More

    Suzuki Jimny เพิ่มรุ่น 5 ประตู ขยายไลน์อัพขายในญี่ปุ่น

    Suzuki Jimny รุ่น 5 ประตู ประสบความสำเร็จอย่างมากในการทำตลาดในประเทศอินเดีย ด้วยขนาดตัวรถที่ยาวและใช้งานได้จริง ซึ่งผลิตเฉพาะที่โรงงาน Gurugram ในอินเดียจะถูกส่งออกไปยังญี่ปุ่นในอนาคต

    ปัจจุบันลูกค้าชาวญี่ปุ่นสามารถเป็นเจ้าของ Jimny รุ่น 3 ประตูที่ผลิตในท้องถิ่นได้เท่านั้น ซึ่งเป็นรุ่นตัวถัง Kei-car ซึ่งมีขนาดเล็ก อย่างไรก็ตาม CV Raman ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของ Maruti Suzuki ยืนยันกับ Autocar India เมื่อเร็วๆ นี้ว่า Jimny 5 ประตู “จะเปิดตัวในญี่ปุ่นด้วย วันใดวันหนึ่ง” โดยบอกเป็นนัยถึงการขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับรุ่น JDM-spec

    ในระหว่างการเปิดตัวรุ่นตัวถังใหม่ในต้นปี 2023 Suzuki ได้ประกาศแผนการที่จะนำเสนอในตลาดโลก รวมถึงอินเดีย แอฟริกา และละตินอเมริกา แต่ดูเหมือนว่าภูมิภาคอื่นๆ จะกำลังพิจารณาเนื่องจากกระแสตอบรับเชิงบวกของสาธารณชน

    ด้วยความยาว 3,985 มม. Jimny 5 ประตูจึงยาวกว่ารุ่น 3 ประตูสเปคสากล 340 มม. เนื่องจากฐานล้อที่ยืดออกส่งผลให้ห้องโดยสารกว้างขวางมากขึ้น แม้จะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น ในขณะที่ Jimny 5 ประตูสเปคอินเดีย มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตรที่ให้กำลัง 103 แรงม้า และแรงบิด 134 นิวตันเมตร

    Jimny รุ่นที่ 4 เปิดตัวครั้งแรกในปี 2018 ดังนั้นจึงถึงเวลาที่ Suzuki จะเปิดตัวการปรับโฉมสำหรับรถออฟโรดยอดนิยมในช่วงต้นปีหน้า ในเดือนมกราคม ปี 2023 ผู้ผลิตรถยนต์ได้ประกาศ Jimny ที่ใช้ระบบไฟฟ้าเต็มรูปแบบสำหรับตลาดยุโรป โดยทีเซอร์อย่างเป็นทางการแสดงกระจังหน้าเรืองแสงและกราฟิก LED ใหม่ การเปิดตัว EV ที่กำลังจะมาถึง อาจเกิดขึ้นพร้อมกับการอัปเดตช่วงกลางอายุการใช้งานสำหรับ Jimny ที่ขับเคลื่อนด้วย ICE ที่จำหน่ายทั่วโลก เนื่องจากรุ่น 3 ประตูและ 5 ประตูใช้แผงตัวถังส่วนใหญ่ร่วมกัน การปรับโฉมจึงอาจนำไปใช้กับทั้งสองเวอร์ชันพร้อมกันได้

    ในส่วนของระบบส่งกำลัง นอกเหนือจาก EV แล้ว Suzuki ยังมีโอกาสที่จะขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ของ Jimny ด้วยรุ่นไฮบริด อย่างน้อยสำหรับตลาดที่การใช้พลังงานไฟฟ้ามีความสำคัญมาก ประเทศญี่ปุ่นก็เป็นหนึ่งในประเทศที่ใช้รถยนต์ไฟฟ้าเป็นจำนวนมาก โดยรถยนต์ Suzuki ภายในญี่ปุ่น กำหนดให้มีรถยนต์ไฟฟ้า 20% และรถยนต์ไฮบริด 80% ภายในปี 2030 แผนการของผู้ผลิตรถยนต์สำหรับยุโรปมีอัตราส่วนตรงกันข้าม โดยมีเป้าหมายรวมประเภทรถยนต์ไฟฟ้าที่ 80% และรถยนต์ไฮบริด 20% ภายในปี 2030

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts