หลังจบการแข่งขันสนามสุดท้ายของฤดูกาล 2022 ที่บาเลนเซีย นักบิด MotoGP ทั้งหลายยังคงปักหลักอยู่ที่สนามแข่ง เพื่อทำการทดสอบรถใหม่ที่พวกเขาจะต้องใช้สู้ศึกในปีหน้า นอกจากนี้ ยังมีนักบิดหลายคนที่ย้ายสังกัดและได้ทดลองรถใหม่ที่ให้ความรู้สึกแตกต่างไปจากรถเดิมของพวกเขา
มาเริ่มกันที่นักบิดที่มีการก้าวกระโดดไปข้างหน้าในแง่ของเวลา หลังจากใช้โปรย้ายค่ายเบอร์เดิม Raul Fernandez นั้นทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในการแข่งขัน Moto2 ก่อนที่จะขึ้นมาทุลักทุเลจนไปไม่เป็นกับ RC16 ของ KTM ใน MotoGP แต่เมื่อเขาเปลี่ยนมาขี่ Aprilia RS-GP ดูเหมือนว่านักบิดดาวรุ่งจากสเปนจะมีความยินดีมากขึ้นกับรถใหม่ของเขา
ถึงแม้ว่าเวลาของ Fernandez จะตามหลังผู้นำอย่าง Luca Marini อยู่ถึง 1.3 วินาที แต่นี่เป็นเวลาเร็วที่สุดที่นักบิดสแปนิชทำได้ดีกว่าเวลาที่เขาทำมาตลอดสุดสัปดาห์การแข่งขัน โดยเวลาที่ดีที่สุดที่เขาทำได้นั้นอยู่ที่ 1:31.598 แต่เมื่อเปลี่ยนมาขี่ RS-GP นักบิดวัย 22 ปี ก็เซตเวลาเร็วที่สุดไว้ที่ 1:31.340 ซึ่งเร็วขึ้นกว่าเดิมประมาณ 0.2 วินาที
ท่าทางอากัปกิริยานั้นเป็นสิ่งที่โกหกได้ยาก และท่าทางที่ Pol Espargaro แสดงออกมาหลังจากที่ได้ขี่ KTM RC16 ในสังกัด Tech3 GASGAS Factory Racing นั้นบอกได้ไม่ยากว่าดูมีความสุขมากมายเพียงใด ซึ่งก็ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไม เนื่องจากเวลาเร็วที่สุดในระหว่างสุดสัปดาห์การแข่งขันของนักบิดสแปนิชนั้นอยู่ที่ 1:30.936 แต่เขาทำเวลากับรถใหม่ของเขาได้ 1:30.757 หรือเร็วขึ้นมาเกือบ 0.2 วินาที และเป็นเวลาที่ช้ากว่าตอนที่เขาทำโพลในปี 2020 เพียง 0.2 วินาที เช่นกัน
ทางด้าน Miguel Oliveira ที่ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถทำเวลาเร็วกว่าในช่วงสุดสัปดาห์การแข่งขันได้ แต่เวลา 1:30.367 ที่เจ้าตัวทำได้ก็เป็นเวลาที่เร็วที่สุดเป็นอันดับ 4 ของการทดสอบ ซึ่งมันช้ากว่าเวลาที่เขาทำได้กริด 14 ในวันแข่งเพียง 0.131 วินาที ยิ่งไปกว่านั้น ในการวิ่งแต่ละช่วง เขากดเวลาลงต่ำกว่า 1.31.xxx ได้ถึง 3 รัน นั่นแปลว่านักบิดโปรตุกีสค่อนข้างที่จะควบคุมรถได้เข้ามือเลยทีเดียว
อีกคนหนึ่งที่เราได้เห็นรอยยิ้มด้วยความยินดีจากการย้ายทีมนอกจาก Pol Espargaro, Alex Marquez นั้นดูจะสนุกสนานกับการทำงานวันแรกในสังกัด Gresini Ducati ซึ่งถึงแม้ว่าแชมป์โลก 2 สมัย จะทำเวลาช้ากว่าการควอลิฟาย Q1 อยู่ประมาณ 0.25 วินาที แต่เขาก็ขี่ได้เร็วกว่าเวลาที่เขาทำได้ในวันอาทิตย์ทั้งหมด 35 รอบด้วยกัน
มาที่ 2 คู่หูจาก Suzuki ซึ่งจะโยกไปขี่ให้กับ Honda ในปีหน้า Joan Mir นั้นดูเหมือนว่าจะมีปัญหาในการปรับตัวเข้ากับรถอย่างเห็นได้ชัดเลยทีเดียว ลักษณะท่าทางในการขี่ของแชมป์โลกปี 2020 นั้นดูแข็งขืนไม่ราบรื่นแต่อย่างใด อีกทั้งเวลาของเขายังช้ากว่าเวลาในการควอลิฟายเกือบ 0.7 วินาที
เช่นเดียวกันกับ Alex Rins ซึ่งรายนี้ทำเวลาหลุดออกไปจากเวลาควอลิฟายถึงเกือบ 1.3 วินาที อย่างไรก็ตาม Rins นั้นดูจะเน้นไปที่การเก็บระยะทางจำนวนมาก เพื่อเรียนรู้ลักษณะนิสัยของรถแข่ง Honda และเราคงต้องให้เวลานักบิด Suzuki ทั้ง 2 คน ซึ่งนอกจากจะเปลี่ยนมาขี่รถเครื่องยนต์สูบ V เป็นครั้งแรกแล้ว นี่ยังเป็นรถสูบ V ที่ขึ้นชื่อว่าชอบประทุษร้ายนักบิดมากที่สุดบนกริดอีกด้วย
ทางด้าน Jack Miller ที่เริ่มต้นอาชีพใหม่ในสังกัด Red Bull KTM Factory Racing ก็ไม่ได้มีการเริ่มต้นที่ราบรื่นเช่นกัน นักบิดออสเตรเลียนทำเวลาช้ากว่าเวลาที่เขาทำได้ในการควอลิฟายเกือบ 1 วินาที อย่างไรก็ตาม ผลการทดสอบของ Brad Binder อีกหนึ่งนักบิด KTM นั้นถือว่ายังอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน นักบิดจากแอฟริกาใต้ทำเวลาช้ากว่า Marini อยู่ประมาณ 0.4 วินาที และนั่นน่าจะทำให้ Miller ใจชื้นขึ้นมาได้บ้าง
คนสุดท้ายคือ Augusto Fernandez รูกี้เพียงหนึ่งเดียวที่ขยับขึ้นมาจากรุ่น Moto2 แชมป์โลกคนล่าสุดในรุ่นกลางถือว่าทำผลงานได้ค่อนข้างน่าประทับใจ เพราะถึงแม้ว่าเขาจะทำเวลาอยู่ในอันดับเกือบสุดท้าย ซึ่งก็น่าจะเป็นเช่นนั้นเนื่องจากมันเป็นการขี่รถแข่ง MotoGP ครั้งแรกของเจ้าตัว แต่เวลาที่ Fernandez ทำได้นั้นช้ากว่าหัวแถวอยู่ประมาณ 1.7 วินาที
เมื่อเทียบกับครั้งสุดท้ายที่มีการทดสอบที่บาเลนเซีย มันเป็นตอนที่ Brad Binder ขึ้นมาขี่รถแข่ง MotoGP เป็นครั้งแรก ซึ่งในตอนนั้นนักบิดแอฟริกาใต้ทำเวลาช้ากว่าหัวแถวอยู่ถึง 2.5 วินาที
จากการทดสอบครั้งนี้ เรายังพอสรุปได้ว่า ในปีหน้ารถแข่งแต่ละทีมก็น่าจะยังใกล้เคียงสูสีกันอยู่เช่นเดิม การแข่งขันนั้นน่าจะยังคงเข้มข้น และมีสีสันมากขึ้นจากการที่นักบิดหลายคนย้ายสังกัดกันไปมา ทำให้ปี 2023 เป็นอีกปีที่น่าจับตา
อ้างอิง : motogp.com