ด้านข้างออกแบบหลังคารถมีจุดยื่นๆออกมา+เป็นการทำงานของระบบ LiDAR ที่มีทั้งกล้องและเซนเซอร์สำหรับการประมวลผลเพื่อควบคุมรถและบังคับรถอัตโนมัติ มือจับประตูแบบซ่อนรูปเนียนกับตัวถัง กระจกมองข้างทรงสปูนหลังคากระจก กรอบกระจกสไตล์โอเปราแบบไร้กรอบ Frameless
ด้านท้ายมีไฟ LED ดีไซน์ทอดยาวครอบถึงฝาท้ายและสปอยเลอร์แบบแอ็คทีฟฝังแนบเป็นชิ้นเดียวกับฝาท้าย ทำงานแบบอัตโนมัติเมื่อมีความเร็วมากกว่าเพื่อไหลเวียนอากาศ สร้างแรงกดเมื่ออากาศเคลื่อนผ่านรอบตัวเพิ่มการควบคุมและบังคับเลี้ยวอย่างมีประสิทธิภาพ
ล้ออัลลอยทูโทน 5 ก้านคู่กับ 6 ก้าน ทรงแอโร่ติดโลโก้ Mi พร้อมยางให้เลือกตั้งแต่ขนาด 245/45R19, 245/50R20, ยางหน้าขนาด 245/45R21 และยางหลังขนาด 245/40R20 มีดิสก์เบรกพร้อมคาลิเปอร์จากค่าย Brembo ตัวรถสร้างจากแพลตฟอร์มรถยนต์ไฟฟ้า Modena Architecture แบบเดียวกับ XIAOMI SU7 ตั้งแต่
- ความยาว 4,999 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,996 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,600 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ 3,000 มิลลิเมตร
- น้ำหนักรถ 2,405 กิโลกรัม
ภายในแม้ยังไม่มีการเปิดเผยแต่คาดว่าจะยกมาจาก XIAOMI SU7 แบบห้าที่นั่งหุ้มหนัง NAPPA พร้อมการตกแต่งที่หรูหราสปอร์ตพร้อม Hyper OS เป็นระบบปฏิบัติการที่พัฒนาขึ้นสามารถขับเคลื่อนสมาร์ตโฟนและรถยนต์อัจฉริยะได้คอนโซลกลางดีไซน์เทียบชั้นรถยุโรปแพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้านทรงท้ายตัด
จอสัมผัสขนาดใหญ่ 16.1 นิ้ว ความละเอียด 3K จอ LCD จอหลัง LCD 2 จอ ฝั่งละ 7.1 นิ้ว พร้อมจอแสดงข้อมูลการขับขี่ขนาดใหญ่ HUD 56 นิ้ว ประมวลผลเร็วจากการใช้ชิป Qualcomm Snapdragon 8295 พร้อมลำโพง Dolby Atmos 56 ตำแหน่ง
ขุมพลังไฟฟ้ามาจากมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ permanent magnet synchronous พร้อมแบตเตอรี่ใช้โครงสร้างแบบเซลล์ต่อตัวถัง (cell-to-body)เป็นแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน NMC จาก CATL ที่ยังไม่ระบุขนาดความจุ เป็นมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ขับเคลื่อน 4 ล้อโดยมอเตอร์ล้อหน้าให้กำลัง 300 แรงม้า และมอเตอร์ล้อหลังให้กำลัง 392 แรงม้า ให้แรงม้ารวม 691 แรงม้า ให้ความเร็วสูงสุด 253 กิโลเมตรต่อชั่วโมงและไม่มีการระบุวิ่งไกลสุดอีกต่างหาก
การเปิดตัว XIAOMI YU7 เปิดที่เมืองจีนที่แรกช่วงกลางปี 2025 ช่วงเดือนมิถุนายนหรือกรกฎาคม คาดว่าราคาจะอยู่ระหว่าง 300,000-400,000 YUAN หรือราว 1,409,000-1,879,000 บาท