More

    MG ZS EV VS ORA Good Cat สองรถไฟฟ้าแดนมังกรที่ฮิตติดกระแส

    ต้องยอมรับว่านับเป็นยุคทองของรถยนต์ไฟฟ้าแดนมังกรที่พาเหรดส่งรุ่นใหม่ๆออกสู่ตลาดเมืองไทยเมื่อช่วงสามปีที่ผ่านมา

    MG

    โดยค่ายรถยนต์ที่หาญกล้านำมาขายด้วยราคาที่ถูกและดีหนีไม่พ้น MG ส่ง MG ZS EV เอสยูวีไฟฟ้าประเดิมจนขายดิบขายดีและยังเป็นต้นแบบให้รุ่นอื่นๆสานต่อมาเจริญเช่น MG EP เอสเตทไฟฟ้าล้วน กระทั่งค่ายรถยนต์เพื่อนร่วมชาติอย่าง GWM หรือ Great Wall Motor เปิดตัวเจ้าเหมียวแสนดี ORA Good Cat ขายตั้งแต่ปีที่แล้วกลายเป็นรถที่มียอดจดทะเบียนมากสุดสองเดือนซ้อนตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ และมีนาคม ที่ผ่านมา และ MG เองก็ไม่น้อยหน้าส่ง MG ZS EV รุ่นปรับโฉมมาถล่มอีกระลอก ประจวบกับภาครัฐเปิดแคมเปญส่งเสริมคนไทยหันมาใช้รถไฟฟ้ามากขึ้นด้วยส่วนลดตั้งแต่ 150,000 บาทเป็นต้นมา จนยอดจองรถไฟฟ้าทั้งสองรุ่นที่งาน Bangkok Motor Show 2022 มียอดจองสูงกว่า 4,500 คัน  โดยสัดส่วนการจองของรุ่นนี้เป็น 40 % สำหรับ MG รถไฟฟ้า และ 3,500 คันของ ORA Good Cat และถ้าสนใจสองรถไฟฟ้าแดนมังกรยอดฮิตทาง Car2Day จึงจับมาเป็นมวยคู่เอกรถไฟฟ้ารุ่นท็อปสุดให้ศึกษากัน

    ภายนอกคนละตัวตนคนละความหล่อ

    MG

     

    การปรับโฉมครั้งแรกในรอบ 3 ปีของ MG ZS EV รุ่น X ดูดีดูสมาร์ทกว่ารุ่นเดิมลงตัวในทุกด้านเรียบง่ายแต่แฝงด้วยความสปอร์ตถึงภายนอกจะคล้าย MG ZS รุ่นเครื่องยนต์สันดาป ตั้งแต่ กระจังหน้า และกันชนหน้าแบบ GRILLE-LESS DESIGN ทรงปิดทึบ พร้อมขยับที่ชาร์จไปไว้ที่ ด้านซ้ายของ โลโก้ MG ขนาดใหญ่ ไฟหน้าแบบ LED พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ตอนกลางวัน (Daytime Running Lights) ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ ขนาด 17 นิ้ว พร้อมฝาครอบล้อแบบ Aero Wheel Cover พร้อมยางขนาด 215/55 R17 ไฟท้ายแบบ และไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED สปอยเลอร์หลังพร้อม ราวหลังคาและหลังคารถแบบพาโนรามิกซันรูฟ

    ORA

    ส่วนเจ้าเหมียวอย่าง ORA Good Cat รุ่น 500 ULTRA มาในร่าง 5 ประตูเช่นกันแต่เป็น Subcompact Hatchback ท้ายตัด หน้าตาเหมือนแบรนด์รถยุโรปชั้นดีเริ่มตรา ORA ขนาดใหญ่ รับกับกระจังหน้าดีไซน์สุดคลาสสิกพร้อมระบบ Active Air Intake กันชนหน้าทั้งชิ้นแบบกลมกลืนพร้อมไฟหน้า LED ทรงตาแมว หรือ CatEye พร้อม Daytime Running Light และไฟส่องสว่างหลังดับเครื่องยนต์ Follow Me Home ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว 5 ก้าน พร้อมยาง 215/50R18 ไฟท้ายแนวยาว LED ครอบทับกระจกหลังช่วยให้มองเห็นชัดเจนขึ้น กับท้ายรถที่เรียบง่ายและสปอยเลอร์หลังดีไซน์เก๋ไก๋ และหลังคาพาโนรามิกซันรูฟ

    มิติตัวรถ

    MG

    ORA

    ORA

    ถึงแม้รถสองรุ่นจะมาในแนวท้ายตัด 5 ประตู แต่ด้วยความตั้งใจของเหล่าวิศวกรทั้งสองค่ายที่ออกแบบรถมาในรูปแบบนี้ทำให้ MG ZS EV รุ่น X ได้เปรียบ ORA Good Cat รุ่น 500 ULTRA ตั้งแต่ความยาวมากกว่า Good Cat 88 มม. ยาวกว่า Good Cat 53 มม. ความสูงจากพื้นมากกว่า 16 มม. และน้ำหนักรถมากกว่า 60 กก. ส่วน ORA Good Cat รุ่น 500 ULTRA ได้เปรียบ MG ZS EV รุ่น X ตรงที่ ความกว้างตัวรถมากกว่า ZS EV 16 มม. และฐานล้อยาวกว่า 65 มม.

    การใช้งานภายในต่างกัน

    MG

    MG ZS EV รุ่น X ปรับโฉมล้ายกับเวอร์ชั่นรุ่นเครื่องยนต์สันดาปแต่ออกแบบให้มีดีไซน์เรียบหรู แฝงความพรีเมี่ยมด้วยคอนโซลหน้าลายคาร์บอนไฟเบอร์ และเบาะหนังดำเดินด้ายแดง พร้อมวัสดุบุนุ่มแบบ Soft Touch และฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครันตั้งแต่ ระบบชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย Wireless Charger พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น ควบคุมเครื่องเสียงพร้อมปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์ หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะแบบดิจิตอล ขนาด 7 นิ้ว หน้าจอสีระบบสัมผัสดีไซน์ใหม่ ขนาด 10 นิ้ว ระบบเชื่อมต่อมัลติมิเดีย Apple CarPlay และสมาร์ทโฟนระบบ Android ลำโพง 6 จุด เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง เบาะผู้โดยสารด้านหน้าปรับ 4 ทิศทาง พื้นที่เก็บสัมภาระปรับได้ 2 ระดับ โดยมีพื้นที่จุของ 448 ลิตร แต่เมื่อพับเบาะลง 60/40 จะมีพิ้นที่มากขึ้นเป็น 1,166 ลิตร ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติพร้อม ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลังและระบบกรองอากาศ PM 2.5 กระจกมองหลังตัดแสง ที่พักแขนด้านหลัง ระบบกุญแจรีโมทอัจฉริยะ (Smart Key) พร้อม Push Start

    พร้อม i-SMART เชื่อมต่อทุกอย่างให้ง่ายและสะดวกสบายยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ตรวจสอบสถานะรถยนต์ และระบบเตือนความผิดปกติของรถยนต์ ตรวจสอบสถานะแบตเตอรี่ การชาร์จ และสถานีชาร์จ ช่วยค้นหาศูนย์บริการ นัดหมาย และบันทึกการดูแลรักษารถยนต์ตามระยะ สามารถสั่งการทำงานได้ทั้ง กุญแจดิจิตอล  ระบบสั่งการผ่านเสียงภาษาไทย ระบบควบคุมการทำงานของระบบปรับอากาศผ่านทางสมาร์ทโฟน ระบบวางแผนการเดินทาง Travel Plan และตั้งค่าการเดินทางแบบ Team Travel ระบบโทรออก รับสายกรณีฉุกเฉิน ระบบโทรอัตโนมัติกรณีฉุกเฉิน Emergency Call

    พิเศษด้วยสั่งการชาร์จ สถานี MG Super Charge ผ่านทางสมาร์ทโฟน และเชื่อมต่ออย่างทันสมัยกับ ระบบนำทาง Navigation พร้อมรายงานการจราจรแบบ Real Time ช่วยค้นหาร้านอาหาร และที่พักบนแผนที่นำทาง เล่นเพลงออนไลน์แบบสตรีมมิ่ง เรียกดูข้อมูลข่าวสาร เหตุการณ์ปัจจุบัน และอัพเดทข้อมูลพยากรณ์อากาศ และอัพเกรดระบบต่าง ๆ ผ่านออนไลน์ (FOTA)

    ทางด้าน ORA Good Cat 500 ULTRA หรูสง่าเทียบชั้นรถยุโรป โดดเด่นทุกสัมผัส กับ หน้าจอ Interactive Double Screen หน้าจอพาดยาวบริเวณคอนโซลของตัวรถมีขนาด 17.25 นิ้ว ที่มีความละเอียดสูง แบ่งออกเป็น หน้าจอแสดงผลการขับขี่แบบดิจิตอล (Full TFT) ขนาด 7 นิ้ว และหน้าจอระบบมัลติมิเดียพร้อมระบบสัมผัส ขนาด 10.25 นิ้ว เชื่อมต่อกับแอปพลิเคชัน ฟังเพลง วิดีโอ รองรับ Apple CarPlay และ Siri รองรับ Android Auto และ Google Assistant ระบบนำทาง รองรับแอปพลิเคชั่นเพลง เช่น JOOX  พร้อมลำโพง 6 จุด พร้อมวัสดุภายในห้องโดยสารให้สัมผัสที่สบาย โดยใช้วัสดุที่มีคุณภาพในการตกแต่งภายในด้วยดีไซน์ที่สวยงาม เบาะนั่งปรับด้วยระบบไฟฟ้า 6 ทิศทางฝั่งคนขับ พร้อม Welcome Seat ช่วยให้ผู้ขับขี่เข้า-ออกจากรถได้อย่างง่ายดายและนวดไฟฟ้า เพื่อผ่อนคลายความเมื่อยล้าของผู้ขับขี่ เบาะหลังสามารถพับลงได้ เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการบรรทุกสัมภาระได้สูงสุดถึง 858 ลิตร ระบบ Cockpit Cleaning System พร้อมระบบกรองอากาศ PM2.5 ช่วยเปิดการไหลเวียนของอากาศจากภายนอกเพื่อระบายอากาศและช่วยลดปริมาณฝุ่น PM2.5 เมื่อเข้าสู่ห้องโดยสาร และออพชั่นให้ความสบายๆทั้ง เกียร์อัตโนมัติลูกบิดระบบ Electronic Shifter ระบบชาร์จไร้สาย (Wireless Charging) และพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น 2 ก้าน

    ฟังก์ชั่นอัจฉริยะ (Intelligent Functions) มาพร้อมกับระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะ เช่น ระบบความบันเทิงในรถยนต์ ระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ ระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะ และเทคโนโลยีสำหรับการขับขี่อันล้ำสมัย การอัปเกรดเฟิร์มแวร์ผ่านระบบออนไลน์อัจฉริยะ (FOTA) ตอบโต้ด้วยเสียงอัจฉริยะผ่านระบบปัญญาประดิษฐ์ AI (Artificial Intelligence) การสั่งการและควบคุมรถจากระยะไกล พร้อมฟังก์ชั่นอื่นๆที่เกี่ยวเนื่องกับการทำงานของตัวรถทั้งคัน

    ขุมพลังไฟฟ้าที่โดนใจ

    MG

    ขุมพลังไฟฟ้าของรถ MG ZS EV รุ่น X พัฒนาใหม่ให้แรงขึ้นวิ่งไกลขึ้นด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ Lithium-Ion มีความจุ 50.3 kWhใหม่ และ มอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanent Magnet Synchronous Motorให้กำลังสูงสุด 177 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร มีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. อยู่ที่ 8.6 วินาที และด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่กับแรงดันเบตเตอรี่ 384 Volt สามารถขับขี่ได้ระยะทางสูงสุดถึง 403 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง ( NEDC) พร้อมเกียร์อัตโนมัติแบบ Single Speed อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ 8.6 วินาที ความเร็วสูงสุด 175 กิโลเมตร/ชั่วโมง (เดิมความจุ 44.5 kWh แรงม้า 150 ม้า แรงบิด 350 นิวตันเมตร ไกลสุด 337 กม. NEDC ความเร็วสูงสุด 140 กม./ชม. อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ 8.2 วินาที ) พร้อมระบบ Liquid Cooling System ช่วยระบายความร้อนให้ทั้งมอเตอร์ไฟฟ้า และแบตเตอรี่ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพตามมาตรฐานความปลอดภัย IP67 ในการป้องกันน้ำและฝุ่น พิสูจน์แล้วจาก EV Marathon วิ่งทดสอบทั่วประเทศบนระยะทางกว่า 4,880 กิโลเมตร

    MGMG

    พร้อมระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) สามารถชาร์จในระหว่างขับขี่กลับเข้าแบตเตอรี่ (Regenerative) สามารถเลือกระดับการชาร์จพลังงานกลับ ได้ถึง 3 ระดับ พร้อมโหมดการขับขี่ 3 รูปแบบ ได้แก่ โหมด Eco โหมด Normal และโหมด Sport รองรับการชาร์จแบบเร็วด้วยไฟกระแสตรง (DC) และการชาร์จไฟบ้านแบบ AC โดยระยะเวลาในการชาร์จ ชาร์จแบบเร็วด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC (30% – 80%) ใช้เวลา 30 นาที และการชาร์จไฟบ้าน AC 0-100% ใช้เวลา 7.15 ชม. สิ่งที่เหนือกว่า ORA Good Cat 500 ULTRA ตรงที่ การจ่ายกระแสไฟ V2L (Vehicle to Load) จ่ายพลังงานจากรถสู่อุปกรณ์ไฟฟ้าอื่น ด้วยกำลังสูงสุดถึง 2,200 วัตต์ โดยระยะเวลาในการชาร์จ ขึ้นอยู่กับระดับแบตเตอรี่คงเหลือและกำลังของเครื่องอัดประจุไฟฟ้า ระบบพวงมาลัย Rack and Pinion ควบคุมด้วยไฟฟ้า (EPS) ที่มีรัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.6 ม. ดิสก์เบรก 4 ล้อ พร้อมระบบช่วงล่างหน้า MacPherson Strut พร้อมเหล็กกันโคลง และระบบช่วงล่างหลัง Torsion Beam

    ทางด้าน ORA Good Cat 500 ULTRA มีขุมพลังไฟฟ้าแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor ให้กำลังสูงสุด 143 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 210 นิวตัน-เมตร ความเร็วสูงสุด 152 กิโลเมตร/ชั่วโมง พร้อมแบตเตอรี่ชนิดลิเธียมไอออน Ternary (NMC) ความจุ 63.139 kWh ระยะทางวิ่งสูงสุด 500 กิโลเมตร รองรับการชาร์จแบบเร็วด้วยไฟกระแสตรง (DC) สูงสุด 60 kW และการชาร์จไฟบ้านแบบ AC 6.6 kW โดยระยะเวลาในการชาร์จทั้งแบบเร็วด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC ทั้งจาก 30% – 80% ในเวลา 40 นาที และ DC 0% – 80% ในเวลา 60 นาที และชาร์จ AC 10 ชั่วโมง โดยอัตราเร่ง 0-50 กม./ชม. ภายใน  3.8 วินาที พร้อมระบบขับขี่ทั้งหมด 5 แบบ ซึ่งผู้ขับขี่สามารถปรับได้เองตามปริมาณแบตเตอรี่ที่คงเหลือได้แก่ 1) มาตรฐาน 2) Sport 3) ECO 4) ECO+ และ 5) อัตโนมัติ

    แบตเตอรี่มีความสามารถในการป้องกันมาตรฐาน IPX9K และ IP67 ซึ่งสามารถป้องกันน้ำ การกัดกร่อน การชน อัคคีภัย และการกระแทกได้ โดยเมื่อเกิดการกระแทกระบบไฟฟ้าจะตัดการทำงานภายใน 0.1 วินาที เพื่อความปลอดภัยของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร เซลล์แบตเตอรี่ถูกห่อหุ้มด้วยกล่องที่มีความแข็งแรงในระดับ 3 มิติ พร้อมมีการควบคุมอุณหภูมิและระบบระบายความร้อน พร้อมช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระแมคเฟอร์สันสตรัท (MacPherson Strut) พร้อมเหล็กกันโคลงและด้านหลังแบบทอร์ชันบีม (Torsion Beam) พร้อมเหล็กกันโคลงและพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า

    ความปลอดภัย

    MG

    MG ZS EV รุ่น X ครบครันมากรุ่น ZS เครื่องยนต์สันดาปตั้งแต่ ออพชั่นใหม่!ทั้ง ช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB (Autonomous Emergency Braking) ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนพร้อมปรับองศาพวงมาลัยหากออกนอกเลน ELK (Emergency Lane Keeping System) ผสานรวมระบบ LDP (Lane Departure Prevention) กับ LKA (Lane Keep Assist) เข้าไว้ด้วยกัน, ควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control), เปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-beam control), ควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist), ช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าขณะขับขี่ FCW (Forward Collision Warning), ช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning) ช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA (Lane Change Assist) ,ช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD (Blind Spot Detection) และ ช่วยเตือนขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)

    พร้อมความปลอดภัยพื้นฐานตั้งแต่ โครงสร้างตัวถังนิรภัย FSF (Full Space Frame) จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX ระบบล็อกประตูอัตโนมัติ Speed Sensing Door Lock) เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับ ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้างและม่านถุงลมนิรภัย รวม 6 จุด ระบบกุญแจนิรภัยแบบ Immobilizer และระบบไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่อง (Follow Me Home Light) เบรกมือไฟฟ้า EPB (Electronic Parking Brake) พร้อมป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง AVH (Auto Vehicle Hold)  และออพชั่นใหม่! กล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 3 มิติ (3D Around View Monitor) พร้อมสัญญาณเตือนระยะถอยหลัง และ ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง (TMPS)

    ทางด้าน ORA Good Cat 500 ULTRA ก็ครบครันไม่แพ้กัน ระบบการช่วยเหลือผู้ขับขี่และระบบความปลอดภัย (Driver Assistance and Safety Systems) สำหรับการขับขี่แบบอัตโนมัติในระดับ L2+ ทั้ง ควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC), ควบคุมความเร็วอัตโนมัติอัจฉริยะ (ICA), ควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ (TJA), เบรกฉุกเฉินอัตโนมัติบนทางตรงและทางแยก (AEBI), เบรกฉุกเฉินความเร็วต่ำ, ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LKA), ช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW), ช่วยรักษาระยะให้อยู่กลางเลน (LCK), ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนในภาวะฉุกเฉิน (ELK), ช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้าง (WDS), การเข้าโค้งอัจฉริยะ (Intelligent Turn), ช่วยออกตัวบนทางชัน (HSA), ตรวจความดันลมยาง (TPMS) , กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา ประกอบไปด้วยกล้องที่มองได้รอบ 4 ตัว, ระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ 3 รูปแบบ (IAP), ช่วยเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA), ช่วยเตือนความเมื่อยล้าขณะขับขี่ (DFM)

    ความปลอดภัยพื้นฐานทั้ง โครงสร้างตัวถัง ทำจากเหล็กกล้า IronBone™ ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง ระบบโทรหาเบอร์ฉุกเฉิน และ จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX

    สีภายนอกและราคาตัวรถ

    MG

    MG ZS EV รุ่น X พร้อมสีตัวถังทั้งหมด 5 สี ได้แก่ ได้แก่ สีน้ำเงิน (Como Blue) สีเงิน (Cosmic Silver) สีแดง (Scarlet Red) สีดำ (Black Knight) และสีขาว (Arctic White) มาในราคาปกติ 1,269,000 บาท แต่ราคาพิเศษซึ่งเป็นราคาจากการสนันสนุนของภาครัฐฯ อยู่ที่ 1,023,000 บาท ส่วนต่าง 246,000 บาท

    ORA Good Cat 500 ULTRA มีทั้งหมด 7 สี ทั้งแบบโมโนโทนและทูโทน แบ่งเป็นโมโนโทน 3 สี ทั้งสีขาว สีดำ สีฟ้า และทูโทน 4 สีทั้ง สีแดงหลังคาดำ สีขาวหลังคาดำ สีชมพูอ่อนหลังคาดำ และสีเขียวหลังคาขาว ในราคาปกติ 1,199,000 บาท แต่ราคาพิเศษซึ่งเป็นราคาจากการสนันสนุนของภาครัฐฯ อยู่ที่ 1,038,500 บาท ส่วนต่าง 160,500 บาท

    MG

    ด้วยโครงการที่ภาครัฐออกมาทำให้ได้เห็นราคารถทั้งสองรุ่นถูกกว่าเดิม แต่ ORA Good Cat ต้องหยุดรับจองเนื่องด้วยสงครามรัสเซีย-ยูเครน COVID-19 ผสมกับปัญหาชิปและเบตเตอรี่ที่ขาดแคลน ผนวกกับยอดจองล้นหลาม จึงมีความจำเป็นต้องหยุดรับจองตั้งแต่ 20 เมษายนเป็นต้นไปจนกว่ากลับเข้าสู่สถานการณ์ปกติ ทำให้ MG ZS EV ได้เปรียบสามารถรับรถได้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นไปสำหรับลูกค้าที่จองไปก่อนหน้า แต่ถ้าลูกจ้าจะจองวันนี้จะได้รับรถในช่วงปลายปีนี้ งานนี้ต้องชั่งใจแล้วว่าจะชอบแบบไหนกับรถยกสูงหลังคาสูงโปร่งสบายหรือรถเตี้ยทรงน่ารัก กับส่วนต่าง 15,500 บาท

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts