More

    BMW M4 CS ตัวแรงรุ่นพิเศษ 551 แรงม้า 14.999 ล้านบาท

    สปอร์ตตัวแรงจากตระกูล M อย่าง BMW M4 ยังคงสร้างความเร้าใจให้กับเหล่าบีมเมอร์มาตลอดล่าสุดกับรุ่นใหม่รุ่นพิเศษ BMW M4 CS มาถึงเมืองไทยแล้ว

    BMW M4 CS

    BMW M4 CS วางตำแหน่งอยู่ตรงกลางระหว่างรุ่น M4 Competition Coupe และ M4 CSL

    ตัวถังมีการเลือกใช้วัสดุและแนวคิดด้านวิศวกรรมที่มุ่งเน้นการลดน้ำหนักของตัวรถลงรวมถึงการใช้วัสดุ CFRP (คาร์บอนไฟเบอร์) ที่หลังคา กระโปรงหน้า สปลิตเตอร์และช่องลมด้านหน้า ฝาครอบกระจกมองข้าง ดิฟฟิวเซอร์และสปอยเลอร์ท้ายรถ ต่างช่วยให้ศูนย์กลางแรงโน้มถ่วงลดระดับลงใกล้พื้นถนนมากยิ่งขึ้นเพื่อความคล่องตัวไม่ได้เป็นดาวเด่นในสนามแข่งเท่านั้น แต่ยังพร้อมดึงดูดสายตาทุกคู่บนท้องถนน

    กระจังหน้าก็มาในรูปแบบน้ำหนักเบาและไร้กรอบแต่งด้วยเส้นกรอบสีแดงและตราชื่อรุ่น “M4 CS” ในสไตล์ที่คล้ายคลึงกับรถแข่งพร้อมช่องระบายอากาศรูปตัว Y ขนาบข้างด้วยไฟหน้า Adaptive LED แบบ BMW Laserlight สีเหลืองแทนสีขาว มีไฟส่องสว่างเวลากลางวันในโทนสีเหลืองเหมือนกับรถแข่ง GT ส่วนไฟท้าย LED ยกเทคโนโลยี BMW Laserlight ที่เคยเปิดตัวไปในรุ่น M4 CSL มาสร้างเอกลักษณ์ด้วยเอฟเฟกต์ไฟท้ายแบบสามมิติ ด้านข้างมีช่องระบายอากาศด้านข้างสไตล์ M 

    BMW M4 CSมาพร้อมกับเบรก M Carbon Ceramic เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน เข้าชุดกับล้ออัลลอย M น้ำหนักเบาในดีไซน์ Star-spoke และยางสมรรถนะสูงสำหรับสนามแข่งขนาด 19 นิ้วในล้อหน้าพร้อมยาง UltraTrack 275/35 R19 และ 20 นิ้วในล้อหลัง พร้อมยาง UltraTrack 285/30 R20 พร้อมมิติตัวรถในรหัส G82 ดังนี้

    • ความยาว 4,801 มิลลิเมตร
    • ความกว้าง 1,918 มิลลิเมตร
    • ความสูง 1,399 มิลลิเมตร
    • ระยะฐานล้อ 2,857 มิลลิเมตร
    • ระยะต่ำสุดจากพื้น 123 มิลลิเมตร
    • น้ำหนักรถ 1,835 กิโลกรัม
    • ความจุถังน้ำมัน 59 ลิตร

    BMW M4 CS

    ห้องโดยสารก็ยังมีการใช้วัสดุ CFRP ในหลายจุดทั้งบริเวณคอนโซลกลาง แป้นเปลี่ยนเกียร์ องค์ประกอบตกแต่งพื้นผิวภายในต่าง ๆ หรือแม้แต่โครงสร้างของเบาะนั่งแบบ M Carbon โดยทั้งหมดนี้ช่วยให้บีเอ็มดับเบิลยู M4 CS ใหม่ มีน้ำหนักน้อยกว่าเพื่อนร่วมรุ่นอย่างรุ่น M4 Competition Coupe M xDrive ราว 15 กิโลกรัม

    มุ่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้ขับขี่ในทุกภารกิจ ด้วยพวงมาลัย M Alcantara แบบสามก้านตัดขอบล่าง ที่ไม่เพียงจับถนัดมือแต่ยังแต่งแต้มด้วยองค์ประกอบที่ได้แรงบันดาลใจมาจากสนามแข่ง เช่น เครื่องหมายสีแดงแทนจุดกึ่งกลางของพวงมาลัย และแป้นเปลี่ยนเกียร์ที่ทำจาก CFRP

    BMW M4 CS

    ส่วนเบาะนั่งแบบ M Carbon bucket seat หุ้มด้วยหนัง Merino สีดำตัดกับตะเข็บสีแดง จึงเข้ากับโทนสีดำ-แดงในส่วนอื่นๆ ของห้องโดยสารได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นโลโก้ “CS” สีแดงที่คอนโซลกลาง ป้ายอักษร “M4 CS” ที่ขอบประตูรถ เข็มขัดนิรภัยแบบ M ที่แต่งแถบสีประจำตัวของ BMW M เพดานสีดำ Anthracite พร้อมแต่งพื้นผิวภายในห้องโดยสารด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ ผสมผสานเป็นบรรยากาศของความสปอร์ตอย่างเต็มตัว

    BMW M4 CS

    หน้าจอควบคุมที่ใช้ระบบ BMW iDrive รุ่นล่าสุด พร้อมฟังก์ชันการสั่งงานจากระบบปฏิบัติการ BMW Operation System 8.5 ทำให้การใช้งานฟังก์ชันและบริการดิจิทัลต่าง ๆ ทั้งสะดวกรวดเร็ว สำหรับผู้ขับขี่ หน้าจอโค้ง BMW Curved Display จะแสดงข้อมูลเกี่ยวกับสมรรถนะของรถในสไตล์เดียวกับรถยนต์ตระกูล M รุ่นอื่น ๆ และยังจัดวางหน้าจอให้หันมาทาง ผู้ขับขี่เล็กน้อย จึงสามารถอ่านจอได้โดยไม่ต้องละสายตาจากท้องถนนข้างหน้า

    เช่นเดียวกับหน้าจอ Information Display ขนาด 12.3 นิ้วบริเวณหลังพวงมาลัย และจอ Control Display ขนาด 14.9 นิ้ว โดยมีไฟ M Shift Lights ช่วยให้สัญญาณเปลี่ยนเกียร์ติดตั้งอยู่ด้านบนจอ Information Display ที่อยู่เหนือพื้นที่สำหรับการควบคุมฟังก์ชันต่างๆของตัวรถ ระดับการยึดเกาะถนน และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ M xDrive ที่ปรากฏบนหน้าจอด้านล่าง

    BMW M4 CS

    ปุ่มควบคุมที่บริเวณคอนโซลหน้าก็ได้รับออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การขับขี่สไตล์ M เช่นกัน โดยมีปุ่มสำหรับเข้าตั้งค่าเครื่องยนต์ แชสซี พวงมาลัย เบรก และระบบ M xDrive อย่างครบครัน ทั้งยังสามารถเซฟการตั้งค่าเป็นพรีเซ็ตได้ 2 ชุด เพื่อเรียกใช้ทันทีจากปุ่ม M สองปุ่มบนพวงมาลัย

    ส่วนระบบ M Drive Professional ก็เพิ่มฟังก์ชันเฉพาะทางสำหรับการลงสนามแข่ง เช่น M Drift Analyser ที่บันทึก วิเคราะห์ และให้คะแนนการดริฟต์เข้าโค้งในแต่ละครั้ง M Laptimer ฟังก์ชันจับเวลารอบสนามเพื่อแชร์กับเพื่อน ๆ นักขับ และ M Traction Control ที่เลือกระดับการทำงานได้ถึง 10 ระดับ

    นอกจากนี้ ปุ่ม M Mode ที่คอนโซลกลาง ยังเป็นอีกหนึ่งฟังก์ชันที่มาพร้อมกับระบบ M Drive Professional โดยผู้ขับสามารถใช้ปุ่มนี้ตั้งค่าระบบช่วยเหลือการขับขี่และเลือกข้อมูลที่จะแสดงผลที่หน้าจอ Information Display และ Head-Up Display ได้ ส่วนโหมดการขับขี่ไม่ได้รองรับเพียงโหมดมาตรฐานอย่าง ROAD และ SPORT เท่านั้น แต่ยังมีโหมด TRACK ติดตั้งมาให้สำหรับการขับขี่ในสนามแข่งอีกด้วย พร้อมลำโพง Harman Kardon และที่ชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย

    BMW M4 CSทั้งยังผ่านการพิสูจน์ความเร็วมาแล้วจากสนาม Nürburgring Nordschleife อันเลื่องชื่อ ด้วยเวลารอบเพียง 7 นาที 21.989 วินาทีกับเครื่องยนต์ 6 สูบเรียงอันทรงพลังที่ซ่อนอยู่ภายในเครื่องยนต์กำลังสูงขนาด 3.0 ลิตรพร้อมเทคโนโลยี M TwinPower Turbo ในเวอร์ชันที่พัฒนาขึ้นโดยเฉพาะและยังเป็นเครื่องยนต์ที่เป็นรากฐานของการพัฒนารถแข่งจากรุ่น M4 GT3 จึงได้รับเทคโนโลยีสุดล้ำมาอย่างเต็มตัวพร้อมเผชิญกับโจทย์ที่ท้าทายระดับเดียวกับการลงสนามแข่ง

    กับรหัส S58B30T0 6 สูบแถวเรียงด้วยพละกำลัง 551 แรงม้า 6,250 รอบต่อนาที แรงบิดสูงถึง 650 นิวตันเมตร ที่ 2,750–5,950 รอบต่อนาที ซึ่งสูงกว่าในรุ่น M4 Competition Coupe อยู่ 20 แรงม้า ด้วยการปรับจูนเฉพาะระบบ M TwinPower Turbo เท่านั้น

    การตอบสนองที่ฉับไวและรอบเครื่องยนต์ที่สูงช่วยให้มีอัตราเร่งในระดับแถวหน้าสามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ใน 3.4 วินาที และใช้เวลาเพียง 11.1 วินาทีเพื่อเร่งความเร็วจาก 0-200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยมีความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 302 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

    แรงบิดมหาศาลจากเครื่องยนต์ตัวนี้เดินทางสู่ล้อทั้งสี่ผ่านระบบเกียร์ M Steptronic 8 จังหวะ พร้อมเทคโนโลยี Drivelogic ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถปรับแต่งการทำงานของเกียร์ให้เข้ากับการขับในวันสบาย ๆ รวมถึงการขับขี่แบบสปอร์ต หรือการออกไปโลดแล่นในสนามแข่ง

    BMW M4 CS

    ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ M xDrive ทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพเพื่อให้ตัวรถเกาะถนนเคลื่อนตัวได้อย่างคล่องแคล่วและแม่นยำในทุกสถานการณ์ ส่วนการส่งกำลังแบบเน้นไปที่ล้อหลังก็เติมความสนุกในการขับขี่ในสไตล์ M ได้อย่างเต็มเปี่ยม โดยเฉพาะขณะเร่งความเร็วหรือเข้าโค้ง และแน่นอนว่าเมื่อปรับไปยังโหมด 2WD ผู้ขับขี่สามารถเลือกปิดระบบ DSC โดยสมบูรณ์ และส่งกำลังเครื่องยนต์ทั้งหมดไปยังล้อหลังเพื่อความสนุกแบบเต็มพิกัด

    แชสซีออกแบบและปรับแต่งมาในทุกรายละเอียดเพื่อให้เข้ากับสมรรถนะของเครื่องยนต์ แนวคิดของการผสมผสานรถยนต์นั่งเข้ากับรถแข่งและการกระจายน้ำหนักของตัวรถ เช่น คานค้ำยันช่วงล่างด้านหน้าที่พัฒนามาให้มีน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งและทนทานต่อแรงเหวี่ยงของตัวถัง

    BMW M4 CS

    จึงส่งผลให้ตัวรถเข้าโค้งได้รวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น ขณะที่ระบบกันสะเทือนในช่วงล่าง Adaptive M ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ปรับแต่งมาสำหรับ M4 CS โดยเฉพาะ เช่นเดียวกับพวงมาลัยไฟฟ้า M Servotronic ที่มีอัตราทดแปรผันและระบบเบรก ส่วนโหมด M Dynamic มอบทางเลือกให้ผู้ขับขี่ปลดล็อกสมรรถนะสูงสุดของตัวรถ ด้วยการลดระดับการทำงานของระบบ DSC ลง ความเร็วพร้อมความปลอดภัยเต็มคันทั้ง

    • ควบคุมความเร็วอัตโนมัติพร้อมฟังก์ชัน Stop&Go (Active cruise control with Stop&Go function)
    • ช่วยการขับขี่ (Driving Assistant)
    • ช่วยนำรถเข้าที่จอดอัตโนมัติ (Parking Assistant)
    • ปรับการทำงานไฟสูงอัตโนมัติ (High-beam Assistant)
    • เซนเซอร์ควบคุมระบบความปลอดภัยเมื่อเกิดการชน (Crash Sensor)
    • ความปลอดภัยป้องกันก่อนเกิดอุบัติเหตุ

    ถุงลมนิรภัยสำหรับคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า ถุงลมนิรภัยด้านข้างสำหรับคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า, ถุงลมนิรภัยศีรษะสำหรับผู้โดยสารตอนหน้าและหลัง (ยกเว้นผู้โดยสารตอนหลังกลาง) ระบบ Teleservices ปุ่มโทรออกฉุกเฉิน (Intelligent Emergency Call)

    ควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ (DSC) ควบคมแรงดันเบรกแบบแปรผัน (DBC) ควบคุมการกระจายแรงเบรกขณะเข้าโค้ง (CBC) ป้องกันล้อล็อกขณะเบรก (ABS) ช่วยเสริมแรงเบรกอัตโนมัติ (Brake Assist) ป้องกันการกระแทกจากด้านข้าง (Side Impact Protection) เซนเซอร์ควบคุมการจอดรถทั้งหน้าและหลัง กล้องมองหลัง ตรวจวัดลมยาง

    BMW M4 CSBMW M4 CS มีสีตัวถังใหม่จาก BMW Individual ได้แก่ น้ำเงิน Riviera Blue และเขียว Frozen Isle of Man Green Metallic ที่มีให้เลือกเฉพาะในรุ่นนี้เท่านั้น หรือจะเลือกลุคที่นวลตากว่าด้วยสีเทา M Brooklyn Grey Metallic และดำ Sapphire Black Metallic พร้อมแต่งแบบตัดสีด้วยผิวหน้าคาร์บอนไฟเบอร์ในบางจุด ส่วน ในราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่มและแพ็คเกจ BSI Standard เพียง 14,999,000 บาท

     

     

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts