออัลลอยลายเดิมสีดำ BBS 8J ขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 225/40ZR18 จาก Michelin Pilot Sport 4S
ตัวรถมาในร่างท้ายตัดสามประตูตากแพลตฟอร์ม TNGA-C ได้ถูกพัฒนาจากประสบการณ์จากทีมรถแข่งมอเตอร์สปอร์ตระดับโลก Toyota Gazoo Racing ด้วยมิติตัวรถขนาดความยาว 3,995 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,805 มิลลิเมตร ความสูง 1,455 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2,560 มิลลิเมตร น้ำหนักตัวรถรวมอยู่ที่ประมาณ 1,280 และ 1,300 กิโลกรัม และความจุถังน้ำมัน 50 ลิตร
ภายในเปลี่ยนใหม่หมดด้วยแผงคอนโซลหน้าออกแบบให้คอนโซลกลางของชุดแผงคอนโซลหน้าทำเว้าเข้าหาคนขับเพื่อการหยิบจับสัมผัสฟังก์ชันต่างๆได้ง่ายขึ้นคล้ายกับรถยนต์ SAAB จาก สวีเดนงานนี้ทันสมัยเสียทีกับมาตรวัดดิจทัลขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว TFT ทดแทนแบบเดิมที่เป็นแบบเข็มกวาดและมีจอ MID แบบสี TFT แนวตั้งราวๆ4-5 นิ้ว พร้อมจอสัมผผัสระบบความบันเทิง เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติแยกอุณหภูมิซ้ายขวา พร้อมช่องแอร์แนวนอน ใต้แผงแอร์มีปุ่มต่างๆทั้งอุ่นพวงมาลัยอุ่นเบาะช่องเสียบ USB พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้านดีไซน์เดิมหุ้มหนังออกแบบพิเศษติดโลโก้ GR เบาะนั่งสปอร์ตคู่หน้าหุ้มด้วยหนังตัดสลับ เบาะหลังพับได้แบบ 60/40 และลำโพงคุณภาพจาก JBL
ขุมพลังคงเดิมเพิ่มเติมด้วยปรับความบ้าบิ่นให้ทวีคูณขึ้นเป็นหลายเท่ากับเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบขนาด 1.6 ลิตร รหัส G16E-GTS 3 สูบ 12 วาล์ว จากแรงน้อยสุด 280 แรงม้าที่ 6,500 รอบต่อนาที แรงบิด 390 นิวตันเมตรที่ 3,250-4,600 รอบต่อนาทีสำหรับขายตลาดโลกแต่ถ้าเป็นญี่ปุ่นเพิ่มกำลังอีกเป็น 304 แรงม้าที่ 6,500 รอบต่อนาที แรงบิด 400 นิวตันเมตรที่ 3,250-4,600 รอบต่อนาทีทั้งสองความแรงจับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 สปีด iMT (Intelligent Manual Transmission) และใหม่เกียร์อัตโนมัติ DAT 8 สปีด GAZOO Racing Direct Automatic Transmission จาก ZF พัฒนาระบบระบายความร้อนใหม่เฉพาะรุ่น Circuit ที่จำหน่ายในยุโรป ทั้งหม้อน้ำ สเปรย์อินเตอร์คูลเลอร์ และระบบไอดีออกแบบใหม่ ติดตั้งชุดทำความเย็นกระปุกเกียร์แบบอัตโนมัติแค่เพียงชุดนี้ชุดเดียวก็ทำให้ตัวรถมีน้ำหนักเพิ่มจากเดิม 18 กิโลกรัม
ช่วงล่างด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สันสตรัทและด้านหลังดับเบิ้ล วิชโบน ออกแบบให้น้ำหนักเบาปรับแต่งเพื่อการขับขี่แบบสปอร์ต ให้การทรงตัวยึดเกาะมั่นคงแม้ขณะเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ GR-Four เลือกโหมดการขับขี่ได้ 3 รูปแบบคือ สามารถเลือกโหมดการทำงานให้เหมาะสมกับสภาพถนนและสไตล์การขับขี่ได้ ที่แยกแรงบิดระหว่างล้อหน้าและล้อหลัง คือ Normal (60/40) Sport (30/70) และ Track (50/50) เพื่อช่วยให้การทรงตัวและยึดเกาะได้อย่างมั่นคงในทุกสภาพถนน แม้ขณะเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง ให้สมรรถนะที่ดีเยี่ยม พร้อม Torsen® LSD (Limited Slip Differential) กระจายแรงบิดระหว่างล้อคู่หน้าและหลังให้สัมพันธ์กับสถานการณ์การขับขี่โดยอัตโนมัติ ช่วยให้ตัวรถมีความสมดุลตลอดเวลา บังคับควบคุมได้ง่าย
ดิสค์เบรกหน้า-หลังขนาดใหญ่พร้อมครีบระบายความร้อนและคาลิปเปอร์เบรกสีแดง ติดตรา GR ด้านหน้าแบบ 4 พอต ขนาดจานหน้า 356 มิลลิเมตร ด้านหลังแบบ 2 พอต ขนาดจานหลัง 297 มิลลิเมตร และ Toyota Safety Sense มั่นใจทุกการขับขี่ ทั้ง Pre-Collision System ความปลอดภัยก่อนการชน Lane Departure Alert with Steering Assist เตือนเมื่อรถออกนอกเลน พร้อมพวงมาลัยหน่วงอัตโนมัติ Automatic High Beams ควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ Dynamic Radar Cruise Control with Lane Tracing Assist ควบคุมและปรับลดความเร็วอัตโนมัติ พร้อมช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางเลน
Boy Toys ต้วเอ้รุ่นปรับโฉมเปิดตัวที่งาน Tokyo Auto Salon 2024 ที่ญี่ปุ่นและพร้อมที่จะขายทั้งญี่ปุ่นและทั่วโลกภายในปีนี้ และเมืองไทยทาง Toyota จะเปิดโควตานำเข้าล็อตใหม่มาหรือไม่ต้องติดตามสำหรับ Toyota GR Yaris
