พึ่งจะปรับโฉมเล็กๆน้อยๆที่จีนได้ไม่นานสำหรับ MG IM6 หรือ IM6 (IM LS6) ได้ไม่นานล่าสุดทางการจีนเผยภาพหลุดรุ่นปรับโฉมอีกครั้งปรับใหญ่นั่นเอง
MG IM6 หน้าตาใหม่คล้ายๆรถรุ่นหนึ่งจากค่ายเพื่อนร่วมชาติในร่าง Fastback 5 ประตูหลังคาท้ายลาดตั้งแต่
ชุดกันชนหน้าและกระจังหน้าทรงทึบดีไซน์ใหม่ออกแบบคิ้วชายล่างใต้กันชนสีดำแบบต่อเนื่อง ไฟหน้า LED และไฟ DRL แบบ LED รูปตัวทีแบบรมดำ ขอบกันชนหน้าส่วนบนหนาขึ้นรับกับฝากระโปรงหน้าใหม่ออกแบบให้มีขนาดเล็กลง
ด้านข้างคงเดิมด้วยด้วยกระจกมองข้าง กระจกรถแบบไร้กรอบ Frameless แบบโอเปร่า ที่เปิดประตูเรียบเนียนกับตัวถังรถ คิ้วชายล่างประตูสีดำ กับเซนเซอร์ LiDAR บนหลังคารถ ไฟท้าย LED รมดำดีไซน์รูปตัวเอยาวจากซ้ายไปขวารับกับฝาท้ายมีสปอยเลอร์ในตัว
ล้ออัลลอยขนาดใหญ่ 20 นิ้ว พร้อมยางหน้าขนาด 235/50R20 และยางหลังขนาด 255/45R20 และขนาดใหญ่ 21 นิ้ว ขนาดยางหน้า 235/45 R21 และขนาดยางหลัง 265/40 R21 มิติตัวรถตั้งแต่
- ความยาว 4,937 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,988 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,671 มิลลิเมตร
- ฐานล้อ 2,960 มิลลิเมตร
- ที่จุสัมภาระด้านหน้า 32 ลิตร
ภายในเรียบง่ายปรับปรุงใหม่ มีจอลอยตัวขนาดใหญ่ครอบคลุมทั้งแผงในชุดคอนโซลหน้าแบบ Full Frame ตั้งแต่ มาตรวัดความเร็วและแสดงข้อมูลตัวรถ Dalian LCD 26.3 นิ้ว จอสัมผัสฝั่งผู้โดยสาร 10.5 นิ้วและจอสัมผัสแนวตั้ง 15.5 นิ้ว พร้อมระบบปฏิบัติการ IM OS 2.0
ประมวลผลรวดเร็วด้วยชิป Qualcomm Snapdragon 8295 เวอร์ชันใหม่ ลำโพง 21 จุด พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้านในปุ่มควบคุมแบบเลื่อนมีที่ชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย 50W ช่องเสียบชาร์จ USB-C ไฟสร้างบรรยากาศ Ambient Light ปรับได้ถึง 256 สี ประตูท้ายแบบไฟฟ้าและหลังคากระจกพาโนรามิก
มาพร้อมกับเทคโนโลยียนตรกรรมที่ล้ำสมัยที่สุดกว่า 100 เทคโนโลยี อาทิ เทคโนโลยีระบบนำทางมาตรฐานโลกอย่าง IM AD เทคโนโลยีระบบการขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นการออกตัว การเข้าจอด และการติดตามตำแหน่งที่สามารถ ทำได้เพียงกดปุ่มเดียว
ผ่านการทำงานของปัญญาประดิษฐ์ ไม่ว่าจะเป็นการจอดหรือการถอยรถ ฟีเจอร์ “ที่นั่งคนขับอัจฉริยะ” อัดแน่น ไปด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะมากมาย ไม่ว่าจะเป็น “Scene Labels + Fusion Perception + MR Enhanced Display + Image Algorithms” เพื่อลดจุดบอดและเพิ่มประสิทธิภาพด้านความปลอดภัย
พื้นที่สัมภาระด้านท้ายมีความจุ 665 ลิตร และ 1,640 ลิตรกรณีพับเบาะและรุ่นปรับโฉมนี้อัพเกรดเบาะนั่งหน้าฝั่งคนนั่งปรับไฟฟ้าเอนเบาะได้สุด 121 องศา และพนักพิงเบาะนั่งหลังเพิ่มมุมอีก 19-37 องศา
มาพร้อมระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าทั้งแบบมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลังและมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ขับเคลื่อน 4 ล้อเริ่มที่รุ่น Standard Range RWD ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวรหัส TZ210XS1141 ผลิตโดย UAES ขับเคลื่อนล้อหลัง ให้กำลัง 333 แรงม้าพร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบ LFP จาก CALB
รุ่น Long Range RWD ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวรหัส TZ230XY1252 ผลิตโดย Hasco Group ขับเคลื่อนล้อหลัง ให้กำลัง 408 แรงม้าพร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบ LFP จาก CALB
รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ Performance AWD ให้กำลังรวมสูงสุด 680 แรงม้า จากมอเตอร์ด้านหน้า TZ180XS0952 จาก UAES 272 แรงม้า มอเตอร์ด้านหลัง TZ230XY1252 จาก Hasco 408 แรงม้า แรงบิดรวมสูงสุด 800 นิวตันเมตรระบบไฟฟ้าแบบซิลิกอนคาร์ไบด์ ความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบ NMC สามเฟสจาก CATL บนแพลตฟอร์ม 800 V
นอกจากนี้ยังเพิ่มขุมพลังไฟฟ้าขยายระยะทางหรือ Extended Range Electric Vehicle (EREV) เข้ามา จากเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จ 1.5 ลิตร รหัส 15FNE ให้กำลัง 155 แรงม้าเพื่อใช้ในการปั่นไฟ ส่งไปยังแบตเตอรี่และมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลัง โดยกำลังรวมสูงสุดอยู่ที่ 313 แรงม้า มีแบตเตอรี่สองแบบที่ผลิตโดยบริษัทร่วมทุน SAIC-CATL ได้แก่ LFP และ NMC แบบสามเฟส สามารถทำความเร็วได้ถึง 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง น้ำหนักบรรทุกอยู่ที่ 2,345 – 2,350 กิโลกรัม
สำหรับ MG IM6 ไมเนอร์เชนจ์เตรียมขายจีนเร็วๆนี้ โดยค่าตัวอาจถูกกว่าเดิมโดยรุ่น BEV เริ่มต้นถูกกว่า 209,900 YUAN หรือราว 959,000 บาทส่วนรุ่นใหม่ EREV ถ้าตั้งราคาต่ำกว่า 200,000 YUAN หรือ 915,000 บาทอาจมีโอกาสแจ้งเกิดขายดีและพร้อมชนคู่แข่ง Luxeed R7 ของ Chery และ Huawei อย่างสมศักดิ์ศรี
ที่มา CarNewsChina