จากผลิตผลค่ายร่วมทุน Zhengzhou Nissan เปิดตัว Zhengzhou Nissan Z9 ต้นฉบับไปแล้วคราวนี้ก็มาถึงคิว Nissan Frontier PRO กระบะลูกครึ่งญี่ปุ่น-จีน
สำหรับ Nissan Frontier PRO คือฝาแฝดของ Zhengzhou Nissan Z9 มาในร่างกระบะ 4 ประตู ดับเบิลแค็บ
ภายนอกดุดันด้วยกระจังหน้าขนาดใหญ่ทรงทึบติดตราโลโก้ Nissan เรืองแสง พร้อมชุดไฟหน้า LED ทรงรูปตัวที พร้อมไฟ DRL แบบ LED แบ่งช่องกลาง 3 ช่อง ทำให้นึกถึง Nissan BIGM D21 ปี 1997 ขึ้นมาทันที กันชนหน้าเสริมการ์ดสีเข้มเสริมหล่อแกร่งขึ้น
ด้านข้างโดดเด่นด้วย ราวหลังคาสีดำ กระจกมองข้าง ช่องระบายอากาศแนวตั้งสีดำติดขอบประตูหน้า บันไดข้างพร้อมคิ้วขอบล้อสีดำกลมกลืนกับบังโคลนล้อหน้าหลัง
ด้านท้ายหรูด้วยไฟเบรกดวงที่ 3 บนขอบหลังคารถ เสาอากาศครีบฉลาม ฝาท้ายพร้อมไฟท้ายทรงตัวทีแบบ LED และกันชนท้ายบิ๊วอินน์กลมกลืนกับตัวถังและล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้วพร้อมยาง 265/65 R18
ตัวรถมีขนาดใหญ่กว่า Navara D23 แต่เทียบเท่ากับแฝด Zhengzhou Nissan Z9 โดยมีพื้นที่กระบะภายใน ความยาว 1,520 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,600 มิลลิเมตร ความสูง 490 มิลลิเมตร และมิติตัวรถมุมอื่นๆมีดังนี้
- ความยาว 5,520 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,960 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,950 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ 3,300 มิลลิเมตร
- ระยะต่ำสุดจากพื้น 231 มิลลิเมตร
- น้ำหนักรถ 2,500-2,540 กิโลกรัม
- ความจุถังน้ำมัน 73 ลิตร
ภายในมีออปชันครบครันทั้งพวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 2 ก้าน มาตรวัดเรืองแสง TFT จอสัมผัสจอใหญ่ขนาด 14.6 นิ้ว พร้อม Nissan Connect สร้างความบันเทิง รองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สาย Wireless Apple CarPlay และ Android Auto ช่วยให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารสามารถใช้แอปพลิเคชันระบบนำทางผ่านระบบเครื่องเสียงอัจฉริยะได้สะดวกยิ่งขึ้น และรองรับการสั่งงานด้วยเสียง มาตรวัดความเร็วดิจิทัล LCD สี ขนาด 10 นิ้ว
จุดช่องชาร์จ USB มี USB-A 2 จุด USB-C 2 จุด รองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ พร้อมลำโพงรอบคัน เครื่องปรับอากาศแยกอุณหภูมิซ้าย-ขวาพร้อมช่องแอร์ด้านหลัง กุญแจรีโมทอัจฉริยะพรัอมปุ่ม Push Start กระจกมองหลังปรับแสงอัตโนมัติ ความเงียบเมื่ออยู่ในห้องโดยสารด้วยกระจกหน้าและข้างตอนหน้าเป็นแบบเก็บเสียงหรือ Acoustic glass
เบานั่งหุ้มด้วยวัสดุกึ่งหนังแท้โดยเบาะนั่งคู่หน้าแบบ Zero Gravity ช่วยลดความเมื่อยล้าเมื่อขับทางไกลพร้อม QUOLE MODURE ช่วยสะท้อนความร้อนทุกตำแหน่ง เบาะคนขับปรับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทางพร้อมดันหลังไฟฟ้าในด้านคนขับด้านคนนั่งปรับ 4 ทิศทาง เบาะนั่งหลังมีที่พักแขนตรงกลางพร้อมที่วางแก้วน้ำ 2 ตำแหน่งและหมอนรองศีรษะตรงกลาง ชุดคอนโซลหน้าแผงประตูและพวงมมาลัยตกแต่งหนังสัมผัส
ขุมพลัปลั๊กอินไฮบริดจากเบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตร 147 แรงม้า จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า 212 แรงม้าและแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนเมื่อทำงานร่วมกันให้กำลังรวม 410 แรงม้า แรงบิด 800 นิวตันเมตร โดยโหมดอีวีล้วนวิ่งไกลสุด 135 กิโลเมตร (NEDC)
ขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ All Wheel Drive พร้อมโหมดการขับขี่ 4 โหมดทั้ง Hybrid, Pure electric, Performance และ Snow มีล็อกเฟืองท้ายหลัง ผ่านอุปสรรคได้ง่ายๆด้วยมุม Approach Angle หรือมุมเงย 31 องศา และมุม Departure angle หรือมุมจาก 26 องศา รองรับการลากจูงสูงสุด 2,800 กิโลกรัม
ระบบกันสะเทือนแบบปีกนกคู่ด้านหน้าและด้านหลังแบบ 5 ลิงค์ พร้อมระบบถ่ายโอนพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ของรถยนต์ไปยังอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆหรือ Vehicle-to-load (V2L) มากถึง 6 kW และระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS 28 รายการ
Nissan Frontier PRO เตรียมขายจีนก่อนสิ้นปีนี้และเตรียมส่งไปจำหน่ายในต่างประเทศแต่จะรวมถึงเมืองไทยหรือไม่ต้องติดตาม
ที่มา Carwatch