More

    Honda City Hatchback 2024 มาดใหม่เก๋งท้ายตัด เริ่ม 599,000 บาท

    ในที่สุดก็เปิดตัวเสียทีสำหรับ Honda City Hatchback รุ่นปรับโฉมอย่างเป็นทางการหลังปล่อยให้รุ่นซีดานเปิดตัวไปตั้งแต่ปีกลายด้วยหน้าใหม่หล่อใหม่

    Honda

    Honda City Hatchback รุนปรับโฉม ปรับแบบเดียวกับซีดานเริ่มที่รุ่น S+, SV และ e:HEV SV ตั้งแต่กระจังหน้าดีไซน์ใหม่เน้นช่องระบายอากาศรังผึ้งใหญ่ขึ้นขอบโครเมียมประกบไฟหน้า Projector เปิดปิดอัตโนมัติ พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวัน LED รับกับกันชนหน้าใหม่ กระจกมองพร้อมไฟเลี้ยว ที่เปิดประตูสีเดียวกับตัวรถ ไฟท้าย LED กันชนหลังออกแบบลิ้นสปอยเลอร์สีดำใหม่เน้นเส้นสายส่วนล่างเรียบประดับด้วยไฟเรืองแสงทับทิมหลัง เสาอากาศแบบครีบฉลามสีเดียวกับตัวรถและล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 15 นิ้ว พร้อมยางขนาด 185/60R15

    ในขณะที่รุ่น RS ปรับใหม่เช่นกันเสริมความสปอร์ตรอบคันยิ่งขึ้นและโฉบเฉี่ยวทั้งกระจังหน้าดีไซน์ใหม่เน้นช่องระบายอากาศรังผึ้งใหญ่ขึ้นขอบสีดำเงาประกบไฟหน้า LED พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวัน LED รับกับกันชนหน้าใหม่พร้อมไฟตัดหมอก LED กระจกมองพร้อมไฟเลี้ยวสีดำเงา ที่เปิดประตูสีเดียวกับตัวรถ ไฟท้าย LED กันชนหลังออกแบบใหม่มีลิ้นสปอยเลอร์หลังขนาดใหญ่มาดเข้ม ติดตั้งสเกิร์ตข้างเสริมความสปอร์ต เสาอากาศแบบครีบฉลามสีดำเงา และล้ออัลลอยลายใหม่สีดำเข้มขนาด 16 นิ้วพร้อมยาง 185/60 R16

    Honda

    ภายในมาพร้อมออปชันเต็มคันตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ตั้งแต่ มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว (รุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS) และ TFT 4.2 นิ้วในรุ่น Turbo เครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สายทั้ง  Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย (รุ่น SV, RS, e:HEV SV และ e:HEV RS) เชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย Bluetoothพวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชันปรับระดับ 4 ทิศทาง ควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Paddle Shift) (รุ่น RS และ e:HEV RS)

    ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมช่องปรับอากาศตอนหลัง (รุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS) ระบบเชื่อมต่อ Honda CONNECT (รุ่น RS และ e:HEV RS) ช่องเชื่อมต่อ USB ด้านหน้า 2 ตำแหน่ง ด้านหลังแบบ Type-C 2 ตำแหน่ง (รุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS) ลำโพง 8 ตำแหน่ง (รุ่น RS และ e:HEV RS) สตาร์ตเครื่องยนต์แบบอัจฉริยะ (One Push Ignition System) และควบคุมประตูแบบอัจฉริยะ (Honda Smart Key System)

    การตกแต่งภายในแตกต่างตามบุคลิกเริ่มที่รุ่น S+ กับ SV และ e:HEV SV ด้วยวัสดุตกแต่งคอนโซลหน้าสีเงิน (เฉพาะรุ่น S+) และสีดำ Piano Black (เฉพาะรุ่น SV และ e:HEV SV) วัสดุหุ้มเบาะผ้า (เฉพาะรุ่น S+) และวัสดุหุ้มเบาะหนังแท้และหนังสังเคราะห์สีดำ (เฉพาะรุ่น SV และ e:HEV SV) และมือจับเปิดประตูด้านในตกแต่งโครเมียม ส่วนรุ่น RS และ e:HEV RS เข้มสปอร์ตด้วย วัสดุตกแต่งคอนโซลหน้าสีแดงเมทัลลิกและเบาะนั่งหุ้มเบาะหนังแท้และหนังสังเคราะห์สีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดง ทุกรุ่นเบาะหลังพับได้แบบ 60/40

    Hondaขุมพลังยังคงเดิมทั้ง เบนซิน VTEC Turbo 1.0 ลิตร 3 สูบ รหัส P10A6 ให้กำลังมากถึง 122 แรงม้าที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิด 173 นิวตันเมตรที่ 2,000-4,500 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT 7 สปีด พร้อม Paddle Shift โหมดการขับขี่ ECO

    อีกทางเลือกแห่งความประหยัดกับ เบนซินไฮบริด e:HEV Atkinson Cycle DOHC i-VTEC รหัส LEB-H5 4 สูบ 16 วาล์ว และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน มอบพลัง 98 แรงม้าที่ 5,600-6,400 แรงบิด 127 นิวตันเมตรที่ 4,500-5,000 รอบต่อนาที ในภาคเครื่องยนต์ผสานการทำงานอันทรงพลังร่วมกันของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว (มอเตอร์ที่ทำหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้าและมอเตอร์ที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อ) ให้กำลังได้สูงสุด 109 แรงม้าที่ 3,500-8,000 รอบต่อนาที แรงบิด 253 นิวตันเมตรที่ 0-3,000 รอบต่อนาที พร้อมด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ E-CVT

    ความปลอดภัยเต็มคัน Honda Sensing ที่ครั้งนี้จัดเต็มในรุ่น Turbo จากเดิมมีในรุ่น e:HEV พร้อมเพิ่มออปชันใหม่มานั่นคือ ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (Adaptive Cruise Control: ACC) ทุกรุ่นและรุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (with Low-Speed Follow: with LSF) เตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS) เตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW) ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS) ปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)

    ครบครันด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยระดับพรีเมียม อาทิใหม่ ระบบไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง Rear Seat Reminder เบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake) พร้อม Auto Brake Hold ในรุ่น e:HEV ล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock) กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ (Multi-angle Rearview Camera) ดิสก์เบรก 4 ล้อ ในรุ่น e:HEV  ถุงลมนิรภัยรอบคัน 6 จุด และ 4 จุด เฉพาะรุ่น e:HEV RS ให้ทั้งแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch) และที่ปัดน้ำฝนอัตโนมัติพร้อมระบบหน่วงเวลา

    Honda Hondaรถซิตี้คาร์ท้ายตัดปรับโฉมใหม่นี้มีสีภายนอกมีให้เลือกทั้งหมด 7 สี ได้แก่ สีน้ำเงินออบซิเดียน (มุก) (เฉพาะรุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS) สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) (เฉพาะรุ่น RS และ e:HEV RS) สีขาวแพลทินัม (มุก) (เฉพาะรุ่น SV, RS, e:HEV SV, และ e:HEV RS) สีดำคริสตัล (มุก) สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก) สีเทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก) และสีขาวทาฟเฟต้า (เฉพาะรุ่น S+) ให้เลือก 2 ขุมพลังขับเคลื่อน รวม 5 รุ่นย่อย แบ่งเป็น

    • รุ่น e:HEV RS  ราคา 799,000 บาท (ลดจากเดิม 50,000 บาท)
    • รุ่น e:HEV SV ราคา 769,000 บาท (รุ่นย่อยใหม่)
    • รุ่น RS ราคา 749,000 บาท (ราคาเดิม)
    • รุ่น SV ราคา 679,000 บาท (เพิ่มจากเดิม 4,000 บาท)
    • รุ่น S+ ราคา  599,000 บาท (ราคาเดิม)

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts