More

    MG5 2025 เก๋งหน้าหรูทุบราคาเร้าใจที่จีนเริ่ม 309,000 บาท

    เปิดราคาจำหน่ายเป็นที่เรียบร้อยสำหรับ MG5 รุ่นปรับโฉมในร่างเก๋งคอมแพ็คยอดนิยมของค่ายที่จำหน่ายมาตั้งแต่ปี 2020

    MG

    เปิดตัวไม่เท่าไหร่แถมจัดโปรลดราคาลงอีกจากเดิม 81,900-95,900 YUAN หรือราว 385,000-454,000 บาท ลดลงมาเหลือ 65,900-75,900 YUAN หรือราว 309,000-359,000 บาท

    ภายนอก Exterior

    MGหล่อหนนี้นำโครงหน้าตาของ MG5 Scorpio หรือ MG5 PRO เวอร์ชันไทยการปรับความหล่อลดความสปอร์ตเพิ่มความภูมิฐานแทนคล้ายกับ MG3 Hybrid+

    ตั้งแต่กระจังหน้า 3 มิติ แนวตั้ง 12 จุด ย้ายตราโลโก้ MG ไปอยู่ขอบกันชนหน้าส่วนบนรับกับกันชนหน้าใหม่ด้วยช่องระบายอากาศใต้กระจังหน้าและช่องรูปตัว C ซ้าย-ขวา ดีไซน์เอกลักษณ์ไฟหน้า LED ทรงเรียวเพรียวสปอร์ตพร้อมระบบเปิด-ปิด ไฟหน้าอัตโนมัติ ในชุดกันชนหน้าขนาดใหญ่เส้นสายด้านข้างดูกลมกลืนประณีตพร้อมดีไซน์หลังคารถที่ลาดลงตามยุคสมัย กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวที่เปิดประตูดีงก้านสีเดียวกับตัวรถกันชนหลังออกแบบใหม่ด้วยลิ้นสปอยเลอร์รูปตัว H แผงทับทิมสีแดงซ้าย-ขวาใหม่ ท่อไอเสียหลอกๆคู่สองฝั่ง

    ไฟท้าย LED ดีไซน์ใหม่ ล้ออัลลอยดีไซน์ใบพัด 5 ก้านทูโทนขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง 215/50R17 พร้อมมิติตัวรถดังนี้

    • ความยาว 4,715 มิลลิเมตร
    • ความกว้าง 1,842 มิลลิเมตร
    • ความสูง 1,473 มิลลิเมตร
    • ระยะฐานล้อ 2,680 มิลลิเมตร
    • ความจุถังน้ำมัน 45 ลิตร
    • น้ำหนักรถ 1,318 กิโลกรัม

    ภายใน Interior

    MGมีการออกแบบใหมหมดในโทนเข้มสีดำเริ่มที่แผงประตูคอนโซลหน้าดีไซน์ใหม่หมด ช่องแอร์ทรงสี่เหลี่ยมซ้ายขวาคิ้วสีเงินมาตรวัดดิจิทัลสีขนาด 12.3 นิ้ว จอสัมผัสระบบความบันเทิงใหม่ 12.3 นิ้ว ติดตั้งระบบอัจฉริยะ Zebra Venus ซึ่งรองรับการควบคุมด้วยเสียงการเชื่อมต่อฟังก์ชันอื่นๆ ทำให้การขับขี่สะดวกและปลอดภัยยิ่งขึ้น รองรับระบบเชื่อมต่อมัลติมีเดีย Apple CarPlay และสมาร์ทโฟนระบบ Android แบบไร้สาย ลำโพง 6 จุด กุญแจรีโมทอัจฉริยะ (Smart Key) พร้อมปุ่ม Push Start พร้อมช่องแอร์ตรงกลางใหม่คอนโซลเกียร์ออกแบบใหม่ต่อเนื่องกับกล่องคอนโซลกลาง พร้อมหลังคาซันรูฟ

    ระบบปรับอากาศแบบดิจิตอลพร้อมกรองอากาศ PM 2.5 กับช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง DIGITAL KEY สามารถเปลี่ยนสมาร์ทโฟนของคุณให้เป็นกุญแจรถได้ หรือจะเลือกแชร์ให้คนที่คุณไว้ใจถึง 5 คน และระบบควบคุมการทำงานของรถผ่านสมาร์ตโฟน เบาะนั่งออกแบบใหม่ในโทนสีดำและสีแดงห้องโดยสารที่กว้างขวางที่สุดมีพื้นที่เหนือศีรษะ (Headroom) ที่สูงโปร่ง เบาะคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง ลำโพง 6 จุด กุญแจรีโมทอัจฉริยะ (Smart Key) พร้อมปุ่ม Push Start มีพื้นที่สัมภาระท้ายแบบไม่พับเบาะ 401 ลิตร

    สมรรถนะ Performance

    MGแรงแร้าใจด้วยเบนซินเทอร์โบ 15S4E ให้กำลังสูงสุด 181 แรงม้าที่ 5,600 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 285 นิวตันเมตรที่ 1,750-4,000 รอบต่อนาที คู่กับเกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ DCT 7 สปีด และเบนซินธรรมดา รหัส 15S4C VTi–TECH 129 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 158 นิวตันเมตร ที่ 4,500 รอบต่อนาที คู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT และเกียร์ธรรมดา 5 สปีด

    พร้อมพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้าปรับน้ำหนักอัจฉริยะตามความเร็ว EPS-PRO ช่วงล่างหน้า MacPherson Strut พร้อมเหล็กกันโคลง และช่วงล่างหลัง Torsion Beam แบบสปอร์ตแปรผันตามความเร็ว พร้อมดิสก์เบรก 4 ล้อ

    ความปลอดภัย Safety

    MG

    • โครงสร้างตัวถังนิรภัยแบบ FSF (Full Space Frame)
    • ป้องกันล้อล็อกขณะเบรกฉุกเฉิน ABS (Anti-lock Brake System)
    • กระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake force Distribution)
    • เสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA (Electronic Brake Assist)
    • เบรกมือไฟฟ้า EPB (Electronic Parking Brake) พร้อมป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง AVH (Auto Vehicle Hold)
    • ควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้งด้วยความเร็ว XDS (Electronic Differential System)
    • ป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System)
    • ช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist System)
    • สัญญาณไฟแจ้งเตือน เมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS (Emergency Stop Signal)
    • ควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control)
    • ช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA (Lane Change Assist)
    • ช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD (Blind Spot Detection)
    • ช่วยเตือนขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
    • ช่วยเตือนการชนด้านหลัง RCW (Rear Collision Warning)
    • เบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ Autonomous Emergency Brake (AEB)
    • ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง
    • กุญแจนิรภัย Immobilizer
    • ล็อกประตูอัตโนมัติ
    • สัญญาณไฟกระพริบฉุกเฉินอัตโนมัติเมื่อมีการเบรกกะทันหัน Emergency Stop Signal (ESS)
    • กล้องมองหลังทำงานพร้อมกับกล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 540 องศา
    • ไฟเตือนให้คาดเข็มขัดนิรภัย seatbelt reminder (SBR) สำหรับด้านหน้าและด้านหลัง
    • เข็มขัดนิรภัยแบบกลไกดึงกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติทั้งด้านหน้าและด้านหลัง Pretensioner with Load Limiter Safety Belt
    • ระบบล็อกประตูอัตโนมัติ (Speed Sensing Door Lock)
    • จุดยึดเบาะเด็กแบบ ISOFIX
    • ไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่องยนต์ (FOLLOW ME HOME LIGHT)

    MG

    MG5 รุ่นปรับโฉมครั้งแรกในรอบ 3 ปีที่เมืองจีนขาย 3 รุ่นย่อยลุ้นเมืองไทยอาจมีการปรับหน้าตาอีกครั้งจะเป็นช่วงปีหน้าหรือไม่ต้องติดตาม

    ที่มา Autohome

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts