ตามหลังการเปิดตัว Nissan Note รุ่นปรับโฉมกับ Nissan Note Aura แฮทช์แบกอัพความหล่อกว่ารุ่นเดิมหวังตอบโจทย์ชาวญี่ปุ่น
โดยจะปรับในส่วนหน้าตาเริ่มที่ กระจังหน้า Digital V-motion รูปทรง “โล่ หรือ shield” ออกแบบใหม่ประกบไฟหน้า Ultra-thin LED headlights และไฟเลี้ยว LED sequential turn lamps ในชุดกันชนหน้าทรงสปอร์ต กระจกมองข้างทรงสปูนพร้อมหลังคาสีดำ ด้านท้ายเท่ด้วยไฟท้าย LED รมดำ ล้ออัลลอยอาจได้ลายใหม่ขนาด 17 นิ้วพร้อมยาง 205/50 R17 ขนาดตัวรถใกล้เคียงด้วยความยาว 4,045 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,735 มิลลิเมตร ความสูง 1,505 มิลลิเมตร ฐานล้อ 2,580 มิลลิเมตร ระยะต่ำสุดจากพื้น 130 มิลลิเมตร น้ำหนักรถ 1,260-1,645 กิโลกรัม และความจุถังน้ำมัน 36 ลิตร
ภายในเสริมออปชันอำนวยความสะดวกทั้งมาตรวัดขนาดใหญ่ Full Digital LCD 12.3 นิ้ว จอสัมผัสขนาดใหญ่ถึง 9 นิ้ว รองรับระบบนำทาง ที่อยู่ในตำแหน่งเดียวกันไม่ละสายตาขณะขับขี่ คั่นกลางด้วยกล่องคอนโซลกลางแนวยาวเป็นชิ้นเดียวเสริมความสวยงามลงตัว ที่นั่งด้านหลังขนาดใหญ่โล่งโปร่งสบาย รวมถึงบุฉนวนเพิ่มขึ้นที่หลังคาและประตู เพิ่มความเงียบในห้องโดยสารมากขึ้น
ออกแบบเก๊ะเก็บของใต้แผงคอนโซลหน้าด้านคนนั่งถึงสองชั้นจุใหญ่ขึ้นใส่ของได้เยอะขึ้น เพิ่มระบบล็อกและปลดล็อกรถอัตโนมัติเมื่อคุณเข้าใกล้รถหรือออกจากรถสบายยิ่งขึ้น เครื่องเสียง Bose ติดตั้งลำโพงฝังไว้ที่หัวหมอนศรีษะ Bose Personal Plus เป็นออปชันเสริม รวมถึงบุฉนวนเพิ่มขึ้นที่หลังคาและประตู เพิ่มความเงียบในห้องโดยสารมากขึ้น ปลั๊กไฟ USB Type C สำหรับด้านหลัง ทางด้านโทนสีภายในใช้สีดำ และสีใหม่สีเทา ไวมาราเนอร์” ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากสุนัขขนสีเทาขนาดใหญ่ออกแนวน้ำตาลอมเทารวมถึงวัสดุหุ้มแบาะแบบกึ่งหนังกึ่งผ้าเดินด้ายน้ำเงินเขียว พร้อมการตกแต่งลายไม้เข้มๆ วัสดุหุ้มหนังสัมผัสหรูๆทั้งในแผงคอนโซลหน้า ที่เท้าแขน และบุแผงประตูมาในโทนสีอ่อนลง
Nissan Note Aura มาพร้อมพลังแรงเร้าใจสไตล์ e-Power เช่นเดิมกับเบนซิน HR12DE รหัส 1.2 ลิตร ให้กำลัง 82 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดที่ 103 นิวตันเมตร ที่ 4,800 รอบต่อนาที จับคู่กับชุดแบตเตอรี่ Lithium-ion ขนาด 1.5 kWh พ่วงเข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้ารหัส EM47 ให้กำลังรวมมากถึง 116 แรงม้าที่ 2,900-10,341 รอบต่อนาที เพิ่มแรงบิดเป็น 280 นิวตันเมตรที่ 0-2,900 รอบต่อนาที สำหรับรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้า
สำหรับรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ เสริมมอเตอร์ไฟฟ้า MM48 68 แรงม้าที่ 4,775-10,024 รอบต่อนาที และแรงบิด 100 นิวตันเมตรที่ 0-4,775 รอบต่อนาที เน้นการใช้มอเตอร์เป็นหลัก ส่วนเครื่องยนต์จะทำหน้าที่ชาร์จไฟฟ้าไปยังแบตเตอรี่ ในช่วงความเร็วสูงมากเครื่องยนต์จะปั่นไฟฟ้าจ่ายตรงให้กับมอเตอร์ไฟฟ้าชุดขับพร้อมความปลอดภัยรอบคัน
นอกจากนี้ยังมีการแนะนำรุ่นพิเศษ 90th Anniversary เสริมหล่อด้วยคิ้วสีทองบริเวณกระจังหน้ารูปตัววีดีไซน์เรียบง่ายพร้อมโลโก้ Nissan กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวสีดำขลิบทองและล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว สีรมดำ ด้านท้ายมีสองชุดเริ่มจากคิ้วเล็กปะชื่อรุ่นและคิ้วใหญ่กรอบป้ายทะเบียน ภายในชุดเบาะนั่งหุ้มหนัง 8 ที่นั่งสีดำเดินด้ายสีทอง
มาพร้อมสีใหม่สีเขียว “Forest Green” พร้อมหลังคาดำ Super Black รวมถึงสีทูโทนอื่นๆ อีก 5 สี และสีโมโนโทนอีก 8 สี เปิดราคาจำหน่ายเริ่มต้น 2,779,700-3,171,300 yen ในเกรด G 6 รุ่นย่อย หรือราว 654,000-745,000 บาท เป็นราคาไม่รวมภาษีนำเน้าของไทย แต่ถ้านำเข้ามาขายไทยราคารวมภาษีนำเข้าจะอยู่ที่ 1,885,000-2,142,000 บาท และทางเลือกใหม่ Nissan Note Aura Nismo จะเปิดตัวในเดือนหน้า
ที่มา Carwatch