ถ้วยรางวัลไฮเทคที่มอบให้กับผู้ชนะการแข่งขัน Japanese Grand Prix ได้รับความประหลาดใจเป็นพิเศษหลังจากจูบถ้วยรางวัลของเขา: มันสว่างไสวด้วยสีของธงชาติของเขา
ในโลกของ Formula One เป็นประเพณีอันทรงเกียรติที่ได้เห็นนักแข่งผู้มีชัยจูบถ้วยรางวัลที่ได้มาอย่างยากลำบาก บนโพเดี้ยมในช่วงปิดท้ายของการแข่งขัน ทาง Lenovo และ Pininfarina ผู้สร้างถ้วยรางวัลที่แจกให้กับผู้ชนะเนื่องในโอกาสการแข่งขันสุดสัปดาห์นี้ที่ญี่ปุ่น จึงตัดสินใจสร้างถ้วยรางวัลที่เปลี่ยนสีสว่างขึ้นเมื่อถูกจูบ
รางวัลนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากช่องรับอากาศที่ด้านบนของรถ F1 เป็นลายโลโก้ของ Lenovo และเต็มไปด้วยไฟหลากสีที่สามารถเปลี่ยนรูปลักษณ์ได้ นอกจากนี้ยังมีวงกลมแสงสีขาวอยู่ตรงกลางซึ่งล้อมรอบคำว่า “Kiss Me”
จากคลิบวีดีโอในขณะที่ Max Verstappen ได้รับชัยชนะ อันน่าประทับใจที่ Japanese Grand Prix ที่ได้บรรจงจูบถ้วย แล้วก็เกิดการเปลี่ยนสี จากสีขาวเป็นสีแดง และสีน้ำเงินเป็นสีของธงชาติดัตช์ที่เขาลงแข่ง
“สำหรับ Pininfarina ด้วยตำนานที่ไม่มีใครเทียบได้ในวงการยานยนต์ ถือเป็นเกียรติที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ Formula 1 ด้วยถ้วยรางวัลที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมนี้” Paolo Trevisan รองประธานฝ่ายการออกแบบของ Pininfarina แห่งอเมริกากล่าว “เช่นเดียวกับรถแต่ละคันในสนามแข่งที่ยืนหยัดจนเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความทุ่มเทของมนุษย์ต่อนวัตกรรม ถ้วยรางวัลของเราก็รวบรวมแก่นแท้ของงานฝีมือและสุนทรียภาพแห่งการก้าวไปข้างหน้า”
The winners’ trophy lighting up in the Dutch flag after Max gives it a kiss
byu/im-baba-yaga informula1
ในวิดีโอ Lenovo แนะนำให้ถ้วยรางวัลรู้ว่าจะแสดงสีธงใดโดยพิจารณาจากลายพิมพ์ริมฝีปากของผู้ขับขี่ที่จูบธงนั้น แม้ว่าฉันไม่สงสัยเลยว่าริมฝีปากของมนุษย์แต่ละคนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แต่ความคิดที่จะลองใช้ความพยายามในการกำหนดลายพิมพ์ริมฝีปากของคนขับแต่ละคน แต่มันก็ไม่ได้ยาก ถ้าสร้างโปรแกรมกำหนดสีธงชาติของนักแข่งไว้ เมื่อรู้ว่าใครจะเป็นผู้จูบถ้วยนี้ ก็จัดเตรียมไว้ให้พร้อม
นอกเหนือจากการได้รับถ้วยรางวัลประดับไฟอันแปลกใหม่แล้ว Max Verstappen ยังพาทีม Red Bull Racing ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งแชมป์ในฐานะผู้ผลิตได้ในการแข่งขัน Japanese Grand Prix ที่ผ่านมา และยังมีมีโอกาสในการรับตำแหน่งแชมป์ของฤดูกาล ในการแข่งขันครั้งต่อไปที่ Qatar Grand Prix ซึ่งมีกำหนดจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 6 – 8 ตุลาคม ที่จะถึงนี้
ในขณะเดียวกัน เทคโนโลยีเดียวกันนี้จะนำไปใช้กับรางวัลที่มอบให้กับนักแข่งที่ชนะการแข่งขัน United States Grand Prix ในออสตินในวันที่ 22 ตุลาคม ด้วย
Source : Carscoop
