จากข่าวที่มีการสูญเสียมากมายในเหตุการณ์ รถปิกอัพพลิกคว่ำตามโค้งต่าง ๆ โดยมีผู้โดยสารด้านท้ายกระบะ ได้รับบาดเจ็บและถึงขั้นเสียชีวิตมานานมาก จนทุกวันนี้ก็ยังเกิดเหตุการณ์แบบนี้ซ้ำ ๆ เหตุสลดที่ว่านี้ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น วันนี้เรามาเปิดข้อกฎหมายเกี่ยวกับการบรรทุกคนท้ายรถกระบะ ว่าอย่างไรถึงมีความผิดและเสียค่าปรับเท่าไรบ้าง
อ้างอิงตาม พ.ร.บ. รถยนต์ พ.ศ. 2522 และ พ.ร.บ. จราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 21 ระบุว่า ห้ามใช้รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลที่มีน้ำหนักรถไม่เกิน 1,600 กก. เป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน หรือใช้รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเป็นรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล รวมถึงตอนนี้มีมาตรการบังคับให้ผู้โดยสารทุกที่นั่งต้องคาดเข็มขัดนิรภัยออกมาแล้ว นั่นหมายความว่า หากต้องบรรทุกคนจะต้องมีหลังคาปิดและต้องคาดเข็มขัดทุกที่นั่งนั่นเอง
ตัวอย่างเช่น คุณต้องใช้รถยนต์ให้ตรงตามที่ระบุไว้ในเล่มทะเบียนแต่ละประเภท เช่น ถ้าใครจดทะเบียนรถกระบะเป็นรถบรรทุก (ป้ายสีเขียว) จะเอามาบรรทุกคนไม่ได้ และ ถ้าใครจดทะเบียนรถกระบะเป็นรถยนต์นั่งเกิน 7 คน (ป้ายสีน้ำเงิน) โดยที่ทำการต่อเติมหลังคาและมีที่นั่งชัดเจน จะนำมาใช้บรรทุกสิ่งของไม่ได้
จากการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดกับผู้ที่นั่งซ้อนท้ายกระบะที่ไม่มีหลังคา ซึ่งกฎหมายดังกล่าวก็ยังคงบังคับใช้มาจนถึงปัจจุบัน ดังนั้น ก่อนที่คุณจะนั่งโดยสารหรือให้ใครนั่งกระบะท้ายรถของคุณนั้น ก็ควรทราบด้วยว่ายังมีข้อห้ามเรื่องนี้อยู่และอาจเป็นสาเหตุให้ถูกจับปรับได้
ดังนั้น การนั่งโดยสารบริเวณกระบะท้ายจึงถือเป็นความผิดตามกฎหมาย ห้ามมิให้ผู้ใดใช้รถไม่ตรงตามประเภทที่จดทะเบียนไว้ หากฝ่าฝืนมีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 2,000 บาท
แต่อย่างไรก็ตามในปัจจุบันก็ยังคงมีการผ่อนคลายความเข้มงวดเกี่ยวกับการนั่งโดยสารกระบะท้ายในบางกรณี เช่น ช่วงเทศกาลที่มีผู้คนเดินทางกลับภูมิลำเนาเป็นจำนวนมาก กรณีนี้อาจถูกตำรวจเรียกตักเตือนตามรายทาง แต่ก็มีบางกรณีที่ห้ามเด็ดขาด เช่น ห้ามขึ้นทางพิเศษ เนื่องจากมีข้อกำหนดไว้อย่างชัดเจนว่าห้ามให้รถกระบะบรรทุกผู้โดยสารใช้ทางพิเศษโดยเด็ดขาด เนื่องจากอาจเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดขึ้นได้
หากคุณมีความจำเป็นต้องบรรทุกผู้โดยสารจริง ๆ ควรนำรถไปติดตั้งโครงหลังคากระบะ และจดทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อจะได้เป็นการเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้โดยสาร และถูกปรับด้วยนะคะ
บทความอื่น ๆ
