More

    Subaru Forester ล็อตสุดท้ายก่อนเจนใหม่มาลดสูงสุด 305,000 บาท

    อีกหนึ่งรุ่นจากค่าย Subaru ที่ลดราคาโหดก่อนที่เจเนอเรชันใหม่จะขายไทยนั่นคือ Subaru Forester เจ้าป่าขาลุยเจเนอเรชันที่ 5 

    Subaru

    Subaru Forester ร่างเจเนอเรชันที่ 5 ในรหัส SK เปลี่ยนแปลงในส่วนความหล่อในร่างเอสยูวีประกอบในไทยจากพื้นฐาน Subaru Global Platform

    เริ่มที่กระจังหน้าทรงหกเหลี่ยมเข้ากันดีกับกันชนหน้าทรงสปอร์ตพร้อมไฟหน้า LED กับไฟ Daytime แบบ LED horizontal และไฟตัดหมอกหน้า LED พร้อมคิ้วขอบล้อใหม่ ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 225/55 R18 และลายเดิม 17 นิ้ว พร้อมยาง 225/60 R17 แร็คหลังคา จุใจกับการขนของ ด้านท้ายมาพร้อมไฟท้าย LED รูปตัว C หรือ C-shape

    Subaru

    ภายในคงเดิมๆแต่ยังมีความทันสมัยด้วยออปชันหลากหลายตั้งแต่ สวิตช์เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติ DUAL-ZONE เบาะนั่งกับวัสดุผิวสัมผัสกึ่งหนังแท้ กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้าน มาตรวัดเรืองแสง จอสัมผัสขนาดใหญ่ 8 นิ้ว ช่องลมสำหรับเครื่องปรับอากาศที่คอนโซลกลาง

    เบาะหลังพับได้แบบ 60:40 เพิ่ม พื้นที่บรรทุกสัมภาระที่ใหญ่ขึ้น ขอเกี่ยวด้านบนบริเวณพื้นที่เก็บสัมภาระ ใช้งานได้จริงและสะดวก เป็นอุปกรณ์ที่เพิ่มขึ้นจากขอเกี่ยว 4 จุดที่อยู่ด้านล่างพอร์ตชาร์จ USB และประตูพาวเวอร์ด้านหลัง ช่วยให้สามารถเปิด-ปิด และล็อกประตูทุกด้านของรถได้ด้วยการกดเพียงปุ่มเดียว ไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสารเป็นไฟ LED ให้ความสว่างและกินพลังงานต่ำ

    Subaru

    ขุมพลังเดิมด้วยเครื่องยนต์แบนซิน Boxer FB20 direct injection พร้อมระบบควบคุมวาล์วแบบแอคทีฟ (AVCS) 156 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 196 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์ Lineartronic CVT มีโหมด Manual 7 สปีด พร้อม X-Mode พัฒนาใหม่ ให้ความปลอดภัย ความคล่องตัว และความสะดวกสบายที่ใช้งานง่ายเพียงแค่กดปุ่ม

    ระบบ X-MODE จะช่วยให้ผู้ขับฝ่าเส้นทางขรุขระและท้าทายและยิ่งทำงานร่วมกับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบสมมาตร “Symmetrical All-Wheel Drive” ผู้ขับจะยิ่งมั่นใจ เอาชนะได้แม้เส้นทางสุดโหด หรือทางชันที่ลื่น ผู้ขับสามารถเลือกใช้โหมด Snow/Dirt และ Deep Snow/Mud เพื่อให้เหมาะสมกับเส้นทาง ช่วงล่างถูกปรับแต่งให้มีความนุ่มนวล และควบคุมง่ายขึ้น

    ระบบ X-MODE จะอยู่ที่ Stand by เมื่อใช้ความเร็วรถเกินกว่า 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และจะทำงานกลับมาทำงานอัตโนมัติ เมื่อความเร็วรถลดลงต่ำกว่า 35 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ช่วยให้ผู้ขับไม่ต้องละสายตาจากถนน สะดวกและปลอดภัยมากยิ่งขึ้นเมื่อเทียบกับระบบ X-MODE เดิมที่ผู้ขับจะต้องมองปุ่มเพื่อปรับโหมดเอง

    Subaru

    ส่วนระบบ Hill Descent Control ใน X-MODE ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน ช่วยควบคุมความเร็วรถขณะลงเนินหรือลงเขาในสภาพถนนลื่น ซึ่งลักษณะถนนประเภทนี้พบมากในประเทศไทย ให้ขับได้อย่างสบายไร้กังวล มีสมาธิในการควบคุมทิศทางรถ

    กรณีที่ผู้ขับต้องการเร่งความเร็วขณะลงทางลาดชัน ก็ยังสามารถขับขี่ได้อย่างราบรื่น ระบบควบคุมความเร็วนี้ทำงานประสานกับการเร่งเครื่องได้อย่างราบเรียบ ขณะลงทางชันที่ความเร็วต่ำกว่า 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ระบบบังคับเบรกอัตโนมัติจะทำงาน ให้ความสะดวกสบายในกรณีของการขับขี่ในเมืองที่ต้องขึ้นลงที่จอดรถในอาคารสำนักงาน หรือในห้างสรรพสินค้าที่พื้นซีเมนต์มีความลื่นช่วยในส่งถ่ายกำลังระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    Subaru

    พร้อม Eyesight 4.0 เทคโนโลยีช่วยขับขี่ขั้นสูงยกระดับคุณสมบัติด้านความปลอดภัยและความสะดวกสบายให้แก่ผู้ขับ   จากกล้องสเตอริโอคู่หน้าที่ได้รับการพัฒนาใหม่ และถูกติดตั้งไว้ใกล้ตำแหน่งของกระจกมองหลัง สามารถตรวจจับวัตถุได้ในวงกว้างและแม่นยำ มอบความอุ่นใจทุกครั้งที่ขับขี่โดยมีระบบความปลอดภัยมากถึง 9 ระบบ โดยรวม 3 ระบบใหม่ไว้ด้วย ดังนี้

    • Autonomous Emergency Steering บังคับพวงมาลัยฉุกเฉินอัตโนมัติ ช่วยหักหลบจากรถหรือวัตถุที่อยู่ด้านหน้า เพื่อหลีกเลี่ยงการชน (ระบบทำงานที่ความเร็วไม่เกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) เฉพาะรุ่น 2.0 i-S Eyesight
    • Adaptive Cruise Control (ACC) with Lane Centering Function ไปและหยุดตามคันหน้าอัตโนมัติ พร้อมระบบควบคุมรถให้อยู่กลางเลน ช่วยรักษาทิศทางของรถ
    • Lane Departure Warning include Lane Departure Prevention เตือนเมื่อรถออกนอกเลนพร้อมระบบบังคับรถกลับเข้าเลน หากระบบตรวจจับว่ารถกำลังคร่อมเส้นแบ่งเลน จะดึงพวงมาลัยนำรถกลับเข้ากลางเลนโดยอัตโนมัติ (ระบบทำงานที่ความเร็วตั้งแต่ 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นไป)
    • Pre-Collision Braking ช่วยเบรกอัตโนมัติ ยังถูกพัฒนาให้ล้ำหน้าขึ้นอีกขั้น ช่วยปกป้องความปลอดภัยได้ในสถานการณ์การขับขี่ ตามสี่แยกจราจร จุดที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ พัฒนากล้องสเตอริโอคู่หน้าให้มีระยะตรวจจับวัตถุกว้างกว่าเดิม (จากมุมซ้ายถึงมุมขวา) ถึงเกือบสองเท่า รวมทั้งจากมุมบนถึงมุมล่าง จากมุมซ้ายถึงมุมขวา กล้องจะตรวจจับวัตถุหรือสิ่งกีดขวางได้กว้างและไกลขึ้น อันช่วยลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนได้มาก ตรวจจับวัตถุได้ไม่เพียงเฉพาะในเลนที่อยู่เท่านั้น ยังกว้างไปครอบคลุมเลนข้างๆด้วย ตัวอย่างเช่น รถในเลนสวน  และคนข้ามถนนจากทั้งทิศทางซ้ายและทิศทางขวาของสี่แยกจราจร
    • Subaru Rear Vehicle Detection (SRVD) ตรวจจับวัตถุด้านหลัง เรดาร์เซนเซอร์จะตรวจจับวัตถุที่อยู่ด้านหลังรถ และส่งสัญญาณเตือนผู้ขับหากจะเปลี่ยนเลนบนถนนหรือถอยหลังในที่จอดรถ เฉพาะรุ่น 2.0 i-S Eyesight
    • High Beam Assist (HBA) ไฟหน้าอัจฉริยะปรับสูง-ต่ำอัตโนมัติ เป็นฟังก์ชันใหม่ที่ให้มาเพื่อเพิ่มทัศนวิสัยที่ปลอดภัย โดยเฉพาะเวลากลางคืน เฉพาะรุ่น 2.0 i-S Eyesight

    Subaru

    Suabru Forester มีทั้งหมด 2 รุ่นย่อยพร้อม สีภายนอกได้แก่ Brilliant Bronze Metallic, Cascade Green Silica และ Magnetite Gray Metallic, Crystal White Pearl, Ice Silver Metallic, Crystal Black Silica และ Horizon Blue Pearl

    ในราคาล็อตสุดท้ายด้วยส่วนลด ลดลงจากเดิม 260,000-270,000 บาท เป็นราคารวมแพ็กเกจออปชันแพ็กแต่ยังไม่รวมประกันชัน 1 และรับประกันตัวรถไม่จำกัดระยะทางดังนี้

    • Forester 2.0i-L EyeSight ราคาใหม่ 1,190,000 บาท (ราคาเดิม 1,450,000 บาท)
    • Forester 2.0i-S EyeSight ราคาใหม่ 1,280,000 บาท (ราคาเดิม 1,550,000 บาท)

    สำหรับลูกค้าที่จองและออกรถภายใน 31 พฤษภาคม 2568 นี้เท่านั้น หรือจนกว่ารถจะหมด รับสิทธิประโยชน์เพิ่มทั้งประกันภัยชั้น 1 มูลค่า 20,000 บาท และรับประกันตัวรถไม่จำกัดระยะทาง 5 ปี มูลค่า 15,000 บาท โดยส่วนลดรวมรายการต่างๆทั้งสิ้น 295,000-305,000 บาทแต่ละรุ่น

    Subaru

    และหลังจากยุติการประกอบรถยนต์ในไทยที่นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบังตั้งแต่สิ้นปี 2024 ทาง SUBARU ได้ย้ายคลังอะไหล่จากพื้นที่เดิมในนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง มาไว้ในพื้นที่ของสำนักงานใหญ่ที่ จังหวัดปทุมธานี เรียบร้อยแล้วในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เพื่อเพิ่มพื้นที่จัดเก็บสต๊อก และเพิ่มความรวดเร็วในการจัดส่งชิ้นส่วนอะไหล่ไปยังศูนย์บริการทั่วประเทศ

    ทั้งหมดนี้เพื่อความเชื่อมั่นและความไว้วางใจจากทั้งลูกค้าปัจจุบันรวมถึงลูกค้าใหม่ที่ตัดสินใจมาเป็นครอบครัว SUBARU โดยยังมุ่งมั่นและเล็งเห็นความสำคัญในการที่จะรองรับและดูแลในส่วนบริการหลังการขายอย่างต่อเนื่อง

    สำหรับแฟนๆที่รอการมาของ Subaru Forester เจเนอเรชันที่ 6 โปรดอดใจรอโดยเจนใหม่นี้ จะผลิตและนำเข้าทั้งคันจากประเทศญี่ปุ่นแบบ CBU (Completely Built Unit) ในราคาหลังรวมรวมภาษีนำเข้า แล้วสูงกว่ารุ่นปัจจุบัน

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts