American Honda เปิดตัว 2024 Africa Twin Adventure อย่างเป็นทางการ อัพเกรดขุมพลังใหม่แรงกว่าเดิม และตอบโจทย์การใช้งานได้ทุกการขับขี่
American Honda เปิดตัว Africa Twin Adventure อย่างเป็นทางการ พร้อมกัน 4 รุ่นคือ Africa Twin ที่เน้นการขับขี่แบบออฟโรด และ Adventure Sports ES ที่เน้นการใช้งานบนถนนทั่วไป ซึ่งทั้งสองรุ่นมีให้เลือกทั้งแบบเกียร์ธรรมดา และเกียร์ DCT
2024 Honda Africa Twin ยังคงแบ่งออกเป็น 2 โมเดล คือ CRF1100L Africa Twin และ CRF1100L Africa Twin Adventure Sports ES ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 1,083cc Unicam มีการปรับปรุงใหม่ ด้วยการเพิ่มแรงบิดสูงสุดเป็น 112 นิวตันเมตร ลดรอบเครื่องยนต์ลงจาก 6,250 รอบต่อนาที มาอยู่ที่ 5,500 รอบต่อนาที ซึ่งทำให้มีกำลังอัดมากสูงขึ้น จาก 10.1:1 มาเป็น 10.5:1 ทั้งยังออกแบบปรับแต่งพอร์ตไอดี/ไอเสียใหม่ รวมถึงการตั้งค่า ECU ใหม่ ส่งผลให้ Africa Twin เวอร์ชั่นนี้แรงขึ้นกว่าเดิมทำให้แรงม้าเพิ่มจาก 94 แรงม้า เป็น 100 แรงม้า
ส่วนของช่วงล่าง 2024 Africa Twin ได้ปรับใหม่โดยในรุ่น มาตรฐาน จะใช้เป็น โช้ค Showa ธรรมดา และรุ่น Adventure Sports จะมาพร้อมกับโช้ค Showa EER (Electronically Equipped Ride Adjustment) ซึ่งเป็นโช้คปรับไฟฟ้า ซึ่งตัวโช้คไฟฟ้าจะช่วยซับแรงในทุกสภาพพื้นผิว และสามารถปรับเปลี่ยนค่าพรีโหลดได้ในขณะขับขี่ โดยมีให้มาให้เลือก 5 ระดับ Hard, Mid, Soft, Off-Road และ User ซึ่งจะทำงานร่วมกับ Riding Mode
ในส่วนของวงล้อ Africa Twin 2024 จะใช้ล้อซี่ลวดแบบเยื้องที่สามารถใช้ยางทูบเลส หรือไม่ต้องใช้ยางในได้ ซึ่งง่ายต่อการเซอร์วิสในยามฉุกเฉิน และเพื่อให้เดินทางไกลได้สบายมากขึ้น วงล้อด้านหน้าได้เปลี่ยนไปใช้ล้อหน้าขนาด 19 นิ้ว กับยางขนาด 110/80 ให้ฟีลลิ่งการขับขี่ที่ลื่นไหลตอบโจทย์ทุกการเดินทาง นอกจากนี้ยังได้จัดการเซ็ตติ้งความสูงใหม่โดยลดความสูงของเบาะนั่งลง และสามารถปรับระดับความสูงได้ตั้งแต่ 835 ถึง 855 มิลลิเมตร อีกทั้งศูนย์ถ่วงของรถได้ปรับให้ต่ำลง เพื่อช่วยให้คล่องตัวมากขึ้นเมื่อความเร็วต่ำ และรองรับกับผู้ขับขี่ในทุกสรีระ
2024 Africa Twin จะมาในสี Grand Prix Red เกียร์ธรรมดาราคาเริ่มต้นที่ 14,799 ดอลลาร์ สำหรับ และรุ่น DCT ราคาเริ่มต้นที่ 15,599 ดอลลาร์ ส่วน Adventure Sports ES มาในสี Pearl White เกียร์ธรรมดาราคาเริ่มต้นที่ 17,599 ดอลลาร์ และและรุ่น DCT ราคาเริ่มต้นที่ 18,399 ดอลลาร์ โดยจะวางจำหน่ายในเดือนพฤษภาคม ส่วนการจำหน่ายในประเทศไทยคาดว่าจะมีการเปิดตัวในงาน Motor Show 2024 ที่จะถึงนี้
ติดตามข่าวสารยานยนต์ : car2day.com
Page Facebook : Car2Day
Youtube : youtube.com/@Car2day