More

    Toyota HILUX TRAVO OVERLAND หล่อดุดัน ลุยดี ช่วงล่างเด่น

    นับเป็นความภูมิใจของทีม Car2Day พร้อมกับเพื่อนๆสื่อหลายสำนักกลุ่มแรกของไทยที่ได้ลองขับ Toyota HILUX TRAVO OVERLAND เจเนอเรชันที่ 9

    Toyota HILUX TRAVO OVERLAND

    Toyota HILUX TRAVO OVERLAND PLUS 4TREX มาในร่าง 4 ประตูรุ่นท็อปสุด มาแทนรุ่น HILUX REVO ROCCO

    Design & Exterior

    ภายนอกทรงพลังและคล่องตัว ผสานความ แข็งแกร่ง (Tough) เข้ากับความ คล่องตัว (Agile) ด้านหน้าดีไซน์ใหม่แบบ Cyber Sumo แข็งแกร่ง มั่นคง และทรงพลัง ตั้งแต่ฝากระโปรงหน้ารถดีไซน์นูนๆขึ้นรูปสวยงาม ตราโลโก้จากเดิมเป็นตราสามห่วงที่ใช้มานานถึง 23 ปี กลับมาเป็นตัวอักษร Toyota อีกครั้ง ติดตั้งในกระจังหน้า ทรงสามเหลี่ยมไส้ในลายรังผึ้ง Hexagonal Grip สีเดียวกับตัวรถ

    ไฟหน้า LED พร้อม Daytime Running Light โฉบเฉี่ยว สะกดทุกสายตาสปอร์ตบาร์เสริมความแกร่ง ไฟตัดหมอกหน้า LED ชุดกันชนหน้าทรงเหลี่ยมพร้อมช่องระบายอากาศขนาดใหญ่ทรงสามเหลี่ยม

    Toyota HILUX TRAVO OVERLAND

    ด้านข้างดีไซน์คุ้นตาเพราะยกโครงเก๋งและชุดประตูมาจาก HILUX REVO แม้จะดูเชยแต่ทางพี่โตปรับดีไซน์ให้เข้ากับความเป็นเจนใหม่ด้วย เสาอากาศเสาสั้นติดบนกระจกบังลมหน้า การตกแต่งสีดำเงาและสีเดียวกับตัวรถ กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว LED ที่เปิดประตูรถ สปอร์ตบาร์ คิ้วขอบล้อตกแต่งสีดำเงา พร้อมล้ออัลลอยสีดำเข้มขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 265/60R18 จาก Bridgestone DUELER HT 684 II

    บันไดข้าง พื้นลายรังผึ้ง Hexagonal Grip เพิ่มการยึดเกาะ และ สะดวกในการก้าวขึ้นลง บันไดเหยียบข้างกระบะท้าย ช่วยให้การขึ้นลงสะดวกขึ้น พร้อมไฟท้าย LED ดีไซน์ใหม่ รูปตัว C ที่มีไฟเบรก รูปตัว C ไฟถอย ไฟเลี้ยวข้างเดียวดวงเล็ก พร้อมไฟตัดหมอกหลัง LED ฝาท้ายทรงใหม่ติดตรา Toyota ขนาดใหญ่สีดำ พร้อมช่วยผ่อนแรงฝาท้ายกระบะ เปิด-ปิดง่าย

    Toyota HILUX TRAVO OVERLAND

    Dimension

    • ความยาว 5,320 มิลลิเมตร
    • ความกว้าง 1,885 มิลลิเมตร
    • ความสูง 1,815 มิลลิเมตร
    • ฐานล้อ 3,085 มิลลิเมตร
    • ความกว้างฐานล้อหน้า 1,530 มิลลิเมตร และล้อหลัง 1,555 มิลลิเมตร
    • ความสูงใต้ท้องรถ 219 มิลลิเมตร
    • น้ำหนักรถ 2,085 กิโลกรัม
    • ความจุถังน้ำมัน 80 ลิตร
    • มิติกระบะท้ายนั้นมีขนาดพอดีตั้งแต่ความยาว 1,555 มิลลิเมตร กว้าง 1,540 มิลลิเมตร ความสูงในกระบะท้าย 480 มิลลิเมตร

    Toyota HILUX TRAVO OVERLAND

    Interior & Convenience

    ภายในมีความคมเข้มผสมกับความเรโทรด้วยแผงคอนโซลหน้าทรงเหลี่ยมออกแบบฟังก์ชันใช้งานได้จริงหุ้มด้วยหนังสัมผัสแข็งๆสีดำปรับชุดแผงให้ต่ำลง เริ่มที่จอแสดงข้อมูลการขับขี่ ขนาด 12.3 นิ้ว แบบดิจิทัล ทันสมัย คมชัดรวมถึงปรับตำแหน่งองศากรอบมาตรวัดลดลงเพื่อการมองเห็นที่ดี เครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสแบบลอยตัวขนาด 12.3 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย พร้อมลำโพง 8 จุด พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้าน หุ้มหนังยกมาจาก Toyota Land Cruiser Prado ติดตราอักษร Toyota ปรับได้ 4 ทิศทาง

    ที่ชาร์จมือถือไร้สาย Wireless Charger ที่วางแก้วน้ำขนาดใหญ่ ที่พักแขนช่วยลดความเหนื่อยล้าขณะขับขี่ เบรกมือไฟฟ้า EPB พร้อมระบบหน่วงเบรกอัตโนมัติ Auto Brake Hold หัวเกียร์ดีไซน์กะทัดรัดจับกระชับ เครื่องปรับแยกอุณหภูมิซ้าย-ขวาอัตโนมัติพร้อมช่องแอร์ด้านหลัง ช่องเสียบ USB Type C 5 จุด และช่องเก็บความเย็น Cool Box แผงประตูสีดำหุ้มหนังสัมผัสบุนุ่ม

    Toyota HILUX TRAVO OVERLAND

    เบาะนั่งออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ หนัง SOFTEX นุ่ม นั่งสบาย ปรับไฟฟ้าคนขับ 8 ทิศทางพร้อมปุ่มดันหลังไฟฟ้า ด้านคนนั่งปรับด้วยมือ 4 ทิศทาง นั่งสบายดุจรถเก๋ง ส่วนเบาะหลัง REVO เป็นอย่างไร TRAVO เป็นอย่างนั้นด้วยการวางตำแหน่งเบาะหลังชันเหมือนเดิมนั่งได้ 3 คน ปรับแยกพับแบบ60/40 และมีที่ท้าวแขนใส่แก้วน้ำได้ 2 จุด มีมือจับให้มากถึง 8 จุดตั้งแต่เสา A หลังคารถ และเสา B มีไฟอ่านหนังสือ LED และแผงบังแดดคู่หน้าเป็นที่สิงสถิตของที่เก็บนามบัตรฝั่งคนขับและกระจกแต่งหน้าฝั่งผู้โดยสาร

    Toyota HILUX TRAVO OVERLAND

    Performance & Transmission

    ขุมพลังยังคงเดิมที่พัฒนาใหม่ ดีเซลเทอร์โบแปรผันขนาด 2.8 ลิตร รหัส 1GD-FTV 204 แรงม้าที่ 3,000-3,400 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ที่ 1,600–2,800 รอบต่อนาที เทคโนโลยีหัวฉีด อัจฉริยะ i-Art ช่วยให้ประหยัดน้ำมัน ควบคุมหัวฉีดอย่างแม่นยำด้วยเซ็นเซอร์คอมพิวเตอร์ทำงานร่วมกับปั๊มคอมมอนเรล แรงดันสูงสุด 250 MPa ให้ละอองน้ำมันละเอียด เผาไหม้หมดจด

    ติดตั้งระบบ Stop & Start ระบบดับเครื่องยนต์อัตโนมัติเมื่อรถจอดนิ่ง เพื่อเพิ่มการประหยัดน้ำมันโดยช้อมูล Eco Sticker ประหยัดถึง 14.3 กิโลเมตรต่อลิตร ในเมือง 12.98 กิโลเมตรต่อลิตร นอกเมือง 15.15 กิโลเมตรต่อลิตร ให้ค่า CO2 184 กรัมต่อกิโลเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมระบบ Sequential Shift พร้อมโหมดการขับขี่ ECO, Normal และ Sport

    Toyota HILUX TRAVO OVERLAND

    Handling & Ride On Road

    ต้องบอกเลยว่า TRAVO OVERLAND ทางวิศวกรไทยตั้งใจทำรถคันนี้ให้ผู้ขับขี่มีอรรถรสในการขับดี สนุกสนาน และเร้าใจ และผลออกมานั้นทำได้ดีเกินคาดและต่างจาก REVO จากเส้นทางกรุงเทพฯ-ฉะเชิงเทรา-พัทยา ไปกลับ 418 กิโลเมตร ทั้งทางเรียบ มอเตอร์เวย์ กม. 7 เส้นบ้านโพธิ์ สนามชัยเขต จนมาถึง ศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติ (ATTRIC) ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา

    เริ่มที่ขุมพลัง 2.8 204 แรงม้าแม้ตัวเลขเท่าเดิมแต่มีการจูนซอฟต์แวร์ กล่อง ECU ควบคุมในส่วนเครื่องยนต์ ระบบการจ่ายน้ำมันเครื่องยนต์ ตัวเทอร์โบชาร์จเจอร์ใหม่ และกล่อง EDU ยกหัวฉีดใหม่ ส่งผลให้พลังแรงขึ้นตอบสนองความต้องการในการเร่งแซงทันใจ ว่องไว  รอบเครื่องยนต์ 90-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเล่นรอบสูงไปนิดตั้งแต่ 1,700 1,900 2,000 และ 2,100 ตามลำดับ ด้านความประหยัดทำได้ 13.5 กิโลเมตรต่อลิตรจัดว่าเป็นตัวเลขประหยัดที่ใกล้เคียงกับทาง ECO Sticker กำหนดไว้ ด้านความเร็วสูงสุดทำได้ 174 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

    Toyota HILUX TRAVO OVERLAND

    การทำงานของระบบเกียร์ 6 สปีดจากค่าย AISIN แม้จะเป็นลูกเดิมลูกเดียวกับคู่แข่งเจ้าใหญ่ อัตราทดเฟืองท้ายเหลือ 3.909 เซดเกียร์มาดีราบรื่นในทุกจังหวะเปลี่ยนเกียร์เน้นเรียกกำลังแต่ยังให้ความประหยัด พร้อมโหมดการขับขี่เน้นใช้ ECO หรือ Normal ในยามขับทั่วๆไป และโหมด Sport เรียกกำลังมากกว่าเน้นขับปราดเปรียว เสียอย่างเดียวถ้ามี Paddle Shift มาด้วยรับรองสนุกคูณ 2 แน่นอน

    การเก็บเสียงนั่นเงียบตั้งแต่ 60-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมงด้วยการบุวัสดุซับเสียงเพิ่มหลายจุดในพื้นที่ส่วนล่างของรถฉีดโฟมเพิ่มที่ใต้ท้องรถ มีฉนวนซับเสียงและครีบรีดอากาศในซุ้มล้อ ฉนวนเข้าห้องโดยสารรวมถึงออกแบบฝากระโปรงหน้ามีขอบสันซ้าย-ขวามีคานเสริมใต้ฝากระโปรง มีครีบอากาศบนฐานกระจกมองช้าง และครีบบริเวณขอบไฟท้าย เพื่อลดเสียงลมปะทะเรียกว่าอภิรมย์สราญใจทุกการเดินทาง

    เทคโนโลยี “Dynamic Cloud” ในด้านระบบช่วงล่างหน้าแบบอิสระปีกนก 2 ชั้นคอยล์สปริงและเหล็กกันโคลง ด้านหลังมาแบบแหนบแผ่นซ้อน 4 แผ่น โช้คอัพ 4 ต้นมาแบบใช้วาล์วควบคุมแบบมัลติลีฟ เซตมา หนึบนำหนุ่มตาม เกาะถนนทุกโค้งแม้มีอาการดีดเล็กน้อยแต่ไม่ละคายเคืองและไม่ว่าจะถนนเรียบถนนลุยหลายร้อยโค้งเอาอยู่แน่นอน

    Toyota HILUX TRAVO OVERLAND

    เมื่อช่วงล่างดีพวงมาลัยต้องดีด้วยและดีจริงกับพาวเวอร์ไฟฟ้า EPS ปรับจูนให้สมดุลกับช่วงล่างที่พัฒนาใหม่ด้วยวงเลี้ยวแคบสุด 6.3 เมตรออกแบบแกนพวงมาลัยขนาดใหญ่ ช่วยให้ควบคุมได้เฉียบคม ตอบสนองดี และลดแรงสั่นสะเทือน ส่งผลให้การควบคุมง่ายขึ้น น้ำหนักดี ในความเร็วต่ำและเพิ่มน้ำหนักมานิดนึงเมื่อขับในย่านความเร็วสูง

    ทางด้านระบบเบรกเป็นดิสก์เบรก 4 ล้อ แรกๆอาจไม่ชินเท่าไหร่ในการเหยีบเบรกแต่พอขับนานๆ คุ้นเคยกับรถแล้วการ ตอบสนองการเบรกได้แม่นยำ ช่วงเบรกหนักในทางตรงทำงานได้มั่นใจขึ้น แม้เหยียบเบรกลึกพอสมควรแต่ก็เอาอยู่ทันใจอยู่ โดยดิสก์เบรกหน้ามีขนาดใหญ่ถึง 338 มิลลิเมตร และด้านหลัง 335 มิลลิเมตร

    Toyota HILUX TRAVO OVERLAND

    Handling & Ride Off Road

    หลังจากขับเส้นทางเรียบ มอเตอร์เวย์ เข้าศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติ (ATTRIC) ของทาง สถาบันยานยนต์ (TAI) และสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) บนพื้นที่กว่า 1,200 ไร่ มาแล้วมาถึงเส้นทางออฟโรดโหดที่สวนป่าสนามชัย

    นอกจากจะเป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Part Time ทั้ง 2H, 4H  และ 4L ยังมีอาวุธลับใหม่กับระบบ Multi-Terrain Select (MTS) ช่วยปรับการขับขี่ให้เหมาะสมกับสภาพพื้นผิวที่หลากหลาย 6 โหมดทั้งโหมด ดิน Dirt, ทราย Sand, โคลน Mud, หิน Rock, หิมะ Deep Snow และ AUTO มีควบคุมเฟืองท้าย (Auto Limited Slip Differential)

    Toyota HILUX TRAVO OVERLAND

    ระบบ MTS สามารถควบคุมการทำงานเครื่องยนต์และเบรกให้เหมาะสมในแต่ละสภาพโหดเมื่อทำงานในโหมด 4H และ 4L ส่งกำลังไปยังล้อหลังหรือล้อทั้งสี่ ในยามที่เจออุปสรรค ล้อหลังข้างใดข้างหนึ่งเกิดตกหลุม ติดอยู่ในร่องดิน ร่องโคลนบางๆไปจนถึงร่องโคลนหนาๆ พื้นที่ๆเต็มไปด้วยหิน เส้นทางที่ยากลำบากที่ต้องการแรงยึดเกาะมากขึ้นจนเกินกำลังที่ระบบขับเคลื่อนจะเข้าถึง ไต่เนินชัน  ตะลุยน้ำฝ่าลำธารลึก หลุมสลับ และทางลาดเอียงไต่ผาหิน

    เพียงหมุนปุ่ม MTS ให้ตรงโหมด ช่วยให้รอดจากอุปสรรคทางที่โหดข้ามไปไม่ได้ย่นระยะเวลาการผ่านทางโหดทุกรูปแบบให้ง่ายขึ้น สามารถใช้ร่วมกับล็อคเฟืองท้าย Diff-Lock ได้ และยังมีระบบแสดงองศามุมทิศทางการเลี้ยวผ่านหน้าจอมาตรวัด MID แต่ไม่มีภาพแสดงการปีนไต่ และกล้องรอบคัน 360 องศาสามารถดูได้แต่จะตัดมาที่ทุกๆ 15 กิโลเมตร และจอให้มาแค่สัดส่วน 4:3 ไม่ใช่ 16:9 เต็มจอ ทำให้ขัดใจไปบ้างในการดู

    Toyota HILUX TRAVO OVERLAND

    ส่วนเส้นทางตรงแฝงไปด้วยทางขรุขระคล้ายเส้นแข่ง Cross Country ก็ทำผลงานได้ดีทั้งพวงมาลัยและช่วงล่าง และ Dynamic Could ที่เพิ่มจุดเชื่อมพื้นตัวถัง เพื่อเสริมความแข็งแรงของห้องโดยสาร ปรับปรุงการทรงตัวและเพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่

    ติดตั้งยางรองแท่นเครื่องแบบไฮดรอลิก และ ยางรองตัวถังแบบ Shear Type ลดแรงสั่นสะเทือนเข้าสู่ห้องโดยสาร เพิ่มประสิทธิภาพ การควบคุม การทรงตัว ปรับความนุ่มนวลให้ดียิ่งขึ้น เรียกว่าเต็มสิบไม่หักซักคะแนนเดียว

    Toyota HILUX TRAVO OVERLAND

    Safety & Feature ด้วย Toyota Safety Sense

    • All-Speed Dynamic Radar Cruise Control ควบคุมและปรับลดความเร็วอัตโนมัติ
    • Lane Tracing Assist (LTA) ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน
    • Curve Speed Reduction ช่วยลดความเร็วอัตโนมัติก่อนเข้าโค้ง
    • Parking Support Brake (PKSB) ช่วยเตือนพร้อมช่วยเบรกอัตโนมัติ
    • Pre-collision System (PCS) ความปลอดภัยก่อนการชน
    • Lane Departure Alert (LDA) เตือนเมื่อออกนอกเลน พร้อมหน่วงกลับอัตโนมัติ
    • Automatic High Beam (AHB) ความคุมไฟอัตโนมัติ
    • Blind Spot Monitor (BSD) ช่วยเตือนมุมอับสายตา ที่กระจกมองข้าง
    • Rear Cross Traffic Alert (RCTA) เตือนเมื่อมีรถผ่านในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง

    ความปลอดภัยพื้นฐาน

    กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา  PVM (PANORAMIC VIEW MONITOR) ถุงลมเสริมความปลอดภัย SRS 7 ตำแหน่ง Parking sensor สัญญาณเตือนกะระยะหน้า 4 จุด และด้านหลัง 4 จุด ดิสก์เบรก 4 ล้อให้การเบรกตอบสนองรวดเร็วแม่นยำ  เบรก ABS กระจายแรงเบรก EBD เสริมแรงเบรก BA ควบคุมการทรงตัว Vehicle Stability Control-VSC ป้องกันล้อหมุนฟรี Traction Control-TRC แบบ A-TRC ควบคุมการส่ายของส่วนพ่วงท้าย Trailer Sway Control-TSC

    ช่วยออกตัวบนทางลาดชัน Hill-Start Assist Control-HAC ควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน Downhill Assist Control-DAC สัญญาณไฟกะพริบเมื่อเบรกกะทันหัน Emergency Stop Signal-ESS แจ้งเตือนลมยาง Tire Pressure Monitoring System-TPMS

    Toyota HILUX TRAVO OVERLAND

    Verdict

    ภายนอกดูดันย้อนยุคด้วยตราอักษร Toyota ผสมความแกร่งฉกาจแบบซูโม่ แต่ติดที่ว่ากระจังหน้าทรงรังผึ้งดูหวานไปหน่อยด้วยสีเดียวกับตัวรถต้องเปลี่ยนเป็นสีดำก็จะดี ได้คิ้วล้อเข้มล้อเข้ม 18 นิ้วใส่ยาง HT มาดดุแต่สุขุมขึ้น ถึงบันได้เหยียบข้างกระบะกับไฟท้าย LED คล้ายกับคู่แข่งชาติเดียวกันและจากอเมริกา

    ภายในเบาะคู่หน้านั่งนุ่มสบายคล้าย Toyota CAMRY ตั้งแต่พนักพิง ตัวเบาะที่ออกแบบรองรับแผ่นหลัง ปีกซ้าย-ขวาขนาดพอดี ส่วนเบาะล่างรองรับรองก้น ต้นขา และข้อพับเข่า โอบกระชับทุกส่วน แม้เบาะหลังจะเพิ่มวัสดุหุ้มเบาะ 4 ชั้น แต่ไม่ได้ออกแบบโครงเบาะให้เอนยังชันเหมือนตอน REVO ผลออกมานั่งแล้วเมื่อยล้า

    การจัดวางฟังก์ชันหยิบใช้ง่ายเช่นเบรกมือไฟฟ้าและ Auto Hold ใกล้คันเกียร์ ปุ่มระบบขับสี่ที่เปลี่ยนมาจากปุ่มหมุนมาเป็นปุ่มบิดขึ้นลงก็ใช้งานง่ายไปอีกแบบ มาตรวัดจอใหญ่ดีคล้าย Camry พวงมาลัย 3 ก้านเท่มาจาก Prado ด้านจอลอยตัวใหญ่ดีแต่ขัดตรงที่กล้องรอบคันแสดงจอแคบไป ทัศนวิสัยชัดเจนแม้ตำแหน่งฝากระโปรงหน้าดูคล้ายๆค่ายรถญี่ปุ่นค่ายหนึ่ง

    Toyota HILUX TRAVO OVERLAND

    ขุมพลัง 2.8 ลิตร ม้าเดิมแรงบิดเดิมแต่ปรับกำลังให้วิ่งฉิ่วขึ้นแรงขึ้นสะใจขึ้นแต่ก็มีผลกับการกินน้ำมันด้วย แต่ถ้าขับประหยัดคันนี้ประหยัดได้ถึง 16.8 กิโลเมตรต่อลิตร ช่วงล่างดีเด่นทางเรียบเรียบสนิททางลุยสู้เสมอ ระบบขับเคลื่อนจัดเต็มไม่แพ้คู่แข่งอเมริกา ดิกส์เบรก 4 ล้อแรกไม่คุ้นเพราะต้องกดแป้นเบรกลึกๆ แต่พอนานๆไปกลับเอาอยู่เบรกทันใจ

    แม้ออปชันบางอย่างที่ไทยไม่มีทั้ง เสาอากาศครีบฉลาม ลำโพง  JBL ที่บังแดดคู่ติดตั้งกระจกส่องหน้าพร้อมไฟ 2 ฝั่ง ส่วนตัวกลับมองเฉยๆไม่มีก็ได้มีก็ดี เพราะคาดว่าข้าวของเหล่านี้จะเก็บไปไว้ในรุ่นปรับปรุง Model Year หรือรุ่นท็อปกว่าอย่าง GR Sport

    การปรับปรุงครั้งใหญ่ของ Toyota HILUX TRAVO OVERLAND PLUS 4TREX ตั้งแต่หัวจรดท้าย รวมถึงเครื่องยนต์ ช่วงล่างและเบรก แม้ใช้โครงเก๋งเดิมจาก REVO บอกได้เลยว่าเป็น HILUX ที่ปรุงรสสขาติกลมกล่อมคลุกเคล้าอย่างลงตัวจากทีมวิศวกรไทยรังสรรค์เติมแต่งให้สมบูรณ์ภายใต้คุณ อัญญารัตน์ สุทธิเบญจกุล หัวหน้าวิศวกรระดับภูมิภาค โตโยต้า มอเตอร์ เอเชีย (ประเทศไทย) สาวแกร่งรับผิดชอบจนออกมาเป็นกระบะเหนือกระบะด้วยราคา 1,366,000 บาท

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts