ตลาดรถเมืองไทยไตรมาสสุดท้ายนี้มีความคึกคักเมื่อสองค่ายยักษ์ใหญ่จากแดนปลาดิบทั้ง Toyota และ Honda ต่างขยายฐานลูกค้าอย่างสนุกสนาน
ซึ่งนั่นก็คือกลุ่มตลาดรถยนต์สมรรถนะสูงหรือ Performance Car หลังจากที่ช่วงกลางปี Subaru ส่ง WRX เจเนอเรชันใหม่ออกมาขาย ผนวกกับทาง Toyota ฉลอง 60 ปี อย่างยิ่งใหญ่ส่ง Toyota GR Supra MY2023 และ Toyota GR 86 จากเดิมมีทั้ง Toyota GR Yaris จำหน่ายและทางทีมงาน Car2Day ได้รับข้อมูลจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ว่าทาง Toyota และ Honda เตรียมเขย่าตลาดปลายปีด้วยการส่งสองเก๋ง Hot Hatch สมรรถนะสูงนำเข้าจากญี่ปุ่นมาขายเมืองไทยเริ่มกันที่
น้องใหม่ที่พึ่งชิมลางในตลาดรถแรงอย่าง Toyota GR Corolla ทายาทลำดับที่สี่จากตระกูล Gazoo Racing หล่อตั้งแต่กระจังหน้าทรงคุ้นเคยพร้อมโลโก้สามห่วงขนาบข้างด้วยไฟหน้า LED รูปตัว L ดัดแปลงกันชนหน้าให้สปอร์ตมากขึ้นพร้อมช่องระบายอากาศขนาดใหญ่เสริมสเกิร์ตในตัวบังโคลนหน้ามีช่องดักลมสุดเท่สุดเข้มด้วยสีดำแปะตราโลโก้ GR รวมถึงสเกิร์ตข้างที่เขียนว่า GR-Four ที่เป็นรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อตกแต่งทั้งคันด้วยซุ้มล้อทรงโตกับล้ออัลลอยสีเข้ม 18 นิ้วพร้อมยาง 235/40R18 เป็นยางยี่ห้อ YOKOHAMA รุ่น ADVAN APEX V601 สำหรับสเปกญี่ปุ่นแต่สเปกต่างประเทศใช้ยาง Michelin Pilot Sport 4 หรือยางขนาด 245/40R 18 จาก Michelin รุ่น PILOT SPORT CUP 2 ด้านท้ายเท่ด้วยไฟท้าย LED เติมเต็มความโดดเด่นให้สมบูรณ์ กับกันชนหลังพร้อมลิ้นสปอยเลอร์สุดโหด และได้หลังคารถแบบตกแต่งด้วยคาร์บอนสีดำ
Hot Hatch ค่ายสามห่วงนำพื้นฐาน Corolla Hatchback มาดัดแปลงเปลี่ยนตัวตนด้วยแพลตฟอร์ม TNGA-C มีขนาดที่ดูแล้วดุดันใหญ่โตด้วยความยาว 4,410 มม. ความกว้าง 1,850 มม. ความสูง 1,480 มม. ฐานล้อ 2,640 มม. และน้ำหนักรถ 1,470 กก.
ภายในมีทั้งระบบจอสัมผัสขนาดใหญ่ 8 นิ้ว Toyota Audio Multimedia คมชัดละเอียดแบบ high-res touchscreen display ลำโพงคุณภาพมากสุด 6 ตัว และ JBL 8 ตัว มาตรวัดเรืองแสงพร้อมจอ MID แบบ 7 นิ้ว ระบบข้อมูลเหนือแผงคอนโซลหน้า Head-Up Display เบาะนั่งสปอร์ตปักโลโก้ GR หุ้มด้วยวัสดุผ้าเดินด้ายสีเทา และหนัง Brin Naub เดินด้ายแดงให้เลือก พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้านยกชุดจาก Toyota GR Yaris ชุดแป้นคันเร่งและเบรกแบบอะลูมิเนียมสีเงิน เบาะหลังพับได้แบบ 60/40 มาตรวัดดิจิทัล 12.3 นิ้ว และที่ชาร์จมือถือไร้สาย
ขุมพลังแน่นอนว่ายกมาจาก Toyota GR Yaris กับพลังเบนซินเทอร์โบ 1.6 ลิตร รหัส G16E-GTS 3 สูบ 12 วาล์ว ให้กำลังมากสุด 304 แรงม้าที่ 6,500 รอบ/นาที แรงบิด 370 นิวตันเมตรที่ 3,000-5,500 รอบ/นาที และอีกทางเลือกแรงม้าเท่าเดิม 304 แรงม้าที่ 6,500 รอบ/นาที แต่แรงบิดปรับขึ้นเป็น 400 นิวตันเมตรที่ 3,250-4,600 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 สปีด iMT (Intelligent Manual Transmission) พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ GR-Four AWD เลือกการขับขี่ได้ 3 รูปแบบคือ Normal (60/40) Sport (30/70) และ Track (50/50) ให้เหมาะสมกับสภาพถนนแยกแรงบิดระหว่างล้อหน้าและล้อหลัง พร้อม Torsen® LSD (Limited Slip Differential) กระจายแรงบิดระหว่างล้อคู่หน้าและหลัง ช่วยให้ตัวรถมีความสมดุลตลอดเวลา
ช่วงล่างแบบ GR ปรับแต่งเป็นพิเศษทรงตัวและยึดเกาะได้อย่างมั่นคงด้วยความเร็วสูงประกอบด้วยช่วงล่างหน้าอิสระแมคเฟอร์สันสตรัทพร้อมเหล็กกันโคลง และ คอยล์สปริงออกแบบใหม่ ด้านหลังแบบอิสระมัลติลิงก์ พร้อมจากดิสก์เบรกหน้า 4 Pot ขนาด 356 มม. และด้านหลัง 2 Pot ขนาด 297 มม. ฝากระโปรงหน้าทำจากอะลูมิเนียมและแผงประตูหน้าอะลูมิเนียม ลดการเพิ่มของน้ำหนักรถได้และความปลอดภัย Toyota Safety Sense 3.0 โดย Toyota GR Corolla ผลิตที่ Motomachi ประเทศญี่ปุ่น
ทางด้านคู่ชกที่ผ่านประสบการณ์มายาวนาน 25 ปี อย่าง Honda Civic Type R ครั้งนี้มาในร่างเจเนอเรชันที่ 6 (FL5) นำพื้นฐาน Honda Civic Hatchback FL สวมตัวตนใหม่ด้วยชุดแต่งสีดำเข้มทั้งคัน โลโก้ H พื้นแดงปักในชุดกระจังหน้าและฝาท้าย พร้อมความหล่อจากกระจังหน้าดีไซน์ปีกนกแนวยาว รับกับไฟหน้า LED ดีไซน์เฉียบพร้อมไฟส่องสว่าง DRL แบบ LED รับกันชนหน้าทรงสปอร์ต กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวทรงสปูน เสาอากาศครีบฉลาม สปอยเลอร์หลังขนาดใหญ่ครอบลงกระจกหลังเฉพาะรุ่น Type R เด่นด้วยกันชนหลังติดตั้งลิ้นสปอยเลอร์หลังและท่อไอเสียตรงกลางมี 3 ท่อยางติดล้อเป็นยางค่าย Michelin Pilot Sport 4S ลดขนาดมาเป็น 19 นิ้ว พร้อมยาง 265/30R19 ที่ขาดไม่ได้กับฝากระโปรงหน้ามีสคูปช่องดักลมเล็กๆสร้างความตื่นเต้นเมื่อพบเห็น มิติตัวรถตั้งแต่ความยาว 4,595 มม. ความกว้าง 1,890 มม. ความสูง 1,405 มม. ระยะฐานล้อ 2,735 มม. น้ำหนักรถ 1,430 กก.
ภายในยกงานดีไซน์คอนโซลหน้าแผงประตูจาก Honda Civic Hatchback FL ปรับให้เข้ากันด้วยเบาะนั่งทรงสปอร์ตโทนสีแดงดำเดินด้ายแดงหุ้มหนังกลับผสมผ้าแถมโครงสร้างเบาะออกแบบใหม่โอบกระชับขึ้น เข็มขัดนิรภัยสีแดง หัวเกียร์สีเงินทำจากโลหะพร้อมคอนโซลเกียร์สีเงินโลหะ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้านหุ้มหนัง Alcantara เดินด้ายแดงติดโลโก้ H พื้นหลังแดง ช่องแอร์แนวยาวดีไซน์สปอร์ต ติดป้าย Civic Type R รันหมายเลขลำดับการผลิต พร้อมออปชันครบครันตั้งแต่ความบันเทิงแบบจอสัมผัสขนาดใหญ่ 10.2 นิ้วอยู่ตำแหน่งเหนือคอนโซลหน้ารองรับ Wireless Apple CarPlay and Android Auto และลำโพง 12 จุด คุณภาพจาก BOSE มีบันทึกข้อมูลการขับขี่ Honda LogR แสดงข้อมูลเรียลไทม์ ปรับตั้งค่าเกี่ยวกับตัวรถได้หลากหลาย มีนาฬิกาจับเวลาดิจิทัลและบันทึกวีดีโอการขับขี่ที่จากกล้องติดตั้งในตัวเบาะรถได้ มาตรวัดดิจิทัล 10.2 นิ้วแสดงข้อมูลได้ถึงสองรูปแบบตามโหมดการขับขี่ทั้งแบบ Comfort, Sport จะได้ชุดมาตรวัดแบบดั้งเดิม แต่ถ้าเลือกโหมด R+ จะได้ชุดมาตรวัดสไตล์รถซูเปอร์คาร์ยุโรปตัวเอ้ พร้อมระบบแสดงข้อมูล
ขุมพลังผูกขาดกับเบนซิน VTEC Turbo 2.0 ลิตร K20C 330 แรงม้าที่ 6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 420 นิวตันเมตร ที่ 2,600-4,000 รอบ/นาที พร้อมเกียร์ธรรมดา 6 สปีด REV Matching พร้อมเฟืองท้ายลิมิเต็ดสลิป ระบบเบรกจาก Brembo ดิสก์เบรก 4 ล้อพร้อมคาลิเปอร์สีแดง สร้างเสียงสังเคราะห์ Active Sound Control สร้างความเร้าใจในการขับขี่ พร้อมโหมด Comfort, Sport และ R+
โดยขายที่ญี่ปุ่นในราคา 4,997,300 Yen หรือราว 1,279,000 บาท ไม่รวมภาษีนำเข้าของไทยแต่ถ้านำเข้ามาขายในไทยราคารวมภาษีจะอยู่ที่ 3,679,000 บาท มาพร้อมสีขาวบริสุทธิ์ Championship White, สีเทา Sonic Gray Pearl, สีแดง Rallye Red, สีน้ำเงิน Racing Blue Pearl และสีดำ Crystal Black Pearl ให้เลือก
โดย Toyota GR Corolla มีแนวโน้มเข้าไทยเร็วๆนี้ ส่วนทางด้าน Honda Civic Type R จะมาไทยช่วงงาน Motor Expo 2022 ที่จะจัดขึ้นช่วงต้นเดือนธันวาคมนี้ จะขายจริงและรับรถช่วงปีหน้าหรือไม่นั้นต้องติดตามกัน
