ฤดูกาล 2023 ของการแข่งขัน MotoGP กำลังจะเริ่มขึ้นในเดือนหน้านี้แล้ว และเป็นเวลาเกือบ 3 เดือน ที่เราไม่เห็นรถแข่ง MotoGP วิ่งอยู่บนแทร็ค ดังนั้น การทดสอบ ที่ Sepang ที่ผ่านมาจึงช่วยให้เรามองเห็นความคืบหน้าล่าสุดที่แต่ละทีมได้ทำลงไปในระหว่างช่วงพักฤดูหนาว และนี่คือสิ่งที่เราพอจะคาดคะเนได้หลังจบการทดสอบ
Ducati One Make Race?
เมื่อดูจากความร้อนแรงของ Ducati GP22 ตั้งแต่กลางฤดูกาล 2022 เป็นต้นมา ไม่มีใครกล้าปฏิเสธว่า Ducati GP23 ภายใต้การนำของ Gigi Dall’Igna จะออกมาย่ำแย่กว่าเดิม และการทดสอบที่ Sepang ก็ได้ยืนยันถึงสิ่งนั้น เพราะไม่เพียงแต่ GP23 จะยังคงรักษามาตรฐานศักยภาพเดิมที่ GP22 พา Francesco Bagnaia คว้าแชมป์โลกมาได้ มันยังดูเหมือนว่าได้มีการปรับปรุงศักยภาพเพิ่มเติมขึ้นไปอีก
Luca Marini ทำเวลาเร็วที่สุดในวันสุดท้ายของการทดสอบด้วยรถ GP22 อีกทั้งเวลาในท็อป 10 ยังมีรถ Desmosedici ถึง 7 จาก 8 คัน นั่นทำให้พลพรรคนักแข่ง Ducati มีความปลื้มปริ่มยินดีเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะ Alex Marquez ที่ย้ายมาจากค่ายปีกนก เจ้าตัวบอกว่า Ducati นั้นควบคุมได้ง่ายกว่ารถ Honda ซึ่งเขามีปัญหากับมันจนถึงวันสุดท้ายของการขับขี่
Yamaha มีความขัดแย้งในการทดสอบ
Yamaha เริ่มต้นการทดสอบด้วยดีในวันศุกร์ แต่เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงเมื่อจบวันอาทิตย์ โดยแชมป์โลกปี 2021 Fabio Quartararo ถึงกับงุนงงว่า เกิดอะไรขึ้นกับตัวรถเมื่อวิ่งด้วยยางใหม่และเชื้อเพลิงต่ำ
ชัดเจนว่า YZR-M1 2023 นั้นมีการปรับปรุงท็อปสปีดที่ดีขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่นักบิดในค่ายร้องขอมาโดยตลอด อย่างไรก็ตาม พวกเขากลับพบข้อบกพร่องอื่นขึ้นมาแทน เมื่อการควานหาเวลาต่อรอบในวันอาทิตย์จบลงด้วยการทำเวลาเป็นอันดับ 19 ของนักบิดเฟรนช์ ซึ่งนำหน้า Franco Morbidelli เพื่อนร่วมทีมอยู่เพียงอันดับเดียว
“เมื่อเราใส่ยางใหม่เข้าไป มันก็กลายเป็นฝันร้าย เราช้ากว่าเป็นวินาที และสิ่งที่แย่ที่สุดคือเราไม่รู้ว่าทำไม” คือข้อสรุปการทดสอบทำเวลาของ Quartararo
Honda ยังคงมีปัญหาเดิม ๆ ที่ต้องแก้
ถึงแม้ว่า Honda จะจัดสเปกรถมาให้ Marc Marquez เลือกทดสอบถึง 4 คัน และท้ายที่สุด Marquez ก็เลือกรถออกมาได้ 1 คัน ที่จะให้ทีมงานพัฒนาปรับปรุงโดยใช้พื้นฐานของรถคันนั้น แต่ปัญหาคือ คันที่แชมป์โลก 8 สมัย เลือกออกมา มันก็ยังพบปัญหาการยึดเกาะและอัตราเร่ง ซึ่งเป็นปัญหาที่ทำให้ Honda ต้องพบเจอกับปีที่ย่ำแย่ที่สุดในประวัติศาสตร์การแข่งขันของตัวเอง
Marquez ที่ไม่ได้ใช้ยางซอฟต์เพื่อควานหาเวลาในวันสุดท้ายของการทดสอบและทำเวลาตามหลังผู้นำอยู่ 0.7 วินาที แสดงออกอย่างชัดเจนถึงความอดทนที่ใกล้จะถึงขีดจำกัดเต็มที เจ้าตัวต้องการเพียงแค่สิ่งเดียว นั่นคือรถที่ช่วยให้เขากลับมาคว้าแชมป์โลกให้ได้อีกครั้ง ซึ่งดูเหมือนว่า Honda จะยังคงให้เขาไม่ได้อีกตามเคย
“ผมแฮปปี้กับสภาพร่างกายของผมมากกว่ารถแข่ง” Marquez กล่าวในการให้สัมภาษณ์ เราได้เลือกทิศทางของตัวแข่งแบบเดียวกับที่เราเลือกไว้ที่บาเลนเซีย ซึ่งมันก็ยังคงพบปัญหาแบบเดียวกัน”
“ด้วยตัวแข่งที่เรามี อย่างดีที่สุด เราก็คงจะสู้อยู่ในท็อป 5 ได้ แต่มันถึงเวลาแล้วที่จะต้องแก้ไขพวกมันให้ได้เสียที”
Aprilia เป็นค่ายเดียวที่พอจะสู้กับ Ducati ได้
เมื่อดูนาฬิกาจับเวลา Aprilia นั้นเป็นรถเพียงค่ายเดียวที่ดูเหมือนว่าพอจะต่อกรกับ Ducati ได้ อย่างไรก็ตาม ทั้ง Aleix Espargaro และ Maverick Vinales ทั้งคู่ต่างยอมรับว่า RS-GP ยังคงไม่ดีพอที่จะท้าชิงกับ Ducati ซึ่งดูเหมือนว่าจะนำหน้าอยู่หนึ่งก้าว
“ผมคิดว่าเรายังคงตามหลัง Ducati อยู่ เราจำเป็นต้องหยุดรถให้ได้ดีขึ้น และส่งกำลังลงพื้นให้ได้ดีกว่านี้” Espargaro อธิบายพร้อมกับคาดหวังว่า สเปกเครื่องยนต์สเปกสุดท้ายจะดีพอที่จะช่วยให้เขาขึ้นไปต่อสู้กับ Ducati ได้
“ด้วยตัวแข่ง Aprilia ในปีนี้ ผมสามารถขี่ได้อย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น และผมรู้สึกได้ว่ามันให้ความเร็วที่เพิ่มขึ้นกับผม” Vinales กล่าวสรุปหลังจากทำเวลาในการทดสอบได้เป็นอันดับ 3 ตามหลัง Marini และ Bagnaia
KTM ล่องเรือออกทะเลอีกแล้ว
Stefan Pierer, CEO ของ KTM ได้วางแผนที่จะพาค่ายยักษ์ส้มขึ้นสู่จุดสูงสุดของ MotoGP และกำหนดการนั้นก็ได้มาถึงแล้วคือปี 2023 แต่เมื่ดูจากผลการทดสอบ เป้าหมายนั้นดูจะเป็นไปไม่ได้ในปีนี้ เพราะทั้ง Brad Binder, Jack Miller, และ ทีมงาน KTM ต่างดูหัวหมุนสับสนอลเวงไปหมด
ตัวแข่ง RC16 ของค่ายผู้ผลิตจากออสเตรียนั้น มีเป้าหมายในการแก้ไขปัญหาอยู่ 3 อย่าง คือ ปรับปรุงเวลาในการควอลิฟาย, ทำให้ตัวแข่งแซงง่ายขึ้น, และปรับปรุงการจัดการกับลมยางล้อหน้า ซึ่งตามหลักการที่พวกเขาใช้ เครื่องยนต์ใหม่ที่มีการเปลี่ยนลำดับการจุดระเบิดควรจะแก้ไขปัญหา 3 อย่างข้างต้นเป็นอย่างน้อย แต่กลับกลายเป็นว่า นักบิดที่ดูเหมือนว่าจะแฮปปี้ที่สุดกลับเป็น Pol Espargaro ซึ่งพึ่งกลับมาขี่รถค่ายส้มยักษ์ในรอบ 2 ปี นั่นไม่ใช่อะไรที่ดูดีนัก
Espargaro เป็นนักบิดในเครือ KTM ที่ทำเวลาการทดสอบดีที่สุด โดยตามหลัง Marini ผู้นำอยู่ 0.9 วินาที และในแง่ของท็อปสปีด ดูเหมือนว่าตัวแข่งปีก่อนหน้านั้นจะทำท็อปสปีดได้ดีกว่าเสียด้วยซ้ำ
“เรามีงานมากมายที่ต้องทำก่อนที่เราจะไป Portimao” Francesco Guidotti ผู้จัดการทีม KTM กล่าว “และปัญหาก็คือ เราจะต้องใช้เวลา (ที่เหลือน้อย) ที่นั่นในการเตรียมตัวสำหรับการแข่งขันในสนามแรก”
อ้างอิง : motorsport.com