ขายจีนและทั่วโลกมาเกือบ 2 ปีจนได้รับการตอบรับอย่างดีจากสาวกสำหรับ MG CYBERSTER โรสเตอร์พลังอีวีรุ่นแรกของค่ายและล่าสุดกับรุ่นปี 2026
MG CYBERSTER MY2026 ปรับลุคใหม่ปรับภายนอกภายในถึง 10 จุดในร่างโรสเตอร์เปิดประทุนหลังคาผ้าใบ 2 ประตู
เพิ่มแผ่นกันลมเสริมช่วยลดกระแสลมขณะเปิดหลังคารถ ระบบเปิดปิดหลังคาผ้าใบพร้อมระบบแสดงะระยะการเปิดปิดหลังคา เพิ่มื้นที่สัมภาระด้านท้ายให้มีความจุใหญ่ขึ้นพร้อมสีใหม่สีเขียว “Iris Green” และสีเทา “Andes Gray”พร้อมออปชันเดิมตั้งแต่ไฟหน้า LED Projector แบบ Laser Belt กระจังหน้าเรียวยาวพร้อมตรา MG ในชุดกันชนหน้าทรงสปอร์ตด้านท้ายแบบ Kammback
ชุดไฟท้าย LED Red Wing ด้วยเส้นไฟที่เรียวเล็กดูชัดเจนสุดล้ำ ไฟเลี้ยวรูปทรงลูกศรสปอยเลอร์หลังที่ฝังตัวอยู่ในชิ้นเดียวกันลงตัว กันชนหลังเสริมลิ้นสปอยเลอร์หลังสีดำ ประตูรถออกแบบมาเปิดแบบปีกนกหรือ Scissor Doors ล้ออัลลอยลาย Hacker Blade คาดว่าจะเป็นขนาด 19 นิ้ว พร้อมยางหน้า 245/45R19 และยางหลัง 275/40R19 หรือ 20 นิ้ว พร้อมยางหน้า 245/40R20 และยางหลัง 275/35R20 ตัวรถเริ่มที่
- ความยาว 4,535 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,913 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,329-1,331 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ 2,690 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 2,075 และ 2,210 กิโลกรัม
ภายในมาพร้อมโทนสีใหม่ 2 สีทั้งสีดำ-แดง และเทา-ขาว พร้อมระบบดันหลังปรับไฟฟ้า lumbar support ในชุดเบาะนั่งคู่หน้า ระบบสั่งงานด้วยเสียงตอบสนองไวขึ้น แผงคอนโซลหน้ามีแผงจอแสดงดิจิทัลขนาดใหญ่ LCD เป็นทั้งมาตรวัดและจอสัมผัสในตัว พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้านกลับมาใช้แบบท้ายตัดหรือทรง D Shape ติดตราโลโก้ MG มีปุ่มโหมดการขับขี่ Super Sport สีแดง คอนโซลกลางประดับด้วยแผงควบคุมต่างๆ คันเกียร์รวมถึงดีไซน์เกียร์อัตโนมัติเป็นแบบปุ่ม Shift By Wire สวิตช์เปิด-ปิดหลังคารถ ที่วางแก้วน้ำ เบาะนั่งสปอร์ตแบบ Zero-gravity Seat สีแดง เบรกมือไฟฟ้าอยู่หลังพวงมาลัยใต้มาตรวัด
ขุมพลังเป็นแบบไฟฟ้ามีให้เลือก 3 รูปแบบเริ่มที่รุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ขับเคลื่อนสี่ล้อให้กำลังรวมมากสุด 544 แรงม้า แรงบิด 725 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 3.2 วินาทีจากมอเตอร์ไฟฟ้าหน้าให้กำลัง 204 แรงม้าและมอเตอร์ไฟฟ้าหลังให้กำลัง 340 แรงม้า สามารถวิ่งไกลสุด 520 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (CLTC) หรือ 502 กิโลเมตร (NEDC) ให้ความเร็วสูงสุด 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมงและเป็นแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน lithium-ion battery ที่มีความจุแบตเตอรี่ 77 kWh
และมีรุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวอีก 2 รุ่นเริ่มที่รุ่น Standard Range ที่มีความจุแบตเตอรี่ 64 kWh ให้กำลังรวมมากสุด 314 แรงม้า แรงบิด 475 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 4.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 193 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สามารถวิ่งไกลสุด 501 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (CLTC) หรือ 483 กิโลเมตร (NEDC)
รุ่น Long Range ความจุแบตเตอรี่ 77 kWh มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลัง ให้กำลังรวมมากสุด 340 แรงม้า แรงบิด 475 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 4.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 195 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สามารถวิ่งไกลสุด 580 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (CLTC) หรือ 560 กิโลเมตร (NEDC)
รองรับระบบการชาร์จ 2 รูปแบบทั้งแบบ Quick Charge และ Normal ด้วยความพร้อมของสถานีอัดประจุไฟฟ้ามีชาร์จแบบเร็ว Quick Charge ชาร์จไฟฟ้าจาก 10%-80% ใช้เวลาประมาณ 26 นาที ที่ความเร็วสูงสุด 140 kW ชาร์จแบบธรรมดา Normal Charge 0%–100% ใช้เวลาประมาณ 11 ชั่วโมง รับรองที่สูงสุด 11 kW รองรับระบบ V2L เปลี่ยนรถยนต์พลังงานไฟฟ้าให้สามารถเป็นแหล่งจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า
ระบบระบายความร้อน Straight Waterfall Grid Oil Cooling Technology ที่มีประสิทธิภาพสูง แบตเตอรี่มาตรฐานความปลอดภัย IP67 ในการป้องกันน้ำและฝุ่นพวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้า EPS (Electric Power Steering) การกระจายน้ำหนักแบบ 49:51 ควบคู่กับการออกแบบลักษณะ Ultra- Low Centre of Gravity ที่ให้จุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำเพื่อการเกาะถนนที่ดีเยี่ยม พร้อมระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระ Double Wishbone และด้านหลังแบบอิสระ Multi-link ดิสก์เบรก 4 ล้อ พร้อมคาลิปเปอร์สีแดง
พร้อมปรับซอฟต์แวร์และช่วงล่างใหม่พร้อมทั้งเสียงสังเคราะห์เอฟเฟกต์ใหม่ พร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยมาตรฐานยุโรป ADVANCED SYNCHRONIZED PROTECTION SYSTEM มากถึง 26 ระบบ ปรับระบบเตือนมุมอับสายตาเวอร์ชันใหม่ทำงานไวขึ้น โดย MG CYBERSTER MY2026 เตรียมเปิดตัวและขายจีนพร้อมกับ MG5 MY2026 ในวันที่ 30 มิถุนายน
ที่มา Autohome