ทำตลาดในจีนจนได้รับการตอบรับอย่างดีสำหรับ Nissan SYLPHY เจเนอเรชันที่ 4 และเมื่ออายุตลาดถึง 6 ปี ก็สมควรแก่เวลาที่จะต้องมีเจนใหม่มาสานต่อ
และนี่คือเจเนอเรชันใหม่ เจนที่ 5 ของ Nissan SYLPHY ในรหัส B19 สปอร์ตขึ้น เท่ขึ้นหรูขึ้นกว่าเจนเดิม
โดยดูจากตัวรถแล้วเริ่มที่หน้าตามีความคล้ายกับ Nissan ARIYA ผสมผสานกันเริ่มที่กระจังหน้าแบบไร้ขอบพร้อมเส้นสายโค้งมนแบบรูปตัววี มีโลโก้ นิสสันอันโดดเด่นอยู่ตรงกลางผสานกับชุดไฟหน้า LED 3 ดวง พรัอมไฟ DRL แบบ LED รูปตัวแอลพาดยาวจากซ้ายไปขวาทำให้รถดูโดดเด่นสะดุดตาอย่างเห็นได้ชัด
ด้านข้างเด่นมีความคล้ายกับเจนที่แล้วตั้งแต่กกรอบกระจกโครเมียมสีเงินครอบทั้งแผง กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวทรงโฉบเฉี่ยว ที่เปิดประตูดึงก้าน ชายล่างประตูดีไซน์เส้นสายที่คมชัด หลังคาซันรูฟ ด้านท้ายพร้อมไฟ LED รมดำเสริมความสปอร์ตและล้ออัลลอยลายใหม่ทูโทนทั้งขนาด 16 นิ้ว พร้อมยาง 205/60R16 และ 17 นิ้ว พร้อมยาง 215/50R17 โดยตัวรถมีขนาดใหญ่ตั้งแต่
- ความยาว 4,656 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,825 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,448 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ 2,712 มิลลิเมตร
- น้ำหนักรถ 1,304-1,338 กิโลกรัม
ภายในยังไม่มีการเปิดเผยแต่ยังคงใช้บริการขุมพลังเดิมด้วยแเบนซินล้วนขนาด 1.6 ลิตร HR16DE 139 แรงม้าที่ 6,300 รอบต่อนาที แรงบิด 159 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ XTRONIC CVT เป็นตัวเลือกสำหรับสาวกชอบความง่ายๆไม่ต้องดูแลเยอะแต่ให้ความแรงและประหยัดให้ความเร็วสูงสุด 186 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
และอาจมีขุมพลัง e-Power เข้ามาเสริมทัพกับเบนซิน HR12 DE 1.2 ลิตร 72 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 103 นิวตันเมตรที่ 3,200-5,200 รอบต่อนาที ทำหน้าที่ในการปั่นกระแสไฟไปเก็บที่แบตเตอรี่ จับคู่กับ มอเตอร์ไฟฟ้ารุ่น “EM 57”
พ่วงเข้ากับชุดแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 1.57 kWh มีจำนวน 4 โมดูล ให้กำลังสูงสุด 136 แรงม้า ที่ 4,000-8,992 รอบต่อนาที แรงบิด 300 นิวตันเมตรที่ 500-3,008 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติแบบ Single Speed Gear Reduction พร้อมโหมดการขับขี่ 4 โหมดทั้ง Normal, S, Eco, และ EV โดยเตรียมเปิดตัวที่จีนต้นปี 2026 ผ่านผู้จำหน่าย Dongfeng Nissan
ที่มา PC Auto