ใกล้เป็นความจริงทุกขณะแล้วสำหรับกระบะรุ่นแรกของค่ายกับ BYD Pickup เตรียมพร้อมจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการประเดิมที่เมืองจีนเป็นที่แรก
BYD Pickup ว่ากันว่าเป็นทายาทลำดับใหม่ของตระกูล Ocean จากเดิมจะมีทั้ง BYD ATTO3, BYD Dolphin, BYD SEAL, BYD Seagull และ BYD SEAL U ดีไซน์ดุแกร่งเมื่อเทียบจากภาพสิทธิบัตรเริ่มที่กระจังหน้าพร้อมตรา BYD ตัวบิ๊กล้อมกรอบด้วยไฟหน้าแนวตั้ง Dual LED ไฟหน้า DRL แบบ LED รูปตัว C บึกบึนกับชุดกับชนหน้าดีไซน์ลงตัวกับชุดกระจังหน้าสง่าด้วยหลังคารถแบบลอยตัวติดตั้งราวหลังคาและซันรูฟขนาดใหญ่ ด้านข้างเด่นด้วยคิ้วขอบล้อทรงเหลี่ยมกับล้ออัลลอยขนาดใหญ่ 18 นิ้ว พร้อมยาง 265/65R18 บันไดข้างดีไซน์กลมกลืนกับคิ้วขายล่างประตู กระบะท้ายดุดันด้วยไฟท้าย LED แนวตั้งลากยาวแนวนอนในชุดกระบะท้าย กันชนหลังดีไซน์กลมกลืนกับตัวถังรถ
ซึ่งงานดีไซน์ทั้งหมดทาง Wolfgang Egger หัวหน้าฝ่ายออกแบบของ BYD และทีมงานทั้ง Yin Yadong, Huang Zuzheng, Huang Jiangrong, Yan Xiaoyu รับผิดชอบในโปรเจกต์นี้ สร้างจากแพลต์ฟอร์ม DM-p สำหรับรถยนต์อเนกประสงค์แนวลุยติดตั้งขุมพลังเสียบปลั๊กตัวรถมีความยาว 5,300 มิลลิเมตร ความสูง 1,800 มิลลิเมตร แชสซีส์ขั้นบันไดหรือ ladder-frame architecture
ภายในมีออปชันมากมายทั้งคอนโซลหน้าดีไซน์แกร่งพวงมาลัยมัลติฟังกชนสามก้านยกมาจาก Leopard 5 จอแสดงผลบนคอนโซลหน้า Head Up Display จอมาตรวัดดิจิทัลแบบ LCD จอสัมผัสขนาดใหญ่ในชุดแผงคอนโซลหน้า ช่องแอร์คู่ใต้จอสัมผัสคล้ายกับ BYD Song L พร้อมช่องแอร์ด้านหลัง ที่คอนโซลเกียร์ พร้อมหัวเกียร์สั้นจับกระชับ พร้อมเบรกมือไฟฟ้าและ Auto Hold เบานั่งสบาย 5 ที่นั่ง
ทางด้านขุมพลังจะมีด้วยกันถึงสองทางเลือก เริ่มที่เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ Plug In Hybrid ขนาด 1.5 ลิตรพ่วงแบตเตอรี่และมอเตอร์ไฟฟ้าถึงสองตัวให้พลัง 139 แรงม้าในภาคเครื่องยนต์ เมื่อทำงานร่วมกันจะให้กำลังมากถึง 489 แรงม้า ชาร์จและเติมน้ำมันหนึ่งครั้งวิ่งไกลกว่า 1,000 กิโลเมตร หรืออาจยกมาจาก YANGWANG U8 เบนซินเทอร์โบขนาด 2.0 ลิตร แบบ EREV หรือ Extended Range Electric Vehicle ที่ใช้เครื่องยนต์ในการปั่นไฟและแบตเตอรี่ กับมอเตอร์ไฟฟ้าทำงานเป็นหลัก
พิเศษตรงที่สามารถเสียบปลั๊กแบบ Plug In Hybrid ให้กำลังสูงสุด 272 แรงม้า จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า Quad-Motor หรือ มอเตอร์ไฟฟ้าอิสระสี่ตัวกระจายกำลังจากแต่ละล้อไปรวมกันทั้งหมดสี่ล้อซึ่งจะคล้ายกับ The EQG From Mercedes-EQ แรงม้าจากมอเตอร์ไฟฟ้าแต่ละตัวจะป้วนเปี้ยน 299 แรงม้า แรงบิด 320 นิวตันเมตร ขนาดความจุแบตเตอรี่ 49 kWh เมื่อทำงานร่วมกันจะให้กำลังรวมมากถึง 1,197 แรงม้า แรงบิด 1,280 นิวตันเมตร
ชุดแบตเตอรี่จะอยู่ในส่วนกลางของแชสซีส์สำหรับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อควบคุมด้วยไฟฟ้าจะตอบสนองเร็วขึ้นกว่าเดิม 100 เท่า วิ่งไกลสุดในโหมดทำงานร่วมกันถึง 1,000 กิโลเมตรต่อการชาร์จและการเติมน้ำมันหนึ่งครั้งและถ้าขับขี่โหมดไฟฟ้าอย่างเดียววิ่งไกลสุด 180 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ตามมาตรฐาน CLTC ชาร์จเร็วกระแสตรง DC 30-80% รองรับกำลังชาร์จสูงสุด 110 kW ใช้เวลาเพียง 18 นาที ชาร์จกระแสสลับ AC ได้ และรองรับ V2L เชื่อมต่อการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างเต็มรูปแบบ และขุมพลังไฟฟ้าล้วน BEV
การเปิดตัวจะแนะนำช่วงไตรมาสที่สองปี 2024 ประเดิมด้วยรุ่น Plug In Hybrid เริ่มที่ประเทศจีนก่อนบุกตลาดโลกทั้งออสเตรเลียและที่อื่นๆ และรุ่นไฟฟ้าล้วนเปิดตัวในปี 2025 สำหรับออสเตรเลียจะเปิดขายส่งมอบช่วงครึ่งปีหลังของปี 2024 เมืองไทยจะมีสิทธิ์ไหมติดตามในครั้งต่อไปหวังท้าชนเต็มรูปแบบกับสามตัวตึงของวงการกระบะตันครึ่งที่ทั่วโลกให้การยอมรับทั้ง ISUZU D-MAX Toyota Hilux และ Ford Ranger
ที่มา Carsales
