MG ภายใต้ SAIC ประกาศว่า จะเปิดตัวรถยนต์พลังงานทางเลือกรุ่นใหม่ 2 รุ่นในปี 2025 ได้แก่ รถเก๋งไฟฟ้าล้วนขนาดกะทัดรัดและ SUV ขนาดใหญ่ 5 ที่นั่งแบบปลั๊กอินไฮบริด ทั้งสองรุ่นจะมี “สไตล์อังกฤษน้อยลงและสไตล์จีนมากขึ้น” โดยตั้งใจที่จะ “ให้รถยนต์จีนวิ่งไปทั่วโลก”
มร.โจว หยาน ผู้จัดการทั่วไปของแบรนด์ MG ประกาศบน Weibo เกี่ยวกับแผนการเปิดตัวรถยนต์ใหม่ 2 รุ่น ในปี 2025 ซึ่งหนึ่งในนั้นจะติดตั้งแบตเตอรี่แบบกึ่งโซลิดสเตต
นอกจากนี้ ตามรายงานของสื่อต่างประเทศ คาดว่าจะเปิดตัว SUV 7 ที่นั่งในตลาดออสเตรเลียในปี 2025 และตั้งชื่อว่า “QS” ซึ่งอาจเป็นรถรุ่นพี่น้องของ Roewe RX9 และคาดว่าจะใช้ระบบพลังงานไฮบริดแบบปลั๊กอิน 1.5T
เอ็มจีก่อตั้งในสหราชอาณาจักรในปี 1924 จนในปี 2005 บริษัทถูกซื้อกิจการโดย Nanjing Automobile Group ของจีน
จากนั้นในปี 2007 SAIC ได้ซื้อกิจการต่อ โดยเอ็มจีได้ถูกรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของ SAIC อย่างเป็นทางการ และกลายเป็นแบรนด์รถยนต์ในประเทศจีน
ข้อมูลแสดงให้เห็นว่ายอดขายของเอ็มจีในตลาดโลกเติบโตอย่างต่อเนื่อง สวนทางกับยอดขายภายในประเทศจีนกลับลดลงทุกปี ตั้งแต่ปี 2019 – 2023 เป็นแบรนด์เดียวที่ครองอันดับหนึ่งในการส่งออกรถยนต์ของจีนเป็นเวลา 5 ปีติดต่อกัน คิดเป็นประมาณ 70% ของยอดขายในต่างประเทศของ SAIC
ปี | ยอดขายรวมในประเทศจีน | ยอดขายรวมนอกประเทศจีน |
2019 | 159,000 คัน | 298,000 คัน |
2020 | 80,000 คัน | 310,000 คัน |
2021 | 110,000 คัน | 470,000 คัน |
2022 | 180,000 คัน | 660,000 คัน |
2023 | 100,000 คัน | 840,000 คัน |
จะเห็นได้ว่าในปี 2019 ยอดขายในประเทศคิดเป็น 53.3% ของยอดขายเอ็มจีทั่วโลก แต่ในปี 2023 สัดส่วนดังกล่าวลดลงเหลือเพียง 11.9% เท่านั้น
ในทำนองเดียวกัน ตั้งแต่ปี 2019 ถึง 2023 ยอดขายของ SAIC ลดลงจาก 6.238 ล้านคัน เป็น 5.021 ล้านคัน ยอดขายในปี 2023 ลดลง 28% จากจุดสูงสุด 7.052 ล้านคันในปี 2018 ในตลาดรถยนต์ภายในประเทศของจีน บริษัทร่วมทุนและแบรนด์ในประเทศกำลังเพิ่มการลงทุนเพื่อแข่งขันเพื่อส่วนแบ่งการตลาดที่มีจำกัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มยานยนต์พลังงานใหม่ (NEV)
โดยในปี 2023 SAIC ได้เปิดตัว “แผนปฏิบัติการสามปีเพื่อพัฒนา NEV” โดยมีเป้าหมายที่จะบรรลุยอดขายประจำปี 3.5 ล้านคันภายในปี 2025
การเปลี่ยนแปลงสู่การผลิตไฟฟ้าแบบค่อยเป็นค่อยไป จะช่วยฟื้นยอดขายที่ลดลงได้หรือไม่?
Source: Carnewschina