หลังจากเปิดตัวอย่างเป็นทางการสำหรับ Honda City Hatchback รุ่นปรับโฉมรุ่นที่ได้รับการตอบรับอย่างดีและชายดีนั่นคือรุ่นท็อปสุด RS
Honda City Hatchback RS รุ่นปรับโฉมหน้าใหม่หล่อใหม่เสริมความสปอร์ตรอบคันยิ่งขึ้นและโฉบเฉี่ยวทั้งกระจังหน้าดีไซน์ใหม่เน้นช่องระบายอากาศรังผึ้งใหญ่ขึ้นขอบสีดำเงาประกบไฟหน้า LED พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวัน LED รับกับกันชนหน้าใหม่พร้อมไฟตัดหมอก LED กระจกมองพร้อมไฟเลี้ยวสีดำเงา ที่เปิดประตูสีเดียวกับตัวรถ ไฟท้าย LED กันชนหลังออกแบบใหม่มีลิ้นสปอยเลอร์หลังขนาดใหญ่มาดเข้ม ติดตั้งสเกิร์ตข้างเสริมความสปอร์ต เสาอากาศแบบครีบฉลามสีดำเงา และล้ออัลลอยลายใหม่สีดำเข้มขนาด 16 นิ้วพร้อมยาง 185/60 R16
ตัวรถมีความคล่องตัวขับสบายด้วยมิติตัวรถตั้งแต่ความยาว 4,369 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,748 มิลลิเมตร ความสูง 1,501 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2,589 มิลลิเมตร ความสูงจากใต้ท้องรถ 147 มิลลิเมตร น้ำหนักรถ 1,187 กับ 1,237 กิโลกรัม และ ความจุถังน้ำมัน 40 ลิตร
ภายในมาพร้อมออปชันเต็มคันตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ตั้งแต่ มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว เครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สายทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย เชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย Bluetoothพวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชันปรับระดับ 4 ทิศทาง ควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Paddle Shift)
ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมช่องปรับอากาศตอนหลัง (รุ่น e:HEV RS) ระบบเชื่อมต่อ Honda CONNECT ช่องเชื่อมต่อ USB Type-A ด้านหน้า 2 ตำแหน่ง ด้านหลังแบบ Type-C 2 ตำแหน่ง (รุ่น e:HEV RS) ลำโพง 8 ตำแหน่ง สตาร์ตเครื่องยนต์แบบอัจฉริยะ (One Push Ignition System) และควบคุมประตูแบบอัจฉริยะ (Honda Smart Key System) การตกแต่งภายในเข้มสปอร์ตด้วย วัสดุตกแต่งคอนโซลหน้าสีแดงเมทัลลิกและเบาะนั่งหุ้มเบาะหนังแท้และหนังสังเคราะห์สีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดง ทุกรุ่นเบาะหลังพับได้แบบ 60/40
ขุมพลังยังคงเดิมทั้ง เบนซิน VTEC Turbo 1.0 ลิตร 3 สูบ รหัส P10A6 ให้กำลังมากถึง 122 แรงม้าที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิด 173 นิวตันเมตรที่ 2,000-4,500 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT 7 สปีด พร้อม Paddle Shift โหมดการขับขี่ ECO อีกทางเลือกแห่งความประหยัดกับ เบนซินไฮบริด e:HEV Atkinson Cycle DOHC i-VTEC รหัส LEB-H5 4 สูบ 16 วาล์ว และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน มอบพลัง 98 แรงม้าที่ 5,600-6,400 แรงบิด 127 นิวตันเมตรที่ 4,500-5,000 รอบต่อนาที ในภาคเครื่องยนต์ ผสานการทำงานอันทรงพลังร่วมกันของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว (มอเตอร์ที่ทำหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้าและมอเตอร์ที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อ) ให้กำลังได้สูงสุด 109 แรงม้าที่ 3,500-8,000 รอบต่อนาที แรงบิด 253 นิวตันเมตรที่ 0-3,000 รอบต่อนาที พร้อมด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ E-CVT
ความปลอดภัย Honda Sensing ที่ครั้งนี้จัดเต็มพร้อมเพิ่มออปชันใหม่มานั่นคือ ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN) ควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (Adaptive Cruise Control: ACC) ในรุ่น e:HEV RS พร้อมปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (with Low-Speed Follow: with LSF) เตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
เตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW) ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS) ปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)
ครบครันด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยระดับพรีเมียม อาทิใหม่ ระบบไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง Rear Seat Reminder เบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake) พร้อม Auto Brake Hold ในรุ่น e:HEV ล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock) กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ (Multi-angle Rearview Camera) ถุงลมนิรภัยรอบคัน 6 จุด เฉพาะรุ่น e:HEV RS ให้ออปชันเพิ่มทั้งแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch) ที่ปัดน้ำฝนอัตโนมัติพร้อมระบบหน่วงเวลาและดิสก์เบรก 4 ล้อ
ซิตี้คาร์ท้ายตัดปรับโฉมใหม่นี้มีสีภายนอกมีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่ สีน้ำเงินออบซิเดียน (มุก) (เฉพาะรุ่น e:HEV RS) สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) สีขาวแพลทินัม (มุก) สีดำคริสตัล (มุก) สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก) สีเทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก) ให้เลือก ดังนี้
- รุ่น e:HEV RS ราคา 799,000 บาท (ลดจากเดิม 50,000 บาท)
- รุ่น RS ราคา 749,000 บาท (ราคาเดิม)