วันนี้ Car2day จะพาพับกบพบกับ การเปรียบเทียบเรียกได้ว่ามวยคู่เองของ สองรถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังเป็นที่พูดถึงอย่างมากจากแดนมังกรโดยเรียกได้ว่าฮิตติดกระแสจนมียอดจองติด Top 3 กันในขณะนี้เลยทีเดียว และมวยคู่เอกที่เรากำลังพูดถึงอยู่นั่นก็คือ MG ZS EV กับ เจ้าเหมียวแสนดี Ora Good Cat ที่ได้รับการซัพพอทจากภาครัฐที่ได้เปิดแคมเปญส่งเสริมคนไทยให้หันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ากับส่วนลดจุก ๆ ตั้งแต่ 150,000 บาท เมื่อเรียกน้ำลายขนาดนี้แล้ว ก็ยิ่งทำให้รถยนต์ไฟฟ้าทั้ง 2 รุ่นนี้ได้รับความสนใจมากกว่าเดิมไปอีก
ซึ่งในคลิปวีดีโอรีวิววันนี้ ทีมงาน Car2day ได้นำรุ่นท็อปของทั้ง 2 ค่ายมาทำการเปรียบเทียบให้ได้ดูกันระหว่าง MG ZS EV รุ่น X กับ Ora Good Cat 500 Ultra ลองมาดูกันเลยว่า รุ่นไหนจะออปชันจุใจ ราคาน่าคบหา อเนกประสงค์มากกว่ากัน มาชมกันเลย
มาดูกันที่ ดีไซน์ภายนอก กันก่อน
โดยเริ่มกันที่ดีไซน์ภายนอกของ MG ZS EV ที่มีการปรับโฉมครั้งแรกในรอบ 3 ปี โดยดีไซน์ภายนอกจะคล้าย MG ZS รุ่นเครื่องยนต์สันดาป แต่มีกระจังหน้า และกันชนหน้าทรงปิดทึบ (GRILLE-LESS DESIGN) พร้อมขยับที่ชาร์จไปไว้ที่ ด้านซ้ายของ โลโก้ MG ขนาดใหญ่ ไฟหน้าแบบ LED พร้อมไฟเดย์ไทม์ ล้อแม็กใหม่ ขนาด 17 นิ้ว พร้อมยางขนาด 215/55 R17 ไฟท้ายและไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED ปิดท้ายด้วยสปอยเลอร์หลังพร้อมราวหลังคาและหลังคารถแบบพาโนรามิกซันรูฟ
ส่วนเจ้าเหมียวแสนดี ORA Good Cat รุ่น 500 ULTRA มาในร่าง 5 ประตูเช่นกันแต่เป็น Subcompact Hatchback ท้ายตัด หน้าตาเหมือนแบรนด์รถยุโรปชั้นดี ด้วยกระจังหน้าดีไซน์สุดคลาสสิก กันชนหน้าทั้งชิ้นออกแบบกลมกลืนพร้อมไฟหน้า LED ทรงตาแมว พร้อมไฟ Daytime และไฟส่องสว่างหลังดับเครื่องยนต์ ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว 5 ก้าน พร้อมยาง 215/50R18 ไฟท้าย LED ท้ายแนวยาวครอบทับกระจกหลังช่วยให้มองเห็นชัดเจนขึ้น รับกับท้ายรถที่เรียบง่าย สปอยเลอร์หลังดีไซน์เก๋ไก๋ และหลังคาพาโนรามิกซันรูฟ เสียดายที่ไม่มีที่ปัดน้ำฝนหลังมาให้
มิติตัวถัง
ถึงแม้รถสองรุ่นจะมาในแนวท้ายตัด 5 ประตู แต่ด้วยความตั้งใจของเหล่าวิศวกรทั้งสองค่ายที่ออกแบบรถมาในรูปแบบนี้ทำให้ MG ZS EV รุ่น X ได้เปรียบ ORA Good Cat รุ่น 500 ULTRA ตั้งแต่ความยาวมากกว่า Good Cat 88 มม. สูงกว่า Good Cat 53 มม. ความสูงจากพื้นมากกว่า 16 มม. และน้ำหนักรถมากกว่า 60 กก. ส่วน ORA Good Cat รุ่น 500 ULTRA ได้เปรียบ MG ZS EV รุ่น X ตรงที่ ความกว้างตัวรถมากกว่า ZS EV 16 มม. และฐานล้อยาวกว่า 65 มม.
ดีไซน์ภายในและความสะดวกสบาย
ส่วนภายในห้องโดยสารนั้นฝั่ง MG ZS EV ปรับโฉมให้มีดีไซน์เรียบหรู แฝงความพรีเมี่ยมด้วยคอนโซลหน้าลายคาร์บอนไฟเบอร์ และเบาะหนังดำเดินด้ายแดง พร้อมวัสดุบุนุ่มแบบ Soft Touch และฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบครันตั้งแต่ ระบบชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น กระจกมองหลังตัดแสง หน้าจอแสดงผลแบบดิจิตอล ขนาด 7 นิ้ว หน้าจอกลางแบบสัมผัสดีไซน์ใหม่ ขนาด 10 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto พร้อมลำโพง 6 จุด เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง เบาะผู้โดยสารด้านหน้าปรับ 4 ทิศทาง เบาะหลังพับได้ 60/40 มีพื้นที่เก็บของสูงสุด 1,166 ลิตร ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ พร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง และระบบกรองอากาศ PM 2.5
และที่ขาดไม่ได้คือระบบ i-SMART เชื่อมต่อทุกอย่างให้ง่ายและสะดวกสบายยิ่งขึ้น สามารถสั่งการทำงานได้ทั้ง กุญแจดิจิตอล ระบบสั่งการผ่านเสียงภาษาไทย ระบบควบคุมการทำงานของระบบปรับอากาศ และที่พิเศษคือสามารถสั่งการชาร์จ สถานี MG Super Charge ผ่านทางสมาร์ทโฟน และอัพเกรดระบบต่าง ๆ ผ่านออนไลน์ (FOTA)
ทางด้าน ORA Good Cat 500 ULTRA หรูสง่าเทียบชั้นรถยุโรป โดดเด่นด้วยหน้าจอพาดยาวบริเวณคอนโซลของตัวรถขนาด 17.25 นิ้ว ความละเอียดสูง แบ่งออกเป็น หน้าจอแสดงผลการขับขี่ขนาด 7 นิ้ว และหน้าจอมัลติมิเดียแบบสัมผัสขนาด 10.25 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay, Android Auto, Google Assistant และ JOOX Music พร้อมลำโพง 6 จุด เพิ่มความสะดวกสบายด้วยเกียร์อัตโนมัติแบบลูกบิดใช้งานง่าย พร้อม ระบบชาร์จไร้สาย พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น 2 ก้าน พร้อมวัสดุภายในห้องโดยสารให้สัมผัสที่สบาย เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทางฝั่งคนขับ พร้อม Welcome Seat และระบบนวด เบาะหลังสามารถพับได้ เพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยได้สูงสุดถึง 858 ลิตร พร้อมระบบกรองอากาศ PM2.5
ส่วนฟังก์ชั่นอัจฉริยะ Ora มาพร้อมระบบตอบโต้ด้วยเสียงอัจฉริยะผ่านระบบปัญญาประดิษฐ์ AI พร้อมระบบสั่งการและควบคุมรถจากระยะไกล และฟังก์ชั่นอื่นๆที่เกี่ยวเนื่องกับการทำงานของตัวรถทั้งคัน ที่มีการอัปเกรดเฟิร์มแวร์อัจฉริยะ (FOTA)
สมรรถนะขุมพลังระบบไฟฟ้า
ในด้านของขุมพลังไฟฟ้านั้น MG ZS EV พัฒนาใหม่ให้แรงขึ้นและวิ่งไกลขึ้นกว่ารุ่นเดิม ด้วยแบตเตอรี่ Lithium-Ion ขนาด 50.3 kWhใหม่ และ มอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanent Magnet Synchronous ให้กำลังสูงสุด 177 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร แรงดันเบตเตอรี่ 384 Volt สามารถขับขี่ได้ระยะทาง 403 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง ทดสอบแบบ (NEDC) พร้อมเกียร์อัตโนมัติแบบ Single Speed วิ่ง 0-100 กม./ชม. ที่ 8.6 วินาที Top Speed 175 กม./ชม. พร้อมระบบระบายความร้อนแบบ Liquid Cooling System
และมีระบบ KERS ไว้ช่วยชาร์จไฟกลับขณะขับขี่ที่เลือกได้ 3 ระดับ พร้อมโหมดการขับขี่ 3 โหมดได้แก่ Eco Normal และโหมด Sport รองรับการแบบเร็วด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC (30% – 80%) ใช้เวลา 30 นาที และการชาร์จไฟบ้าน AC 0-100% ใช้เวลา 7.15 ชม.
และสิ่งที่เหนือกว่าคือ MG ZS EV มีฟังก์ชั่นการจ่ายพลังงานจากรถสู่อุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นที่เรียกว่า V2L ด้วยกำลังสูงสุดถึง 2,200 วัตต์ ซึ่งตรงนี้ใน ORA Good Cat 500 ULTRA ไม่มี
ทางด้าน ORA Good Cat 500 ULTRA ขุมพลังไฟฟ้าที่ให้กำลังสูงสุด 143 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 210 นิวตัน-เมตร ความเร็วสูงสุด 152 กม./ชม. พร้อมแบตเตอรี่ชนิดลิเธียมไอออน Ternary ความจุ 63.139 kWh และมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchronous วิ่งได้ไกลสุด 500 กิโลเมตร รองรับการชาร์จแบบเร็วด้วยไฟกระแสตรง (DC) สูงสุด 60 kW และการชาร์จไฟบ้านแบบ AC 6.6 kW โดยระยะเวลาในการชาร์จทั้งแบบเร็วด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC 0% – 80% ในเวลา 60 นาที และชาร์จ AC 10 ชั่วโมง ทำอัตราเร่ง 0-50 กม./ชม. ภายใน 3.8 วินาที พร้อมระบบขับขี่ทั้งหมด 5 แบบ ซึ่งผู้ขับขี่สามารถปรับได้เองตามปริมาณแบตเตอรี่ที่คงเหลือได้แก่ มาตรฐาน, Sport, ECO, ECO+ และ อัตโนมัติ
สมรรถนะด้านการขับขี่
ส่วนในด้านการขับขี่นั้น ทั้งคู่ใช้ระบบกันสะเทือนด้านหน้าเป็นแบบ MacPherson Strut พร้อมเหล็กกันโคลง และระบบช่วงล่างหลัง Torsion Beam และระบบพวงมาลัยไฟฟ้าเหมือนกัน พร้อมดิสก์เบรก 4 ล้อ ต่างกันที่รัศมีวงเลี้ยว MG ZS EV แคบสุด 5.6 ม. ส่วน Ora Good Cat นั้นกว้างกว่าที่ 5.9 เมตร
ความปลอดภัยและฟีเจอร์
ปิดท้ายด้วยระบบความปลอดภัย โดยเริ่มจาก MG ZS EV ในรุ่น X ซึ่งมีมาให้ค่อนข้างครบตั้งแต่ ออพชั่นใหม่!อย่าง ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB รวมไปถึงช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนพร้อมปรับองศาพวงมาลัยหากออกนอกเลน, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน, ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ, ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าขณะขับขี่, ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน,ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา และ ระบบช่วยเตือนขณะถอยหลัง
พร้อมความปลอดภัยพื้นฐานตั้งแต่ อย่างถุงลมนิรภัย รวม 6 จุด เบรกมือไฟฟ้า และ Auto Vehicle Hold พร้อมออพชั่นใหม่! กล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 3 มิติ พร้อมสัญญาณเตือนระยะถอยหลัง และ ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง (TMPS)
ทางด้าน ORA Good Cat 500 ULTRA ก็ครบครันไม่แพ้กัน ตั้งแต่ระบบการช่วยเหลือผู้ขับขี่สำหรับการขับขี่แบบอัตโนมัติในระดับ L2+ ทั้ง ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ, ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติบนทางตรงและทางแยก, ระบบเบรกฉุกเฉินความเร็วต่ำ, ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน, ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน, ระบบช่วยรักษาระยะให้อยู่กลางเลน, ระบบช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้าง, ระบบช่วยออกตัวบนทางชัน, ระบบตรวจความดันลมยาง, กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา, ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง และถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่งเท่ากับ MG ZS EV
แต่ที่เด่นกว่าคือ Ora Good Cat 500 Ultra นั่นมีระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ 3 รูปแบบ ที่ไม่มีใน MG ZS EV
รุ่นและราคา
MG ZS EV รุ่น X พร้อมสีตัวถังทั้งหมด 5 สี ได้แก่
- สีน้ำเงิน
- สีเงิน
- สีแดง
- สีดำ
- สีขาว
ราคาปกติ 1,269,000 บาท แต่ราคาพิเศษซึ่งเป็นราคาจากการสนันสนุนของภาครัฐฯ อยู่ที่ 1,023,000 บาท ส่วนต่าง 246,000 บาท
ส่วน ORA Good Cat 500 ULTRA มีทั้งหมด 7 สี ทั้งแบบโมโนโทนและทูโทน แบ่งเป็นโมโนโทน 3 สี ได้แก่
- ขาว
- สีดำ
- สีฟ้า
และทูโทน 4 สีทั้ง
- สีแดงหลังคาดำ
- สีขาวหลังคาดำ
- สีชมพูอ่อนหลังคาดำ
- สีเขียวหลังคาขาว
ในราคาปกติ 1,199,000 บาท แต่ราคาพิเศษซึ่งเป็นราคาจากการสนันสนุนของภาครัฐฯ อยู่ที่ 1,038,500 บาท ส่วนต่าง 160,500 บาท
บทสรุปคือ
ด้วยโครงการที่ภาครัฐออกมาทำให้ได้เห็นราคารถทั้งสองรุ่นถูกกว่าเดิม แต่ ORA Good Cat ต้องหยุดรับจองเนื่องด้วยสงครามรัสเซีย-ยูเครน COVID-19 ผสมกับปัญหาชิปและเบตเตอรี่ที่ขาดแคลน ผนวกกับยอดจองล้นหลาม จึงมีความจำเป็นต้องหยุดรับจองตั้งแต่ 20 เมษายนเป็นต้นไปจนกว่ากลับเข้าสู่สถานการณ์ปกติ ทำให้ MG ZS EV ได้เปรียบสามารถรับรถได้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นไปสำหรับลูกค้าที่จองไปก่อนหน้า แต่ถ้าลูกจ้าจะจองวันนี้จะได้รับรถในช่วงปลายปีนี้ งานนี้ต้องชั่งใจแล้วว่าจะชอบแบบไหนกับรถยกสูงหลังคาสูงโปร่งสบายหรือรถเตี้ยทรงน่ารัก กับส่วนต่าง 15,500 บาท
บทความอื่น ๆ
