นับเป็นรถเอ็มพีวีไซส์ยักษ์และหรูครองใจเหล่าเศรษฐี เซเลป แม้กระทั่งผู้บริหาร นักการเมือง ทั้งชาวไทยและหลายประเทศ
สำหรับ Toyota Alphard และ Toyota Vellfire เจเนอเรชั่นที่ 3 ที่ทำตลาดมาตั้งแต่ปี 2015 จึงสมควรแก่เวลาที่จะเปิดตัวเจนใหม่ ล่าสุดเว็บรถยนต์ญี่ปุ่นอย่าง Best Car Web เผยบทสนทนาการพูดคุยระหว่างทีมบรรณาธิการฯ และเซลส์ขายรถ Toyota โดยมีบทสนทนาที่กล่าวถึงเรื่อง Toyota Alphard และ Toyota Vellfire โดยจะส่งมอบที่ญี่ปุ่นตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคมนี้ถึงเมษายน ปีหน้า และพูดถึงเดือนพฤษภาคมปีหน้าว่าจะมีเจเนอเรชั่นใหม่ออกจำหน่าย (เจเนอเรชั่นที่4)
โดยมีความเป็นไปได้ว่า เจเนอเรชั่นใหม่ของ Toyota Alphard/Vellfire จะเปิดตัวในเดือนพฤษภาคมปีหน้า อาจได้ใช้แพลตฟอร์ม TNGA ภายนอกใหม่หมดแน่นอนแต่ยังมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวตั้งแต่กระจังหน้าโครเมี่ยมพร้อมโลโก้เฉพาะของ Alphard และ โลโก้สามห่วงสำหรับ Vellfire มาพร้อมไฟหน้า Projector แบบ LED โทนสีทอง พร้อมไฟ Daytime Running Lights และไฟเลี้ยวหน้า-หลังแบบ Sequential กันชนหน้าทรงหรูและกันชนหลังปรับอารมณ์ด้วยกรอบป้ายทะเบียนดีไซน์ยาวขึ้นรับกับไฟท้าย LED และล้ออัลลอย 18 นิ้วพร้อมยาง 235/50 R18
ภายในตกแต่งหรูเข้มด้วยเบาะนั่ง 7 ที่นั่งหุ้มหนังแท้ คอนโซลหน้าตกแต่งลายไม้สีเข้ม และคอนโซลกลางตแต่งสีทอง พร้อมพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น คอนโซลกลางหนังสัมผัส พร้อมจอสัมผัสขนาดใหญ่ 10.5 นิ้ว เชื่อมต่อ Android Auto Apple CarPlay กับลำโพงคุณภาพพรีเมียม JBL เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติแยกส่วนซ้ายขวาและแยกการทำงานด้านหลัง พร้อมระบบ Nanoe มาตรวัดเรืองแสงพร้อมจอ MID
พร้อมขุมพลังที่มีทั้งแบนซินล้วนและเบนซิน Hybrid คาดว่าอาจได้เครื่องใหม่ Dynamic Force เข้ามาตั้งแต่ Dynamic Force Turbo ขนาด 2.4 ลิตร T24A-FTS ให้กำลังถึง 269 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 418 นิวตันเมตรที่ 1,700-6,300 รอบ/นาที พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด แบบ Direct Shift กับ Dynamic Force 2.5 ลิตร A25A-FKB พร้อม VVT-iE ระบบวาล์วแปรผันอัจฉริยะควบคุมด้วยไฟฟ้า 209 แรงม้าที่ 6,600รอบ/นาที แรงบิด 250 นิวตันเมตร ที่ 5,000 รอบ/นาที และส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ Direct Shift-8AT
ปิดท้ายด้วย Dynamic Force Hybrid เบนซิน 2.5 ลิตร A25A-FXS จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ลูก และ 3 ลูกในรุ่น AWD ให้กำลังถึง 192 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 238 นิวตันเมตรที่ 4,200-4,600 รอบ/นาที จากเครื่องยนต์ ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าหน้า-หลังแบบ 5NM และแบตเตอรี่ Hybrid แบบ Nickel-Metal โดยมอเตอร์ด้านหน้าให้กำลังถึง 182 แรงม้าสำหรับรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้า และมอเตอร์หลังในรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ AWD Electronic On-Demand 54 แรงม้า ทำงานร่วมกันได้แรงม้ามากถึง 249 แรงม้า จับคู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ ECVT เลือกได้สี่โหมดสำหรับการขับขี่ EV, Normal, Eco และ Sport พร้อมความปลอดภัย Toyota Safety Sense
จับตาว่า Toyota Alphard และ Toyota Vellfire เจเนอเรชั่นใหม่ จะมีความหรูความหล่อโดนใจสาวกหรือไม่และถ้ามีความเคลื่อนไหวจะนำมาเสนอในครั้งต่อไป
ที่มา Bestcarweb