Apple ต้องออกมาปรับแผนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอีกครั้ง หลังพบกับความเป็นจริงที่ว่าการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าโดยไม่มีพวงมาลัยหรือแป้นเหยียบยังไม่สามารถทำได้จริง
สำนักข่าว Bloomberg ได้ออกมารายงานว่า Apple ยังไม่สามารถสร้างรถยนต์ขับขี่อัตโนมัติเต็มรูปแบบด้วยเทคโนโลยีปัจจุบันได้ และด้วยเหตุนี้จึงเป็นที่ลือกันว่า มันเป็นสาเหตุที่ทำให้ค่ายเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ประกาศเลื่อนวันเปิดตัวรถออกไปอีก จากเป้าหมายเดิมในปี 2025 ไปเป็นปี 2026 และได้กลับมาพัฒนารถที่มีพวงมาลัยและแป้นเหยียบอีกครั้ง
Bloomberg เข้าใจว่า ตัวรถนั้นจะสนับสนุนการขับขี่อัตโนมัติเต็มรูปแบบบนทางหลวง และปล่อยให้ผู้ขับขี่ทำสิ่งอื่นในขณะที่รถยนต์กำลังขับเคลื่อนด้วยตัวมันเอง โดย Kevin Lynch หัวหน้าโครงการรถยนต์ของ Apple เป็นคนแรกที่ผลักดันให้รถยนต์ขับขี่อัตโนมัติระดับ 5 เปิดตัวในปี 2025
หัวใจของแพ็กเกจเทคโนโลยีอัตโนมัติของ Apple คือ ระบบคอมพิวเตอร์ออนบอร์ดที่มีชื่อรหัสว่า ‘Denali’ โดยโปรเซสเซอร์ของมันได้รับการกล่าวขานว่าให้ประสิทธิภาพเทียบเท่ากับชิป Mac ระดับสูงสุดของ Apple ประมาณ 4 ตัว รวมกัน ซึ่งมันถูกพัฒนาโดยกลุ่มวิศวกรรมซิลิคอนของบริษัท และเกือบจะพร้อมสำหรับการผลิตจริงแล้ว
Apple ยังตั้งใจที่จะขายรถยนต์ไฟฟ้าที่มีกล้อง เรดาร์ และลิดาร์ โดยระบบของ Apple ยังมีส่วนประกอบบนคลาวด์สำหรับการประมวลผล AI ที่อาศัยโฮสต์จาก Amazon Web Services
Apple หวังที่จะสร้างยานยนต์โดยใช้แพลตฟอร์ม EV ที่มีอยู่ก่อนแล้ว แต่กล่าวกันว่าพวกเขายังอยู่ระหว่างการตามหาพันธมิตร นอกจากนั้น แผนการปัจจุบันยังได้กำหนดให้ตัวรถมีราคาต่ำกว่า 100,000 เหรียญสหรัฐ ทำให้มันจะกลายเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ Tesla Model S และ Mercedes-Benz EQS อย่างไรก็ตาม การออกแบบรถยังไม่ได้รับการสรุป และจะไม่เสร็จสิ้นจนกว่าจะถึงปี 2023
สำหรับทีมงานทำรถของ Apple นั้นประกอบด้วยพนักงานประมาณ 1,000 คน ซึ่งทำให้ทางบริษัทมีค่าใช้จ่ายตรงนี้ 1 พันล้าน เหรียญสหรัฐ ต่อปี โดยพวกเขากำลังดำเนินการทดสอบที่สำคัญของรถที่สนามแข่ง Chrysler เดิม ใกล้กับเมืองฟีนิกซ์ ซึ่งเป็นสนามแข่งที่ธุรกิจตัวแทนของ Apple ซื้อมาในราคา 125 ล้าน เหรียญสหรัฐ ในปี 2021
อ้างอิง : carscoops.com
