จากต้นแบบ BMW Vision NEUE KLASSE X เฉิดฉายครั้งแรกในฐานะรถต้นแบบจนสาวกบีมเมอร์รอคอยการมาของเวอร์ชันขายจริงจนเป็น BMW iX3 เจเนอเรชันใหม่
เปิดตัวอย่างเป็นทางการที่งาน Munich Motor Show 2025 และเป็นรุ่นแรกของค่ายที่ใช้แพลตฟอร์ม NEUE KLASSE (NEW CLASS) มาใช้ใน BMW iX3 เจเนอเรชันที่ 2 ในรหัส NA5
ภายนอกร่วมสมัย
เริ่มที่ภายนอกกับกระจังหน้าทรงไตคู่แนวตั้งทรงคลาสสิกที่ได้แรงบันดาลใจจากรุ่น 1500 (ปี 1962-1972) ไฟหน้า LED Adaptive โคมใหม่ดูดีสปอร์ตขึ้นพร้อมไฟ DRL LED รูปเลขเจ็ดในโคมเดียวกันถึง 2 ดวง ยาวประกบกับกระจังหน้าไตคู่ กันชนหน้าขนาดใหญ่ขอบกันชนหน้าซ้ายขวามาในแนวรูปตัวแอลและช่องระบายอากาศทรง 7 เหลี่ยมขนาดใหญ่
ด้านข้างเท่ด้วยสเกิร์ตและแนวหลังคาที่ทอดยาวไปด้านท้ายรถ พื้นผิวกระจก และโครงสร้างกระจกที่เพรียวบางแสดงให้เห็นว่านักออกแบบปรับแต่งหลักอากาศพลศาสตร์ให้มีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศต่ำเพียง 0.24 ขณะที่กระจกหลังถูกล้อมกรอบด้วยสปอยเลอร์บนหลังคาและที่บังลมด้านข้าง หลังคารถแบบ Panoramic Glass Sunroof ป้องกันรังสียูวี กระจกมองช้างพร้อมไฟเลี้ยวทรงเท่ ที่เปิดประตูแบบเรียบเนียนกับตัวถังรถ แบบ Flush-fitting
ชุดไฟท้าย LED รูปตัวแอลแนวนอนแบบแยกติดตราโลโก้ตรงกลาง พร้อมกันชนหลังทูโทนเสริมลิ้นสปอยเลอร์ และล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว พร้อมยาง 255/45R20 และมีขนาด 21-22 นิ้วเป็นออปชันเสริม ตัวรถมีมิติที่ใกล้เคียงกับรุ่น X3 รหัส G45 เกือบทุกมิติตั้งแต่
- ความยาว 4,782 มิลลิเมตร (ยาวกว่ารุ่น X3 27 มิลลิเมตร) 4,755 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,895 มิลลิเมตร (X3 กว้างกว่า 25 มิลลิเมตร)
- ความสูง 1,635 มิลลิเมตร (X3 สูงกว่า 25 มิลลิเมตร)
- ฐานล้อ 2,897 มิลลิเมตร (ฐานล้อยาวกว่ารุ่น X3 32 มิลลิเมตร)
- น้ำหนักรถ 2,360 กิโลกรัม
- ระยะต่ำสุดจากพื้น 176 มิลลิเมตร
- พื้นที่สัมภาระใต้ฝากระโปรงหน้า 58 ลิตร
ภายในไฮเทค
ชุดแผงคอนโซลหน้าแบบลอยตัวออกแบบเชื่อมกับแผงประตูรถส่วนหน้า มาพร้อมเทคโนโลยี BMW Panoramic iDrive ซึ่งประกอบด้วยหน้าจอส่วนบนของชุดแผงคอนโซลหน้า แบบ 3D Head-up Display ขนาด 43.3 นิ้ว ทอดยาวและแสดงข้อมูลโดยตรงสู่สายตาของผู้ขับขี่ ตั้งแต่เสา A ถึงเสา A สามารถปรับแต่งได้ โดยผู้ขับขี่สามารถเลือกสิ่งที่ต้องการดูได้และยังแสดงระบบนำทางและเทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติอีกด้วยในขณะเดียวกัน
หน้าจอสัมผัสกลางแสดงผลขนาด 17.9 นิ้ว และเอียงเข้าหาผู้ขับขี่มาพร้อมเทคโนโลยีด้วยระบบปฏิบัติการ BMW Operating System X (OS X) หรือ iDrive X รุ่นล่าสุดซึ่งกล่าวกันว่าตอบสนองได้รวดเร็วและใช้งานง่ายยิ่งขึ้นพร้อมโหมดปรับแต่ง My Modes และ BMW HypersonX Soundscape ที่ออกแบบเสียงจำลองการขับขี่ใหม่ และ Quick Select เข้าถึงฟังก์ชันที่ใช้งานบ่อยอย่างรวดเร็วและเข้าตรง
พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 4 ก้านทรงแปลกแบบหัวตัดท้ายตัด มีฟังก์ชันใช้งานพื้นฐานทั้งก้านไฟเลี้ยว ไฟหน้า ที่ปัดน้ำฝน ปุ่มเบรกมือไฟฟ้า สะดวกในการใช้งานเหมือนรถยนต์ทั่วๆไป มีระบบปรับอากาศแบบแยกอุณหภูมิ 3 โซน และชาร์จมือถือแบบไร้สาย มีแถบไฟ Light Effect ในบริเวณชุดแผงคอนโซลหน้ากับแผงประตูสี่บานรวมถึงภายนอกรถ ม่านบังแดดหลังคาพาโนรามิกกลาสที่ต้องเพิ่มเงินซื้อ รองรับการอัปเดตซอฟต์แวร์ผ่าน Over-the-Air (OTA)
เบาะนั่งดีไซน์ใหม่ให้ทั้งความสบายและบุคลิกสปอร์ต คอนโซลกลางออกแบบใหม่หมด ส่วนเบาะหลังจะเป็นทรงโซฟา ลูกค้าสามารถเลือกการตกแต่งห้องโดยสารได้หลายแบบทั้ง Essential, Contemporary, M Sport, และ BMW Individual ที่ใช้วัสดุหนังคุณภาพสูงไม่ว่าจะเป็นหนัง VEGANZA, M PERFORMTEX และ Merino พร้อมเบาะหลังพับได้แบบ 40/20/40 มีพื้นที่ก่อนพับเบาะ 520 ลิตร และพับเบาะมีพื้นที่มากถึง 1,750 ลิตร พร้อมกุญแจ BWM Digital Key Plus และลำโพง Harman Kardon 13 จุด
ขุมพลังไฟฟ้า
ขุมพลังไฟฟ้าเวอร์ชันใหม่ eDrive เจเนอเรชันที่ 6 จำหน่ายในช่วงแรกเป็นรุ่น iX3 50 xDrive ประกอบด้วยแบตเตอรี่แรงดันสูงพร้อมด้วยเทคโนโลยีเซลล์แบตเตอรี่ล่าสุดมีความจุ 108.7 kWh ผสมผสานกำลังมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ขับเคลื่อน 4 ล้อ EESM Drive System/ASM Technology โดยมอเตอร์ล้อหน้าให้พลังเป็น 167 แรงม้าที่ 4,607 รอบต่อนาที แรงบิด 255 นิวตันเมตรที่ 0-4,607 รอบต่อนาที และมอเตอร์ล้อหลัง 326 แรงม้าที่ 5,000 รอบต่อนาที แรงบิด 435 นิวตันเมตรที่ 0-5,000 รอบต่อนาที เมื่อทำงานร่วมกันได้พลังสูงสุด 469 แรงม้า แรงบิด 645 นิวตันเมตร
อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 4.9 วินาที มอบระยะวิ่งสูงสุดถึง 679-805 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ตามมาตรฐาน WLTP หรือ 799-947 กิโลเมตร (NEDC) ความเร็วสูงสุด 210 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 1 Speed
จากสถาปัตยกรรม 800 V มาพร้อมการชาร์จไฟที่สมบูรณ์แบบทั้งแบบ DC กระแสตรง และ AC กระแสสลับเริ่มที่ชาร์จไฟฟ้าแบบกระแสตรง (DC) สูงสุดได้ที่ 400 kW ใช้เวลาประมาณ 21 นาที ในการชาร์จไฟจาก 10–80% โดยชาร์จ 10 นาที วิ่งได้ 372 กิโลเมตร หรือ 438 กิโลเมตร (NEDC)
และกระแสสลับ AC สูงสุดได้ที่ 22 kW ใช้เวลาประมาณ 5.45 ชั่วโมง ในการชาร์จไฟจาก 0-100% และ 11 kW ภายใน 11 ชั่วโมง รองรับการจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับอุปกรณ์ภายนอกทั้ง Vehicle-to-Load (V2L) แบบ AC สูงสุด 3.7 kW, Vehicle-to-Home (V2H) และ Vehicle-to-Grid (V2G) แบบ DC สูงสุด 11 kW
พร้อม ‘Heart of Joy’ ชุดควบคุมสมรรถนะสูงอันล้ำสมัยที่ทำงานร่วมกับระบบ Dynamic Performance Control เพื่อควบคุมระบบการขับขี่ทั้งหมดภายในเสี้ยววินาที ความเร็วและแม่นยำในระดับนี้มอบประสบการณ์การขับขี่รูปแบบใหม่อย่างไร้ที่ติ เพื่อควบคุมระบบส่งกำลัง เบรก การคืนพลังงานเบรก และช่วงล่างเพื่อให้ได้ ความรู้สึกในการขับขี่แบบฉบับ BMW พร้อมช่วงล่างหน้าแบบอิสระปีกนกคู่หน้าและมัลติลิงก์หลัง ใช้สปริงเหล็กแต่เพิ่ม Hydraulic Rebound Stop
ความปลอดภัยด้วยระบบ ADAS
- ป้องกันการกระแทกจากด้านข้าง (Side Impact Protection)
- ความปลอดภัยป้องกันก่อนเกิดอุบัติเหตุ
- ควบคุมความเร็วคงที่พร้อมฟังก์ชันช่วยลดความเร็ว
- ระบบช่วยการขับขี่รุ่น Professional (Driving Assistant Professional)
- ช่วยนำเข้าที่จอดอัตโนมัติ (Parking Assistant)
- เซนเซอร์ควบคุมระบบความปลอดภัยเมื่อเกิดการชน
- เตือนการชนด้านหน้า
- เตือนการออกนอกเลน
- ช่วยจำกัดความเร็ว
- เตือนการเปลี่ยนเลน
- ขับขี่กึ่งอัตโนมัติ
ถุงลมนิรภัยสำหรับคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า ถุงลมนิรภัยด้านข้างสำหรับคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า, ถุงลมนิรภัยศีรษะสำหรับผู้โดยสารตอนหน้าและหลัง และถุงลมนิรภัยกลางห้องโดยสาร ระบบ Teleservices ปุ่มโทรออกฉุกเฉิน (Intelligent Emergency Call) คาร์ซีทแบบ ISOFIX ควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ (DSC) ป้องกันล้อล็อกขณะเบรก (ABS) เซนเซอร์ควบคุมระบบความปลอดภัยเมื่อเกิดการชน (Crash Sensor) ตรวจวัดลมยางและชุดปะยางฉุกเฉิน
BMW iX3 เจนใหม่ผลิตที่ฮังการีในปี 2025 จำหน่ายตั้งแต่ปี 2026 เริ่มที่ต้นปี (ช่วงเดือน มีนาคม-พฤษภาคม) สำหรับตลาดยุโรป กลางปี (ช่วงเดือน มิถุนายน-สิงหาคม) สำหรับสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และส่งมอบตั้งแต่กลางปีหน้า และมีการประกอบรุ่นนี้ที่เมืองเสิ่นหยาง ประเทศจีน ซึ่งได้รับการออกแบบให้ตรงกับความต้องการและความต้องการของลูกค้าในประเทศจีนโดยเฉพาะ ส่วนเมืองไทยอาจพบกันในปีเดียวกันที่เปิดตัวทั่วโลก และทางบีเอ็มดับเบิลยูเตรียมเผย NEUE KLASSE อีก 40 รุ่นภายในปี 2027
ที่มา BMW