นับเป็นค่ายรถที่ให้ความสำคัญกับการก้าวสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนด้วยโซลูชั่นส์อันหลากหลายสำหรับ ISUZU ไม่ว่าจะเป็น ISUZU MU-X หรือ ISUZU D-MAX
ล่าสุดโลกออนไลน์เผยแพร่ภาพ ISUZU MU-X รุ่นปรับโฉมใหม่ที่พึ่งเปิดตัวไปได้ไม่นานวิ่งทดสอบติดป้าย TC (ป้ายรถทดสอบก่อนผลิต) แบบไม่พรางตัววิ่งแถวสนามบินสุวรรณภูมิคาดว่ากำลังทดสอบรุ่น Mild Hybrid หรือ MHEV
ภายนอก Exterior
หน้าตาแทบไม่ต่างจากรุ่น ULTIMATE ปกติด้วยดีไซน์ใหม่ทั้งภายนอกจดภายในเริ่มที่ภายนอกปรับใหม่ตั้งแต่ฝากระโปรงหน้าออกแบบเส้นสายหนาลงตัวพร้อมกระจังหน้าเขี้ยวสองชั้น ดีไซน์ใหม่ Dynamic Grille หรูหราด้วยวัสดุสีดำ Titanium Carbide ขอบสีเงิน โฉบเฉี่ยวด้วยไฟหน้า Bi-LED แบบ Dynamic Blade มีไฟ Daytime แบบ LED ในตัวโคมไฟหน้าชุดกันชนหน้าใหม่ แบบ Fighter Jet ดุดันพร้อม Air Curtain เพิ่มประสิทธิภาพอากาศพลศาสตร์ พร้อมไฟตัดหมอกหน้า LED
สอดรับกับเส้นสายด้านข้างอันเป็นเอกลักษณ์ เติมอารมณ์สปอร์ตด้วยเสาอากาศครีบฉลาม ราวหลังคาบิ๊วอินสีดำดีไซน์กลมกลืนกับหลังคา กระจกมองข้างไฟเลี้ยว LED ปรับ-พับด้วยไฟฟ้า บันไดข้าง
สบายยิ่งกว่าด้วยฝาท้าย Smart Tailgate เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้าทำงานร่วมกับระบบ Step Sensor และหยุดเมื่อมีสิ่งกีดขวางด้วยระบบ Jam Protection พร้อมชุดกันชนหลังทรงเดิมออกแบบลิ้นสปอยเลอร์หลังใหม่ ไฟท้าย LED ใหม่!แบบ Dynamic Blade พร้อมผสานดีไซน์สปอร์ตของชุดไฟท้ายด้วยเส้น Embrace Line และล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ Dynamic Turbine ขนาด 20 นิ้ว สี Magnetite II พร้อมดีเทลก้านแม็กแบบ 3D พร้อมยาง 265/50 R20
ภายใน Interior
ภายในมาพร้อมออปชันทันสมัยตั้งแต่ มาตรวัดเรืองแสง Integrated MID 7 นิ้ว เชื่อมต่อข้อมูลกับจอสัมผัส Infotainment Display ขนาด 9 นิ้วรองรับการใช้งานทั้งระบบเชื่อมต่อไร้สายทั้ง Android Auto และ Apple CarPlay แสดงผลหลายฟังก์ชันทั้งแสดงองศามุมปีนไต่ ลาดเอียง ทิศทางการเลี้ยวของล้อ ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS ที่หน้าจอ Integrated MID และ Infotainment Display
พร้อมลำโพง 8 จุด พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้านดีไซน์ใหม่ปรับได้ 4 ทิศทาง เบรกมือไฟฟ้าพร้อม Auto Brake Hold เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone แยกอิสระซ้าย-ขวา พร้อมช่องแอร์หลัง Charging Station รองรับการใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้าหลากหลาย ทั้ง USB Fast Charger Type C และช่องต่อ DC 12V
เบาะนั่งปรับด้วยระบบไฟฟ้า 8 ทิศทางและคนนั่งปรับไฟฟ้า 4 ทิศทางพร้อมเบาะนั่งตอนที่ 2 ปรับเอนได้ถึง 22 องศา พับได้ 60/40 แบบพับม้วนเดียวจบและเบาะนั่งตอน 3 สบายพับได้แบบ 50/50 พร้อมพื้นที่สัมภาระด้านท้ายมากถึง 311 ลิตร และพับเบาะตอน 3 มีพื้นที่ความจุมากถึง 1,119 ลิตร และเมื่อพับตอน 2 กับตอน 3 ด้วยกันจะมีพื้นที่ความจุมากถึง 2,138 ลิตร มากที่สุดในรถระดับเดียวกัน
ภายในห้องโดยสาร ด้วยโทนสี Truffle Brown – Black ให้ความรู้สึกอบอุ่น High Class เบาะ 7 ที่นั่ง ดีไซน์ใหม่! สี Truffle Brown ที่นั่งสบายเหนือกว่า โอบรับสรีระ ด้วยวัสดุ Cool Max ช่วยลดการสะสมความร้อน คอนโซลดีไซน์ใหม่! สี Truffle Brown-Black พรีเมี่ยมด้วยวัสดุ Piano Black – Satin Silver บรรยากาศภายในหรูหราไฟสร้างบรรยากาศสีขาว White Ambient Light และ Dome Light หรูมีระดับ
ฟังก์ชันเอาใจคนรักความสะดวกสบายด้วยกุญแจรีโมท ISUZU Genius Entry สตาร์ทเครื่องยนต์ด้วย Remote Engine Start เฉพาะรุ่น Ultimate และใช้เปิด-ปิดประตูท้ายไฟฟ้า กระจกบังลมหน้าแบบ IR Cut ช่วยกรองรังสีอินฟราเรด ป้องกันรังสี UVA และ UVB ช่วยลดอุณหภูมิในห้องโดยสาร ไฟส่องสว่างในห้องโดยสารเปิดอัตโนมัติ เมื่อเข้าใกล้รถในระยะ 2 เมตร Welcome Light ล็อกประตูอัตโนมัติเมื่อเดินออกห่างจากตัวรถเกินระยะ 3 เมตร Walk Away Auto Lock เปิดไฟส่องสว่างได้นาน 30 วินาที หลังดับเครื่องยนต์ Follow Me Home ระบบกรองอากาศเข้าห้องโดยสาร สามารถดักฝุ่นละอองขนาดเล็กได้ถึงระดับ PM2.5
ขุมพลัง Perfromance
ในเวอร์ชัน Mild Hybrid หรือ MHEV ใช้ขุมพลังเดียวกับ ISUZU D-MAX Hi-Lander e ด้วยเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบแปรผันไฟฟ้า E-VGS 1.9 Ddi Blue Power รุ่น RZ4E-TC กำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร ที่ 1,800–2,600 รอบต่อนาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าขนาดเล็ก ติดตั้งแบตเตอรี่ 48 โวลต์ ทำหน้าที่เสริมกำลังขับเคลื่อนลดภาระการทำงานของเครื่องยนต์ในช่วงออกตัว รวมถึงช่วยลดการสั่นสะเทือนในจังหวะ สตาร์ทเครื่องยนต์และช่วยลด CO2
คู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมโหมดการขับขี่แบบสปอร์ต Rev Tronic และ Sequential Paddle Shift ขับเคลื่อนสองล้อ ลุยน้ำได้สูงสุด 800 มิลลิเมตร พร้อมช่วงล่างคอยล์สปริงทั้ง 4 ล้อ ช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระปีกนก 2 ชั้น Double Wishbone และเหล็กกันโคลง ช่วงล่างด้านหลังแบบ 5-Link Suspension ครั้งแรกในรุ่น Ultimate ด้วยพวงมาลัยไฟฟ้า (Electric Power Steering) ขับสบายเหนือกว่าคล่องตัวทั้งในเมือง และนอกเมือง
ความปลอดภัย Safety
พร้อมเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัย ISUZU MATRIX SAFETY INTELLIGENCE ด้วยระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS ทำงานด้วยกล้องหน้าคู่ 3D Imaging Stereo Camera แม่นยำกว่ากล้องเดี่ยวแบบ Mono Camera ทั่วไป ตรวจจับเส้นถนนและวัตถุด้านหน้ารถแบบ Real Time มีมุมมองกว้างและแม่นยำกว่าเดิมด้วยเรดาร์ 2 จุด และเซนเซอร์ 8 จุดรอบคัน โดย ADAS Generation ล่าสุด! เพิ่มเติมใหม่ 5 ระบบ เช่น
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKAS (Lane Keep Assist System)
- ช่วยควบคุมทิศทางของรถตามรถคันหน้า TJA (Traffic Jam Assist)
- ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน ในสถานการณ์ฉุกเฉิน ELK (Emergency Lane Keeping)
- ช่วยควบคุมรถไม่ให้ออกนอกเลน LDP (Lane Departure Prevention)
- ช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติขณะถอย RCTB (Rear Cross Traffic Brake)
- ช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (Attention Assist)
- ควบคุมความเร็วแปรผันอัตโนมัติ ACC (Adaptive Cruise Control) พร้อม Stop&Go
- เตือนการชนด้านหน้าอัตโนมัติ FCW (Front Forward Collision Warning)
- หยุดรถอัตโนมัติ AEB (Autonomous Emergency Brake)
- เตือนเมื่อออกนอกเลน พร้อมหน่วงกลับอัตโนมัติ LDWS (Lane Departure Warning System)
- ช่วยเบรกฉุกเฉินขณะกำลังเลี้ยว TA-AEB (Turn Assist with Autonomous Emergency Braking)
- ควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ AHB (Automatic High Beam)
- เบรกอัตโนมัติหลังการเกิดอุบัติเหตุ ช่วยลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน MCB (Multi-Collision Brake)
- ตั้งค่าจำกัดความเร็วสูงสุดด้วยตัวเอง MSL (Manual Speed Limiter)
- ตัดกำลังเครื่องยนต์เมื่อเหยียบคันเร่งผิดพลาด PMM (Pedal Misapplication Mitigation)
- แจ้งเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning)
- เซนเซอร์ช่วยจอดรถยนต์ Parking Aid System รวม 8 จุด ทำงานร่วมกับกล้องมองหลัง พร้อมเส้นกะระยะ Lane Guide
- เตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน BSM (Blind Spot Monitoring)
- ช่วยเตือนขณะถอย RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
ความปลอดภัยพื้นฐานทั้งดิสก์เบรกสี่ล้อพร้อมระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรก ABS (Anti-Lock Brake System) พร้อมเสริมแรงเบรก BA (Brake Assist) กระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake-Force Distribution) ป้องกันล้อหมุนฟรีขณะออกตัว TCS (Traction Control System) ควบคุมการทรงตัวขณะขับขี่ ESC (Electronic Stability Control) ควบคุมการส่ายของส่วนพ่วงท้าย TSC (Trailer Sway Control) ลดกำลังเครื่องยนต์เพื่อช่วยเบรก BOS (Brake Override System) ช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HSA (Hill Start Assist) ควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน HDC (Hill Descent Control) ถุงลมนิรภัยรอบคัน 6 ตำแหน่งโครงสร้างห้องโดยสาร Ultra-High Tensile
ISUZU MU-X Mild Hybrid หรือ MHEV พร้อมกับ ISUZU D-MAX Hi-Lander e อยู่ในช่วงการทดสอบประเมินผลเพื่อนำมาพัฒนาในขั้นตอนสุดท้ายก่อนเปิดสายการผลิตและขายในอนาคต ตามเป้าหมายที่จะนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้าประเภทต่างๆ ทั้งรถบรรทุกขนาดกลางและขนาดใหญ่ รถปิกอัพ และรถบัสโดยสาร ภายในปี 2030
จะใช้เงินลงทุนทั้งสิ้น 1 ล้านล้านเยน หรือประมาณ 240,000 ล้านบาท วิจัยและพัฒนาภายในปีงบประมาณ 2030 เพื่อดำเนินการเรื่องการปฏิรูปทางดิจิทัลเกี่ยวกับความเป็นการทางคาร์บอนและโลจิสติกส์ (CN and logistics DX) แต่จะขายในช่วงไหนนั้นทาง Car2Day จะมานำเสนอในครั้งต่อไป
ที่มาภาพ Navaphat Ampaiwan