งานนี้ Jeep Wrangler Rubicon หนาวๆร้อนๆเมื่อ Ford ต้องการที่จะท้าชนโดยตรงส่ง Ford Bronco เวอร์ชั่นโหดออกมาในนาม Ford Bronco Raptor
โดยมาในรูปแบบ 5 ประตู ถอดหลังคาถอดประตูออกได้เพิ่มอรรถรสในการขับขี่ที่สะใจสาดความโหดอย่างเต็มพิกัดกับหน้าตาเอกลักษณ์ประจำตระกูล Raptor ด้วยโลโก้ Ford ขนาดใหญ่สีดำ พร้อมไฟหน้า LED ทรงกลม พร้อมไฟ Daytime สีเหลิองอำพัน และไฟเลี้ยวสีเดียวกันกับไฟ Daytime พร้อมไฟตัดหมอกหน้า LED และไฟดวงเล็ก 3 ดวง บนกระจังหน้าที่ช่วยส่องสว่างในยามค่ำคืน การ์ดกันกระแทกสีเงิน ช่องระบายอากาศติดตั้งที่บังโคลนหน้าซ้าย-ขวา คิ้วขอบล้อสีเข้มขนาดใหญ่ บันไดข้างทำมาจากจากอะลูมิเนียมอัลลอย ขนาดใหญ่ขึ้นลงสะดวกขึ้นและยาง KO2 all-terrain จาก BF Goodrich ติดตั้งเป็นออพชั่นมาตรฐาน
ภายในยังมีความเป็น Ford Bronco ผสมกับความโหดจาก Raptor ตั้งแต่มาตรวัดดิจิตอลขนาด 12 นิ้ว ระบบจอสัมผัสเพื่อความบันเทิง 12 นิ้ว พร้อมลำโพงคุณภาพจาก B&O 10 จุด เบาะนั่งทรงสปอร์ตที่ออกแบบโดย Ford Performance เลือกได้ทั้แบบหนังสังเคระห์หรือหนังกลับ พร้อมพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น 3 ก้านที่จับถนัดมือพร้อมเติมตำแหน่งองศาพวงมาลัย On-Centre Marker แถบสีส้มด้านบนพร้อมสลักลายโลโก้ Raptor และกล้องมองภาพรอบคัน
ขุมพลังแรงเร้าใจด้วยเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบคู่ EcoBoost V6 3.0 ลิตรให้กำลังมากถึง 405 แรงม้า แรงบิด 563 นิวตันเมตร ปรับในส่วนของการใช้เสื้อสูบแบบเหล็กแทนอลูมิเนียม จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ขับเคลื่อน 4 ล้อ เลือกโหมดการขับขี่ได้ถึง 4 โหมดตั้งแต่ Normal, Sport, Quiet และ Baja หรือที่เรียกว่า G.O.A.T นั่นเอง พร้อมระบบควบคุมเสียงของเครื่องยนต์และความดังของท่อไอเสีย ปรับระดับเสียงไม่ให้ไปรบกวนเพื่อนบ้าน รวมถึงติดตั้งโช๊คอัพของ FOX 4 ต้น คู่กับยาง AT ที่มีหน้ากว้างมากที่สุดกว่ายางรถ SUV ที่มีอยู่ในสหรัฐ พร้อมปรับช่วงล่างปรับปรุงใหม่เพิ่มความหนาของปีกนกให้รองรับการกระแทกได้ดีขึ้น เพลาขับล้อทั้งสี่ มีขนาดใหญ่ขึ้น และได้แบรนด์ดีอย่าง Dana ติดตั้งชุดเฟืองท้ายและเพลาขับ โดยด้านหน้าเป็น semi-float รุ่น 44 AdvanTek และด้านหลังเป็นรุ่น 50 AdvanTek
Ford Bronco Raptor 2022 พร้อมขายที่สหรัฐ มีนาคม นี้ ในราคาเริ่มต้น $68,500 หรือราว 2,263,000 บาท (ไม่รวมภาษีนำเข้าของไทย) โดยมีสีภายนอก 10 สี โดยสีโปรโมทนั่นเป็นสีส้ม Code Orange
ที่มา Carscoops
