อาร์เจนติน่าเป็นอีกหนึ่งประเทศที่เตรียมเปิดตัว ISUZU D-MAX เจเนอเรชันที่ 3 ช้ากว่าประเทศอื่นๆที่เปิดตัวไปก่อนหน้าตั้งแต่ปี 2019
แต่การเปิดตัวที่อาร์เจนติน่าครั้งนี้ได้หน้าใหม่ปรับโฉมครั้งที่ 2 แบบเดียวกับไทยที่เปิดตัวเมื่อ 2 ปีก่อน สำหรับ ISUZU D-MAX
กระจังหน้าแนวนอนแบบเขี้ยวซ่อนรูป 2 ชั้น ดีไซน์เอกลักษณ์พร้อมตรา ISUZU ขนาดใหญ่แบบ 3-Dimension สี Silky Silver และ Dark Grey สอดรับกับไฟหน้า ISUZU Vision Bi-LED พร้อม Multifunctional Daylight ทำหน้าที่ทั้ง Daylight ไฟหรี่ และไฟเลี้ยวที่ย้ายมาอยู่ในโคมเดียวกัน ลงตัวกับชุดกันชนหน้าดีไซน์ใหม่ผสมผสานดีไซน์ช่องระบายอากาศทรงหกเหลี่ยมพร้อม Air Curtain นวัตกรรม Aerodynamic ลดแรงต้านอากาศ แบบฉบับ รถสปอร์ตหรู
ไฟตัดหมอกหน้า LED ฝาท้ายใหม่ดีไซน์รูปตัว H พร้อมสปอยเลอร์ในตัวกระบะท้าย ไฟท้ายแบบ TRIPLE- ARMOUR LED กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว LED ล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 265/60 R18
ภายในมาพร้อมชุดแผงคอนโซลหน้า Sharp Horizontal Layers เพื่อการใช้งานที่สะดวกสบาย ตามหลัก Usability Design เพื่อสร้างประสบการณ์พิเศษในทุกการเดินทาง โทนสีดำเงิน ชุดมาตรวัดเรืองแสงพร้อมจอขนาดใหญ่ 7 นิ้ว Multitasking System เชื่อมต่อข้อมูลกับหน้าจอ Integrated MID แสดงผลได้หลายฟังก์ชันปรับเปลี่ยนดีไซน์หน้าจอได้ 2 สไตล์ และเชื่อมต่อข้อมูลกับ Infotainment Display สะดวกยิ่งขึ้น พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันปรับระดับได้ 4 ทิศทาง
หน้าจอระบบสัมผัส Infotainment Display ขนาด 9 นิ้ว รองรับการใช้งานทั้งระบบ Wireless Android Auto และ Wireless Apple CarPlay ระบบแสดงองศามุมปีนไต่ ลาดเอียง และทิศทางการเลี้ยวของล้อ ที่หน้าจอ Integrated MID และ Infotainment Display ลุยได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น และ Charging Socket แบบ USB-C ชาร์จได้รวดเร็วทั้งที่นั่งด้านหน้าและด้านหลัง
เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง เทคโนโลยี COOLMAX ลดการสะสมความร้อน ระบบเสียงรอบทิศทาง 8 ลำโพง Dynamic Surround Sound แผงควบคุมระบบปรับอากาศแบบ Dual Zone ควบคุมอุณหภูมิอิสระซ้าย-ขวา สามารถกรองฝุ่นขนาดเล็กได้ถึงระดับ PM 2.5 ปุ่ม Push Start พร้อมกุญแจแบบ Keyless Entry พร้อมฟังก์ชัน Remote Engine Start สตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยกุญแจรีโมทในระยะ 20 เมตร
ขุมพลังที่จำหน่ายแนวโน้มสูงจะเป็นดีเซลเทอร์โบแปรผันไฟฟ้า E-VGS Turbo รุ่น 4JJ3-TCX ขนาด 3.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้าที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูง 450 นิวตันเมตร ที่ 1,600-2,600 รอบต่อนาที มีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา 6 สปีด พร้อม Genius Sport Shift เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อม REVTRONIC และ Paddle Shift เลือกได้ทั้งแบบขับเคลื่อนสองและขับเคลื่อนสี่ล้อ Part-Time Terrain Command พร้อม Diff-Lock ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า ใหม่ Rough Terrain Mode ช่วยควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์ เบรกให้เหมาะสมเพื่อให้สามารถผ่านอุปสรรคไปได้ ทำงานได้ทั้ง 2H, 4H และ 4L พร้อมออปชันความปลอดภัยพื้นฐานทั้ง
- ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน BSM (Blind Spot Monitoring)
- เตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
- เบรก ABS
- กระจายแรงเบรก EBD
- ควบคุมการทรงตัว ESC
- ป้องการลื่นไหล TCS
- ช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน HSA (Hill Start Assist)
- ควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน HDC (Hill Descent Control)
- เปิดไฟฉุกเฉินอัตโนมัติ
- เมื่อเบรกกะทันหัน ESS (Emergency Stop Signal)
- สัญญาณเตือนการจอด Parking Aid System พร้อมเซนเซอร์กะระยะ 8 จุดรอบคัน
- ตัดการทำงานของ BSM และ RCTA แบบอัตโนมัติในกรณีลากจูง
- ถุงลมนิรภัยรอบคัน
- Crash Unlock ปลดล็อกประตูอัตโนมัติ เมื่อถุงลมนิรภัยทำงาน
- ตรวจวัดลมยาง TPMS
เบื่องต้น ISUZU D-MAX เตรียมเปิดตัวที่อาร์เจนติน่า เร็วๆนี้ และแนวโน้มสูงว่าจะเปิดตัวในเดือนกันยายนนี้ ผ่านผู้จำหน่าย Belcastro Group
ทางด้านเมืองไทยเตรียมเผยรุ่นใหม่ รุ่นปรับปรุงใหม่ หรือ Model Year เพิ่มออปชันทั้ง พวงมาลัยไฟฟ้า กล้องมองภาพรอบคัน ที่ชาร์จมือถือไร้สาย แม้กระทั่งเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด รุ่น L-B500 จะมาจุติในรุ่น 3.0 Ddi MAX FORCE หรือไม่ ด้านหน้าตาจะยังคงเดิมหรือปรับใหม่ถ้าปรับหน้าจริงอาจเป็นการปรับโฉมครั้งที่ 3 ในรอบ 6 ปีของเจนนี้ พบกันปลายปีนี้
ที่มา Motor 1