ตลอดห้าปีที่ Nissan JUKE เจนที่สองได้รับการตอบรับอย่างดีทั้งในยุโรป ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และบางประเทศถึงแม้เมืองไทยไม่มีโอกาสได้ขาย
ล่าสุดเปิดตัว Nissan JUKE รุ่นปรับโฉมอย่างเป็นทางการที่หน้าตาเดิมๆไม่เปลี่ยนตั้งแต่กระจังหน้าทรงตัววีหรือ V-Motion ดีไซน์ใหม่ปะโลโก้ Nissan ใหม่ตามยุค ไฟหน้า LED ทรงกลมไส้ในแบบ 3 แฉก สว่างอยู่ใต้ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน DRL แบบ LED เสา A ถึง ไปจนถึงที่เปิดประตูด้านท้ายมุมเดียวกับกระจกหลังตกแต่งด้วยสีดำ กระจกมองข้างทรงสปูนพร้อมไฟเลี้ยว และเสาอากาศครีบฉลาม ไฟท้าย LED สีเข้ม มีตราสัญลักษณ์ Hybrid สปอยเลอร์หลังปรับดีไซน์ให้เข้มขึ้นและ ล้ออัลลอย ขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง 215/60 R17 กับ 19 นิ้ว พร้อมยาง 225/45 R19
ตัวรถมิติเดิมตั้งแต่ความยาว 4,210 มิลลิเมนตร ความกว้าง 1,800 มิลลิเมตร ความสูง 1,595 มิลลิเมตร ฐานล้อ 2,636 มิลลิเมตร น้ำหนักรถ 1,187-1,203 กิโลกรัม และความจุถังน้ำมัน 46 ลิตร
ภายในเปลี่ยนใหม่หมดตั้งแต่ดีไซน์แผคอนโซลหน้าดีไซน์เอียงเข้าหาคนขับมีขลิบสีตกแต่งบนชุดมาตรวัดจอสีดิจิทัล TFT ขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว จากเดิม 7 นิ้ว จอสัมผัสขนาดใหญ่จากเดิม 8 นิ้ว มาเป็นขนาด 12.3 นิ้ว Nissan Connect รองรับการใช้งานแบบไร้สายทั้ง Apple CarPlay Android Auto สามารถสั่งการผ่านมือถือ Smartphone ออกแบบช่องแอร์ใหม่ แบบแนวนอนแทนทรงกลม แท่นชาร์จมือถือไร้สายและช่องเสียบ USB-A / USB-C สำหรับผู้โดยสาร เข้มด้วยเบาะนั่งหุ้มวัสดุกึ่งหนังแท้ผสมหนังกลับอาคันทาราสีดำเดินด้ายขาวและสีดำขลิบสีส้ม
เบาะนั่งหลังพับได้แบบ 60:40 มีพื้นที่วางของตั้งแต่ 422-1,305 ลิตรช่องเก็บของใหญ่ขึ้น ควบคู่ไปกับที่วางแขนตรงกลางออกแบบใหม่ มีเครื่องเสียง Bose พร้อมลำโพง 10 ตำแหน่งรวมลำโพงในหัวหมอนศีรษะ พร้อมพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้านปะโลโก้ Nissan
ขุมพลังมีให้เลือกทั้งเบนซินเทอร์โบ 3 สูบ 1.0 DIG-T รหัส HR10DDT ให้กำลังมากสุด 117 แรงม้าที่ 5,250 รอบต่อนาที แรงบิด 200 นิวตันเมตรที่ 1,750–3,750 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ DCT 7 สปีด และเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ขับเคลื่อนล้อหน้า พร้อมโหมดการขับขี่สามโหมดได้แก่ โหมด Sport/Standard/Eco และเบนซินไฮบริด E-Tech รหัส H4M C6/MU หรือ HR16DE ขนาด 1.6 ลิตร 94 แรงม้าที่ 5,600 รอบต่อนาที แรงบิด 148 นิวตันเมตรที่ 3,200 รอบต่อนาที จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลัง 49 แรงม้า แรงบิด 205 นิวตันเมตร และมอเตอร์ไฟฟ้าอีกตัวทำงานเป็น เครื่องกำเนิดไฟฟ้าแรงดันสูง ขับเคลื่อนล้อหน้าจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ แบตเตอรี่ที่มีความจุ 1.2 kWh ส่งไปยังล้อคู่หน้า ทำงานร่วมกันให้แรงม้าสูงถึง 142 แรงม้า แรงบิด 353 นิวตันเมตร
ให้อัตราสิ้นเปลือง 19.23 กิโลเมตรต่อลิตร ปล่อย CO2 118 กรัมต่อกิโลเมตร โดยถ้าวิ่งในโหมด EV เพียวๆ สามารถให้ความเร็วสูงสุด 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พร้อมความปลอดภัยทั้ง ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ autonomous emergency braking (AEB) with pedestrian and cyclist detection (AEB) พร้อมการตรวจจับคนเดินถนนและนักปั่นจักรยาน แจ้งเตือนการจราจรด้านหลัง rear cross traffic alert การแจ้งเตือนการออกนอกเลน lane departure warning ช่วยรักษาเลน lane keep assist เตือนจุดบอด blind spot warning การจดจำป้ายจราจร traffic sign recognition และตัวจำกัดความเร็วแบบแอคทีฟ active speed-limiter
รุ่นปรับโฉมค่าย Nissan ประกอบที่โรงงานซันเดอร์แลนด์ประเทศอังกฤษ โดยคาดว่าจะเปิดตัวปลายปี 2024 ที่ออสเตรเลียส่วนยุโรปไม่นานเกินรอ
ที่มา Carsales