รถใหม่ลำดับที่ 4 ค่าย GAC AION บุกเมืองไทยต่อจาก AION Y Plus, AION ES และ HYPTEC SSR มาแบบเงียบๆแต่ตอบรับดีและล่าสุด HYPTEC HT ขายไทยแล้ว
HYPTEC HT ขายด้วยกันถึง 2 รุ่นย่อยทั้งรุ่นประตูปีกนก 620 Luxury Gullwing Door และรุ่นประตูปกติ 620 Premium Normal Door โดยรุ่นที่ทาง Car2Day จะมาเล่าหลังขับครั้งนี้เป็นรุ่น 620 Premium
ภายนอก Exterior
ได้แรงบันดาลใจจาก Tesla Model X มาด้วยแนวคิด “Hyper Technology Life” สะท้อนถึงการยกระดับกลยุทธ์และภาพลักษณ์ใหม่ที่ล้ำสมัยกว่าเดิม เริ่มจากไฟหน้า LED เรียบง่าย รูระบายอากาศขนาดเล็ก กระจังหน้าด้านล่างบางล้อมรอบด้วยพื้นผิวที่มีรอยพับเล็กน้อย แก้มบังโคลนหน้าซ้ายขวา ไฟท้าย LED แนวยาวสไตล์ยุโรปพร้อมกันชนหลังและล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว พร้อมยาง 245/50R20 สร้างจากแพลตฟอร์ม AEP 3.0 ในร่างมิดไซซ์เอสยูวี ด้วยขนาดตัวรถใกล้เคียงกับคู่แข่งไม่ว่าจะเป็น TESLA Model Y XPENG G6 DEEPAL S07 และ KIA EV5 เริ่มที่
- ความยาว 4,935 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,920 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,700 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ 2,935 มิลลิเมตร
- ความจุช่องใส่ของด้านหน้า 55 ลิตร
ภายใน Interior
มาในสไตล์ ADiGO Intelligent Cockpit System ออปชันภายในไม่ต่างจากรุ่น 620 Gullwing Door พวงมาลัยดีไซน์เรียบมีสไตล์ด้วยแผงหน้าปัดแบบดิจิทัลขนาด 8.8 นิ้ว มีจอแสดงผลอินโฟเทนเมนต์ส่วนกลางขนาดใหญ่ 14.6 นิ้ว ชัดแบบ 2.5K HDแผ่นชาร์จไร้สาย 2 แผ่น คอนโซลกลางแบบลอยพร้อมช่องเก็บของขนาดใหญ่ด้านล่าง ลำโพงรอบคัน 22 จุด DOLBY ATMOS พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้านทรงท้ายตัด หลังคาหุ้มด้วยหนัง Alcantara
นอกจากนี้เบาะนั่งทั้งหมดหุ้มด้วยหนัง NAPPA คุณภาพสูง โดยผู้โดยสารด้านหน้าสามารถพับลงให้แบนและปรับให้เข้ากับพื้นที่ที่ช่วยให้ผู้โดยสารด้านหลังยืดออกได้อย่างแท้จริง เบาะนวด 10 จุดสำหรับที่นั่งด้านหน้า มีโหมดการนวดมากถึง 5 รูปแบบ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกความสะดวกสบายตามความต้องการ
เบาะนั่งหลังระดับเฟิร์สคลาส (First Class Seats) พนักพิงปรับได้ 2 ระดับ ปรับเอนสูงสุด 143° เพิ่มความสะดวกสบายหรูหราในทุกสัมผัส และเพิ่มที่วางเท้าเล็กๆ จากด้านหลังของเบาะหน้าได้ พร้อมโหมด VIP สามารถเลื่อนและพับเบาะผู้โดยสารด้านหน้าไปข้างหน้าได้ ทำให้เกิดพื้นที่ว่างสูงสุดสำหรับเบาะแถวที่สองและโหมด นอนหลับตอนหลัง ทำได้เพียงกดปุ่มเดียว เพื่อปรับเสียงในตอนหลังของรถ ปรับระดับเสียง ปิดม่านกันแดด และกระจกหน้าต่าง เพื่อสร้างบรรยากาศการนอนหลับที่สบาย มีพื้นที่สัมภาระด้านท้าย 670-1,802 ลิตร เมื่อพับเบาะลง
สมรรถนะ Performance
เป็นแบบมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลังด้วยแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 83 kWh แบบ LFP ให้กำลังสูงถึง 340 แรงม้า แรงบิด 430 นิวตันเมตร เห็นได้ชัดว่าเพียงพอที่จะขับเคลื่อน SUV ในอัตราเร่ง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเวลา 5.8 วินาทีสามารถเดินทางไกล 620 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง มาตรฐาน NEDC และความเร็วสูงสุด 183 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
สามารถชาร์จได้ทั้งกระแสตรง DC ใช้เวลาชาร์จเพียง 15 นาที 10-80% รองรับกำลังชาร์จสูงสุด 280 kW ก็สามารถวิ่งได้ไกลถึง 400 กิโลเมตร และชาร์จกระแสสลับ AC รองรับการชาร์จสูงสุด 7 kW มาพร้อมฟังก์ชันการปล่อยไฟฟ้าภายนอก V2L (Vehicle to Load) รองรับการจ่ายโหลดสูงสุด 3.3 KW พร้อม I-Pedal รีไซเคิลพลังงานแบบไม่รู้สึกตัวทำงานได้อย่างนุ่มนวล ประหยัดพลังงาน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
การขับขี่ Driving
ขับระยะทางสั้นๆจาก ถ.นวลจันทร์ Found Venue เข้าสู่เกษตร-นวมินทร์ ผ่าน Chocolate Ville กลับเข้า ถ.คลองลำเจียก ไป-กลับประมาณ 8.3 กิโลเมตร สิ่งที่สัมผัสได้ในเรื่องของอัตราเร่งมาทันใจไม่รุนแรงมากเหมือนรถไฟฟ้ากำลังสูง สมูทต่อเนื่อง ทางด้านช่วงล่างเป็นอิสระ 4 ล้อด้านหน้าอิสระปีกนก Double Wishbone ช่วงล่างด้านหลังมาแบบอิสระ 5-Links ให้ความนุ่มนวลนิ่งเงียบดุจรถยนต์ยุโรปหรูไฮเอนด์ พวงมาลัยไฟฟ้าที่มีรัศมีวงเลี้ยวถึง 5.6 เมตรตอนกลับรถแถวเกษตร-นวมินทร์ ให้วงเลี้ยวแคบคล่องตัวอย่างมาก น้ำหนักพวงมาลัยดีไม่หนักเกินไปไม่เบาเกินไปเรียกว่าขับได้ทุกเพศทุกวัย ระบบเบรกแม้เป็นดิกส์เบรก 4 ล้อ ให้การตอบสนองเบรกทันใจ แป้นแบรกน้ำหนักดี ไม่ลึกมาก และ I-Pedal ให้น้ำหนักการหน่วง Regen อย่างนุ่มแบบไม่รู้สึกตัวว่ารถกำลังหน่วงอยู่ตอนใกล้แยกไฟแดง
ความปลอดภัย Safety
ถึงจะเป็นรุ่นประตูปกติไม่ใช่ปีกนกแต่ให้ออปชันความปลอดภัยเท่ากันมาพร้อมกับระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่อัจฉริยะ ADiGO Intelligent Assistance System
- ควบคุมความเร็วแปรผันอัตโนมัติ Full-speed Adaptive cruise control ACC
- ช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าขณะขับขี่ Forward Collision Warning FCW
- เบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ Automatic Brake Assist System AEB
- จดจำป้ายจราจร Traffic Sign Recognition TSR
- ช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน Lane departure warning system LDW
- ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน Lane Keeping Assist LKA
- ช่วยควบคุมรถเมื่อรถออกนอกเลน Lane Departure Prevention LDP
- ช่วยเตือนมุมอับสายตา Blind spot monitoring and warning BSD
- ถุงลมนิรภัยรอบคัน
- ตรวจวัดลมยาง TPMS
- จุดยึดเบาะหนังเด็กแบบ ISOFIX
- เบรกป้องกันล้อล็อก ABS ควบคุมการกระจายแรงเบรก EBD พร้อมดิสก์เบรก 4 ล้อ
- ควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวของรถ VDC ควบคู่กับโปรแกรมควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวของรถ ESP
- ป้องกันการลื่นไถล TCS
- ช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HHC
- กล้องพาโนรามารอบคัน 360 องศา
- เซนเซอร์กระยะการจอดด้านหลัง
- เบรกมือไฟฟ้า พร้อม Auto Hold
- เว้นระยะห่างจากรถคันหน้า Car-following functions
แม้ขับสั้นๆและได้ลองระบบบางฟังก์ชันชอง ADiGO Intelligent Assistance System ช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA ให้อการตอบสนองรวดเร็วไม่ดึงกลับแบบฉุกเฉินจนสร้างความตกใจให้กับผู้ขับขี่
Verdict
จากคำว่า HYP มาจาก Hyper และ Hyper Car ที่แสดงถึงความยอดเยี่ยม เกินขีดจำกัด หรูหราระดับไฮเอนด์ และ TEC มาจาก Technology ซึ่งแสดงถึงเทคโนโลยี เทคนิค และศิลปะ เมื่อมารวมกันเป็น HYPTEC ย่อมหมายถึง ความหรูหราระดับไฮเอนด์ สมรรถนะยอดเยี่ยมเกินขีดจำกัด เทคโนโลยีเทคนิค ที่หาตัวจับยาก
รังสรรค์กลายมาเป็นเอสยูวีทรงเก๋งยกสูงที่หน้าตาเรียบง่ายแต่เด่นด้วยประตูปีกนกที่สามารถเลือกได้เข้าออกสะดวกแม้จอดรถในที่แคบ (ขอย้ำว่ายังมีรุ่นประตูปกติให้เลือกสำหรับคนที่ไม่ชอบความไฮเทคแบบเวอร์ๆ)
ภายในเรียบง่ายออปชันความสบายให้มาครบครันดีเสียที่ว่าถ้ามือใหม่พึ่งจะจับรถไฟฟ้ายี่ห้อนี้หรือยี่ห้ออื่นๆเป็นครั้งแรกอาจสับสนกับฟังก์ชันต่างในที่อยู่ในรถอยู่บนหน้าจอเกือบทั้งหมด ต้องหากันแบบตาแตกกันในช่วงแรกๆ การขับขี่ดี เบรกดี ช่วงล่างนุ่มต้องเติมลมยางตามสเปก ถ้าต่ำกว่านั้นจะย้วย วงเลี้ยวแคบ พวงมาลัยอัตราทดดี
ทุกอย่างภาพรวมของรถทำได้ดีแถมราคา 1,449,000 บาท ยิ่งสถานการณ์ของค่ายมาแบบเรื่อยๆอาจมีปัญหาระหว่างทางไปในบางช่วงบางตอน อาจเป็นสิ่งที่ผู้ใช้หน้าใหม่หรือใช้อีวียี่ห้ออื่นๆและต้องการซื้อเพิ่มต้องตัดสินใจกันสำหรับ HYPTEC HT รถขับดีแต่หลังบ้านต้องพิจารณากันดูครับ