หลังจากที่ Suzuki SPACIA เจนที่ 3 เปิดตัวญี่ปุ่นตั้งแต่ปีกลายจนขายดีและกลางปีนี้เผยเวอร์ชันลุย Suzuki SPACIA GEAR ยั่วใจชาวญี่ปุ่น
ล่าสุดเปิดราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับเจเนอเรชันที่ 2 สายลุยอย่าง Suzuki SPACIA GEAR ตกแต่งออฟโรดด้วยหน้าตาที่เป็นเอกลักษณ์สไตล์รถจิ๊ปนำร่าง SPACIA เจนที่ 3 รหัส MK54S เสริมมาดโหด
ตั้งแต่ไฟหน้า LED ทรงกลมล้อมกรอบสีดำรับกับกระจังหน้าแนวตั้ง 6 ซี่โครเมียมแปะตรา Suzuki พร้อมกันชนหน้ารูปทรงตัวเอ็กซ์พร้อมไฟเลี้ยวและไฟตัดหมอกหน้า LED ทรงกลมติดตั้งแผ่นกันกระแทกใต้กันชนหน้าสีเงินเสริมหล่ออีกขั้น
ด้านข้างเสริมเด่นด้วยชุดดำทั้งคันตั้งแต่หลังคารถ แร็คหลังคา กระจกมองข้างทรงสปูน ที่เปิดประตู และเสา A แนวตั้งไปจนถึงเสา D ล้วนตกแต่งดำทั้งหมดเสริมคิ้วชายล่างประตู พร้อมประตูสไลด์สองข้างเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า
ด้านท้ายมาพร้อมไฟท้าย LED แนวตั้งสีขาวแดงกับฝาท้ายเรียบง่าย คิ้วกรอบป้ายทะเบียนสีดำเข้มรับกับกันชนหลังสีดำเสริมคิ้วสีเงิน และล้ออัลลอย 4 ก้านคู่ขนาด 14 นิ้วพร้อมยาง 155/65R14 จาก Dunlop’s “ENASAVE EC350+” ด้วยแพลตฟอร์ม Heartect ตัวรถใหญ่ขึ้นกว่าเจนเดิมตัั้งแต่
- ความยาว 3,395 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,475 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,800 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ 2,170 มิลลิเมตร
- ระยะต่ำสุดจากพื้น 150 มิลลิเมตร
- น้ำหนักรถ 900-960 กิโลกรัม
- ความจุถังน้ำมัน 27 ลิตร
ภายในห้องโดยสารยกมาจากรุ่น SPACIA ปกติปรับตัวตนเข้ากับมาดลุยเริ่มที่แผงคอนโซลหน้าดีไซน์แปลกตาฉูดฉาดจัดวางการทำงานของฟังก์ชันเอาไว้เอื้อมมือถึงใกล้มากที่สุดเริ่มมาตรวัดจอสี TFT LCD ขนาด 4.2 นิ้ว ใกล้กันมีจอสัมผัสขนาดใหญ่ 9 นิ้วแบบ HD Suzuki Connect รองรับการเชื่อมต่อทั้ง Apple CarPlay Android Auto
พร้อมคอนโซลเกียร์ เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติ เบรกมือไฟ้ฟ้าและ Auto Hold และพวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้านแบบอุ่นปรับอุณหภูมิได้และยังมีจอเแสดงข้อมูลการขับขี่บนแผงคอนโซลหน้า HUD มาด้วย มีช่องเสียบพอร์ต USB สำหรับชาร์จไฟอีกด้วยและปุ่ม Push Start
เบาะนั่ง 4 ที่นั่งนั่งสบายหุ้มผ้าสีดำลวดลายเด่นเดินด้ายสีส้ม เบาะฝั่งคนนั่งสามารถเลื่อนได้มากสุด มีที่พักแขนที่เบาะหน้าและเบาะหลังและเบาะนั่งด้านหลังสามารถเลื่อนปรับสูง-ต่ำพับได้แบบ 50/50 แล้วที่รองนั่งสามารถยื่นออกมาเพิ่มความสบายในการนั่งมากขึ้นคล้ายเก้าอี้บาร์เบอร์ในร้านตัดผม มีช่องเก็บของหลังเบาะคู่หน้าติดตั้งถาดอเนกประสงค์หลังเบาะคู่หน้าไว้วางแก้วน้ำอย่างสะดวก
ขุมพลังคงเดิมด้วยเบนซิน Mild Hybrid ขนาด 660 CC. มี 2 ทางเลือกเริ่มที่รหัส R06A เบนซินเทอร์โบ กำลังสูงสุด 64 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 98 นิวตันเมตรที่ 3,000 รอบต่อนาทีพร้อมอเตอร์ไฟฟ้า 3.1 แรงม้าที่ 1,000 รอบต่อนาที แรงบิด 50 นิวตันเมตรที่ 100 รอบต่อนาทีและชุดแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาดเล็กสำหรับเร่งแซงและประหยัดน้ำมัน ประหยัด 19.8-21.9 กิโลเมตรต่อลิตร (WLTC)
และรหัส R06D กำลังสูงสุด 49 แรงม้าที่ 6,500 รอบต่อนาที แรงบิด 58 นิวตันเมตรที่ 5,000 รอบต่อนาทีพร้อมอเตอร์ไฟฟ้า 2.6 แรงม้าที่ 1,500 รอบต่อนาที แรงบิด 40 นิวตันเมตรที่ 100 รอบต่อนาทีและชุดแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาดเล็ก ประหยัด 22.4-23.9 กิโลเมตรต่อลิตร (WLTC)
ทั้ง 2 ขนาดจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT ขับเคลื่อนล้อหน้าและขับเคลื่อนสี่ล้อ Full Time 4WD พร้อมระบบดับเครื่องยนต์ชั่วคราว idling stop ความปลอดภัย Suzuki Safety Support ประกอบด้วย
- ป้องกันการชนด้านหน้า DSBS (Dual Sensor Brake Support)
- ล็อกความเร็วแปรผันอัตโนมัติ Adaptive Cruise Control (ACC)
- เบรกฉุกเฉินอัตโนมัติพร้อมตรวจจับยานพาหนะ คนเดินถนน จักรยานและมอเตอร์ไซค์ Autonomous emergency braking (AEB) with vehicle, pedestrian, cyclist and motorcyclist detection
- เตือนออกนอกเลน Lane Departure warning
- ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ Lane Keeping Assist
- ช่วยควบคุมรถไม่ให้ออกนอกเลน Lane Departure Prevention
- เตือนเมื่อรถออกนอกช่องจราจร Lane departure warning
- กล้องมองภาพรอบคัน Surround-view camera
- ตรวจจับกับแสดงป้ายจราจร Traffic sign recognition
- ป้องกันการเหยียบคันเร่งผิดพลาดขณะออกตัว False Start Prevention Function
- ป้องกันการเหยียบคันเร่งผิดพลาดขณะถอยหลัง False Backward Prevention Function
- ช่วยเบรกในความเร็วต่ำด้านหน้า-หลัง Low speed brake support
Suzuki SPACIA GEAR มี 2 เกรดทั้งรุ่น HYBRID XZ และรุ่น HYBRID XZ Turbo มากัน 4 รุ่นย่อยในราคาเริ่มต้น 1,952,500-2,157,100 YEN หรือราว 449,000-499,000 บาท เป็นราคาไม่รวมภาษีนำเข้า แต่ถ้าขายไทยรวมภาษีนำเข้าจะอยู่ที่ 845,000-939,000 บาท
ที่มา Carwatch
