ตะวันออกกลางเป็นที่แรกของโลกกับการเปิดตัว Nissan Patrol Nismo สิงห์ทะเลทรายเวอร์ชันแต่งหล่อทางเรียบเอาใจชาวอาหรับหัวใจซิ่งโดยเฉพาะ
Nissan Patrol Nismo ยึดพื้นฐานของรุ่น Patrol เจเนอเรชันที่ 7 รหัส Y63 แต่งเข้มด้วยชุดแอโรพาร์ทจากโรงงานพร้อมโมดิฟลายด์ขุมพลังเทอร์โบคู่ให้จัดจ้านกว่าครั้งไหนๆ
ด้านหน้าอย่างเท่
ด้วยกระจังหน้ารูปตัววีหรือ V-motion แนวตั้งแนวนอนผสมผสานกันลวดลายรังผึ้ง 3 มิติขนาดใหญ่ ขนาบข้างด้วยช่องรับลมขนาดใหญ่เสริมลิ้นกันชนหน้าขลิบสีแดงเพื่อเพิ่มความดุดันและยังส่งอากาศยังไปดิสก์เบรกหน้าช่วยลดอุณหภูมิได้ถึง 6% ด้านข้างเสริมคิ้วขอบล้อแบบบิ๊วอิน ช่องระบายอากาศด้านข้างบังโคลนสีดำตกแต่งด้วยโลโก้ Nismo กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว LED สีดำขลิบแดง ชายบันไดข้างพร้อมแถบสีแดงที่พาดยาวใต้บันไดขึ้นรถ และขลิบสีแดงชื่อรุ่น Patrol ติดตั้งในกรอบเสา D
ด้านหลังมาพร้อมสปอยเลอร์หลังคาขนาดใหญ่ กันชนหลังใหม่พร้อมดิฟฟิวเซอร์และไฟเบรกแบบ F1 ติดตั้งตรงกลางเพื่อเพิ่มแประสิทธิภาพแอโรไดนามิก ยังคงซ่อนท่อไอเสียไว้ใต้กันชน และล้อลายพิเศษขนาด 22 นิ้วรัดด้วยยาง 275/50R22
พร้อมออปชันเดิมทั้งไฟส่องสว่างเวลากลางวัน LED รูปตัว E-clamp ในโคมมีไฟหน้า LED พร้อมไฟเลี้ยว รับกับชุดกันชนหน้าขนาดใหญ่พร้อมไฟตัดหมอกหน้าแบบ LED โดยรวมออกแบบรถเอสยูวีแดนมะกัน ด้านข้างพร้อมช่องระบายอากาศด้านข้างเด่นด้วยดีไซน์ช่องระบายอากาศด้านข้างตัวถัง Side Vent สองฝั่ง คิ้วขอบล้อสีดีไซน์กลมกลืน ที่เปิดประตูดีไซน์ดึงก้าน ไฟส่องพื้นใต้กระจกมองข้างกระจกสไตล์โอเปร่าโดยกระจกเสา C และ D ติดตราชื่อรุ่น Patrol ราวหลังคาดีไซน์เรียบเนียนกับหลังคารถสีดำ เสาอากาศครีบฉลาม
ฝาท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมไฟท้าย LED แนวยาวรูปตัว U แน่นอนว่ามาจากพื้นฐานรถทรงกล่องแชสซีส์ขั้นบันไดหรือ Ladder-Frame เฟรมปรับปรุงใหม่ให้มีความแข็งแรงตามแรงบิดเพิ่มขึ้น 25% และความแข็งแรงด้านข้างเพิ่มขึ้น 57% โดยมีมิติตัวรถดังนี้
- ความยาว 5,295 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 2,070 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,945 มิลลิเมตร
- ฐานล้อ 3,075 มิลลิเมตร
- ระยะต่ำสุดจากพื้น 195 มิลลิเมตร
- น้ำหนักรถ 2,817 กิโลกรัม
- ความจุถังน้ำมัน 97 ลิตร
ภายในอย่างดุ
ตกแต่งตามสไตล์ Nismo หุ้มหนังสีแดง แบบ 3 แถว 8 ที่นั่ง 2+3+3 หุ้มหนังลายด้วยวัสดุหนังแท้เกรดคุณภาพปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางคู่หน้าพร้อมฟังก์ชันนวดโดยเบาะคู่หน้ามาแบบ Zero Gravity เบาะนั่ง เพื่อรองรับกับแนวกระดูกสันหลัง ตามหลักสรีรศาสตร์ เบาะนัั่งตอนที่ 2 พับอิสระแบบ 40/20/40 แบบ EZ Flex และ 50/50 ในตอนที่ 3 และยังปรับพื้นที่เก็บของด้านท้ายมากขึ้นกว่าเดิม 30% พร้อมหนังสัมผัสบริเวณคอนโซลกลางกับแผงประตูแบบสีแดง และเข็มขัดนิรภัยเส้นสีแดง
แผงคอนโซลหน้าติดตั้งหนังสัมผัสแบบหนังกลับเทียมอย่างประณีต จอคู่รวม 28.6 นิ้วประกอบด้วยจอมาตรวัดความเร็วและจอสัมผัสขนาดใหญ่ฝั่งละ 14.3 นิ้ว มีระบบ Nissan Connect 2.0 เวอร์ชันใหม่ ติดตั้ง Google ในตัว สามารถใช้ Google Maps, Google Play, Google Assistant เชื่อมต่อ Apple CarPlay Android Auto ไร้สาย และบริการเชื่อมต่อผ่านแอป My NISSAN พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้านหุ้มหนังพร้อมมีแถบสีแดงด้านบนของพวงมาลัย “On-Centre Marker” เพื่อบอกตำแหน่งองศาของพวงมาลัย และจอแสดงข้อมูลการขับขี่บนแผงคอนโซลหน้า HUD
ถัดลงมาช่องแอร์แนวนอนมีปุ่ม Push Start สีแดง และปุ่มการทำงานของระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกอุณหภูมิซ้าย-ขวา พร้อมช่องแอร์ตอนที่ 2 กับ 3 และมีสวิตช์ควบคุมทำงานร่วมกับเซนเซอร์อินฟาเรดไว้ตรวจจับอุณหภูมิภายในปรับได้อย่างอิสระและการไหลเวียนของอากาศเพื่อให้อากาศภายในสบายสดชื่น พร้อมช่องเสียบ USB Type C ให้มาทั้ง 3 แถว ที่ชาร์จมือถือไร้สาย
พร้อมลำโพงทั้งหมด 12 จุด จาก Klipsch พร้อมเทคโนโลยี DynamicAudioReveal™ ช่วยให้เสียงมีความนุ่มชัดเจนละเอียดปรับตามสภาพแวดล้อมภายในรถและระบบเสียง 3 มิติ DJX® 3D Surround ทำให้เพลิดเพลินในการฟังเพลงตลอดการเดินทาง ยังมีจอหลัง 2 จอติดตั้งที่หลังเบาะคู่หน้าอินเทอร์เฟซขนาด 12.8 นิ้ว สามารถสตรีมเพลง วีดีโอ เล่นเกมผ่านอุปกรณ์ทั้ง Miracast, HDMI หรือการเชื่อมต่อ USB พร้อมไฟสร้างบรรยากาศ Ambient Light 64 สี พร้อมกล้องบันทึกเหตุการณ์ หลังคารถพาโนรามิกซันรูฟ และคันเร่งและแป้นเบรกแบบอะลูมิเนียมที่สร้างความรู้สึกสปอร์ต
ขับเคลื่อนด้วยพลังแรงจาก NISMO
ด้วยเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบคู่ V6 รหัส VR35DDTT ขนาด 3.5 ลิตร พัฒนาใหม่ปรับกำลังให้เแรงกว่าถึง 502 แรงม้า (431 แรงม้า) ที่ 5,600 รอบต่อนาที แรงบิดเท่าเดิม 700 นิวตันเมตรที่ 3,600 รอบต่อนาที จุดเด่นที่ฝาครอบเครื่องยนต์ สีแดงและแผ่นโลหะพิเศษเฉพาะ NISMO เครื่องยนต์นี้ผลิตที่โรงงาน Iwaki ของ Nissan ประเทศญี่ปุ่นพร้อมเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด จาก JATCO พร้อม Paddle Shift
ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ Full Time พร้อม 4WD transfer mode interlock สามารถกระจายการทำงานไปยังล้อทั้ง 4 ควบคุมอย่างง่ายดายตามสภาพเส้นทางภูมิประเทศต่างๆ ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถสลับโหมดต่างๆได้อย่างราบรื่นและรับมือกับเส้นทางท้าทายได้อย่างง่ายดายมีโหมดการขับขี่ 6 โหมดทั้ง Standard, Sand, Rock, Mud/Rut, Eco และ Sport ลุยน้ำได้สูงสุด 700 มิลลิเมตร สามารถลากจูงสูงสุด 3,500 กิโลกรัม
พร้อมระบบเฟืองท้าย Rear Helical Limited Slip Differential REAR DIFFERENTIAL LOCK ช่วงล่างใหม่ NISMO-tuned E-Dampers ปรับการทำงานอัตโนมัติแบบเรียลไทม์บนพื้นฐานช่วงล่างหน้าแบบอิสระปีกนก 2 ชั้น ด้านหลังแบบคอยล์สปริงโช้กอัพใช้ทั้งแบบแก๊สพร้อมเสียงสังเคราะห์ด้วยเสียงเครื่องยนต์จากท่อไอเสียแบบ NISMO + Active Sound Enhancement
ลุยทุกสถานการณ์ทั้งระยะมุมเงย Approach Angle 23 องศา ระยะมุมจาก Departure Angle 25.5 องศา และระยะมุมคร่อม Breakover angle 26 องศา ความปลอดภัยติดตั้งระบบระบบขับขี่อัตโนมัติอัจฉริยะ ProPILOT 2.0 ช่วยลดความจุกจิกกวนใจในเรื่องการขับขี่บนทางหลวงที่ต้องมีการหยุดและชะลอตัวตลอดเวลา พร้อมความปลออดภัยหลากหลาย
- เตือนก่อนการชนด้านหน้า Predictive Forward Collision Warning
- เบรกฉุกเฉินอัตโนมัติอัจฉริยะด้านหน้า Intelligent Emergency Braking with Pedestrian detection
- เบรกฉุกเฉินอัตโนมัติอัจฉริยะ Rear Intelligent Emergency Braking
- เตือนจุดอับสายตา Blind Spot Warning
- เตือนรถในทางสวนขณะถอยรถ Rear Cross Traffic Alert
- เทคโนโลยีเตือนจุดอับสายตา เมื่อสัญญาณไฟเลี้ยวถูกเปิด และมีรถคันอื่นอยู่ในจุดอับสายตา ณ ช่องทางขับขี่ด้านข้าง Blind Spot Intervention
- เตือนออกนอกเลนพร้อมพวงมาลัยหน่วงอัตโนมัติ Lane Departure Prevention
- เตือนจุดอับสายตาขณะลากจูง Trailer Blind Spot Warning
- เทคโนโลยีกระจกมองหลังอัจฉริยะพร้อมช่วยมองเห็นด้านหลังได้ชัดเจนขึ้น Intelligent Rear View Mirror with Rear Zoom View
- ล็อกความเร็วแปรผันอัตโนมัติ adaptive cruise control
- ไฟสูงแบบปรับระดับได้เอง Adaptive Driving Beam (ADB)
- กล้องมองภาพรอบคัน 3D Around View Monitor โดยเฉพาะกล้องด้านหน้ามองเห็นมุมกว้างมากถึง 170 องศา
Nissan Patrol Nismo มีให้เลือก 5 สีทั้งสีขาว, เทา, น้ำเงิน, ดำ และ สีพิเศษ เทา Stealth Grayเตรียมขายกลุ่มประเทศตะวันออกกลางกรกฎาคมนี้ ส่วนอเมริกาขายช่วงปลายปีนี้ในชื่อ Nissan Armada Nismo พร้อมพลัง 466 แรงม้า
ที่มา Nissan
