More

    Honda ZR-V เอสยูวีสำหรับตลาดญี่ปุ่นเลื่อนเปิดไปเป็นต้นปีหน้า

    เปิดตัวพร้อมขายที่จีนไปได้ไม่นานสำหรับ Honda ZR-V เอสยูวีรุ่นที่เหนือกว่า Honda HR-V เจนปัจจุบันที่เตรียมขายญี่ปุ่น ยุโรปและบางประเทศ

    โดยเฉพาะญี่ปุ่นที่เตรียมจะเปิดตัวช่วงเดือนกันยายนเป็นต้นไปมีอันต้องเลื่อนการเปิดตัวเสียแล้วสำหรับ Honda ZR-V สเปกญี่ปุ่นโดยสาเหตุนั้นเกิดจากปัจจัยฮิตที่ค่ายรถยนต์ทั่วโลกประสบปัญหาอยู่นั่นก็คือสถานการณ์ ชิปขาดแคลน หรือ เซมิคอนดักเตอร์ที่สั่งสมมานาน สงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ยังยืดเยื้อต่อล้วนเป็นสาเหตุที่ทำให้การส่งเซมิคอนดักเตอร์ล่าช้ากว่าปกติทำให้ Honda ตัดสินใจเลื่อนการเปิดตัว

    Honda

    ส่วนการเปิดจองล่วงหน้าหรือ Pre Order ตั้งแต่ 8 กันยายนนี้ยังคงดำเนินต่อไปจนกว่าจะเปิดตัวในช่วงต้นปีหน้าช่วงปลายเดือนมีนาคม-ต้นเดือนเมษายนสำหรับญี่ปุ่นเป็นที่แรกของโลกเปิดตัวในรูปแบบพวงมาลัยขวาและยังเปิดตัวก่อนหน้ายุโรปด้วยหน้าตาแบบเดียวกับ Honda HR-V สเปกอเมริกาหรือ ZR-V สเปกจีน เริ่มจากกระจังหน้าทรงหกเหลี่ยมที่มีช่องระบายอากาศรังผึ้งขนาดใหญ่และโลโก้ H ติดบนกระจังหน้า ไฟหน้า LED โคมใหญ่กว่าและดีไซน์โฉบเฉี่ยวกว่า รับกับชุดกันชนหน้า-หลังทูโทนสุดเท่ ไฟท้าย LED กรอบป้ายทะเบียนอยู่ในกรอบข้างๆไฟท้ายอย่างลงตัว จุดสังเกตคือที่เปิดประตูหลังติดตั้งตำแหน่งที่สะดุดตาจับเปิดง่ายตามหลักสากล พร้อมล้ออัลลอยที่มีให้เลือกทั้งขนาด 17 นิ้ว พร้อมยางพร้อมยาง 215/60 R17 และขนาด 18 นิ้วพร้อมยาง 225/50 R18

    Honda

    ภายในดีไซน์แผงคอนโซลหน้าจะคล้ายกับ Honda Civic FE ไม่ว่าจะเป็นจอสัมผัสขนาดใหญ่ 9 นิ้ว แบบลอยตัว สั่งการด้วยเสียง Siri อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger) มาตรวัดดิจิตอลพร้อมจอแสดงข้อมูล TFT 10.2 นิ้ว เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติแยกอุณหภูมิซ้าย-ขวา พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้าน ช่องแอร์แนวยาวขอบสีเงิน คอนโซลกลางดีไซน์ดูอวบๆ พร้อมชุดคันเกียร์ดีไซน์หรูลายล้อมด้วยโหมดการขับขี่เบรกมือไฟฟ้าพร้อม Auto Hold และช่องเสียบ USB สองฝั่ง แป้นเหยียบคันเร่งและเบรกแบบสปอร์ตภายในห้องโดยสารกว้างขวาง เบาะนั่งหุ้มด้วยวัสดุกึ่งหนังแท้ปรับไฟฟ้า ด้านหลังแยกพับแบบ 60:40 เพื่อเพิ่มพื้นที่สัมภาระ

    สเปกญี่ปุ่นเลือกขุมพลังเบนซินไฮบริดมาประจำการกับ e:HEV รหัส LFB1 2.0 ลิตร พร้อมระบบ i-MMD Direct Injection Atkinson-Cycle 145 แรงม้าที่ 6,200 รอบ/นาที แรงบิด 175 นิวตันเมตรที่ 3,500 รอบ/นาที ในภาคเครื่องยนต์ จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว AWD ได้แก่ มอเตอร์ที่ทำหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้า (Motor Generator) และมอเตอร์ที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อ (Motor Drive) ให้กำลัง 184 แรงม้าที่ 5,000-6,000 รอบ/นาที แรงบิด 315 นิวตันเมตรที่ 0-2,000 รอบ/นาที และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ​ 72-cell พร้อมด้วยเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) สามารถปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ทั้งหมด 3 โหมด ได้แก่ โหมด EV Drive Mode โหมด Hybrid Drive Mode และโหมด Engine Drive Mode พร้อมการขับขี่ที่เลือกได้ตามสไตล์ 3 โหมด ได้แก่ ECON Mode Normal Mode และSport Mode ตอบสนองการเร่งได้ดียิ่งขึ้นเพื่อการขับขี่ที่สนุกเร้าใจ

    HondaHonda

    และยังมีขุมพลังเบนซินเทอร์โบ VTEC รหัส L15C 1.5 ลิตร 182 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 240 นิวตันเมตรที่ 1,700-4,500 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT พร้อม Paddle Shift พร้อมโหมดการขับขี่ 3 รูปแบบทั้ง ECON/Normal/Sport แบบขับเคลื่อนสี่ล้อ AWD และความปลอดภัย Honda Sensing นอกจากจะเลื่อนการเปิดตัวเป็นช่วงปลายเดือนมีนาคมปีหน้าแล้วส่วนตลาดยุโรปจะเปิดตัวเร็วๆนี้

    ที่มา Carwatch

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts