Daihatsu Hijet รับบทบาทเป็นรถจิ๋วทั้งแบบตู้และมินิทรั๊คที่ได้รับความนิยมจากผู้ใช้รถชาวญี่ปุ่นมานานกว่า 6 ทศวรรษและผ่านมาแล้ว 10 เจเนอเรชั่น
และวันนี้ เจเนอรชั่นที่ 11 ก็ได้ถือกำเนิดขึ้นสานต่อความสำเร็จจากเจนที่ผ่านๆมาด้วยหน้าตาใหม่หมดทั้งคัน แถมมาพร้อมกันถึง 2 ตัวตน 2 บุคลิก ทั้ง Daihatsu Hijet เจนที่ 11 ทั้งแบบ Hijet Cargo มินิแวน, Deck Van 4 ประตู รวมถึงยังแนะนำ Daihatsu Atrai เจนที่ 6 มาใน 2 รูปแบบทั้งแบบมินิแวน และ Deck Van 4 ประตู รุ่นอัพเกรดหน้าตาและความหรูหรามากว่ารุ่น Hijet และส่วน Daihatsu Hijet Truck ยังบอดี้เดิมแต่หล่อขี้นในรุ่นปรับโฉม
เริ่มที่ Daihatsu Hijet แบบ Hijet Cargo มินิแวน, Deck Van 4 ประตู กับ Daihatsu Atrai แบบมินิแวน และ Deck Van 4 ประตู เจนใหม่นี้พัฒนาจาก แพลตฟอร์ม DNGA (Daihatsu New Global Architecture) ที่มีความแข็งแกร่งมากขึ้นกว่าเดิมและยังพัฒนาช่วงล่างใหม่ให้เกาะถนนเข้าโค้งได้อย่างมั่นใจ หน้าตาทั้งสองรุ่นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงถึงจะใช้พื้นฐานเดียวกันก็ตาม เริ่มที่ Daihatsu Hijet ด้านหน้ามาพร้อมไฟหน้ามัลติรีเฟลกเตอร์ กับกระจังหน้าพื้นสีเดียวกับตัวรถประดับด้วยโลโก้ Daihatsu กับกันชนหน้าที่มีช่องระบายอากาศแนวนอน 3 ช่อง ส่วน Daihatsu Atrai กับแถบกระจังหน้าสีเงินและสีดำครอบทับประกบกับไฟหน้า LED และมีไฟ DRL LED อยู่ในโคมเดียวกัน กันชนหน้าทรงเดียวกับ Hijet แต่ติดตั้งไฟตัดหมอกหน้าทรงกลมแบบ LED ให้ กระทะล้อขนาด 12 นิ้ว พร้อมยาง 145/80R12 และมีแบบฝาครอบล้อให้ด้วย พร้อมไฟท้ายอยู่ด้านล่างในชุดกันชนหลังและในรุ่น Deck Van 4 ประตู มาพร้อมที่เปิดกระบะท้ายตรงกลางที่ยังมีพื้นที่เหลือในการบรรทุกตามสไตล์กระบะดับเบิลแค็บและมาเด่นด้วยประตูสไลด์เปิดได้สองข้าง
ภายในออกแบบเหมือนกันแต่มีดีเทลที่แตกต่างกันในแต่ละรุ่นของ Daihatsu Hijet กับ Daihatsu Atrai เริ่มที่หน้าจอสัมผัสมาในแบบ 6.8 หรือ 9 นิ้ว พร้อมห้องโดยสาร 4 ที่นั่งทั้งสองรุ่นสามารถพับได้แบบ 50:50 และ 100 โดยพื้นที่ด้านหลังจุได้มากสุด 1,275 ลิตร มาตรวัดเรืองแสงพร้อมจอแสดงข้อมูล MID สี TFT พร้อมช่องวางแก้วใส่ของ เสียบ USB ไว้หลายจุด พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น 3 ก้าน พร้อม Push Start เครื่องปรับอากาศมีทั้งแบบธรรมดาและอัตโนมัติ
ส่วนทาง Daihatsu Hijet Truck ปรับโฉมอีกครั้ง ด้วยหน้าตาที่ทันสมัยกว่าเริ่มที่ ชุดไฟหน้า LED พร้อมไฟตัดหมอก LED เป็นออพชั่นเสริม (ไฟหน้ามัลติรีเฟลกเตอร์ และไฟตัดหมอกธรรมดา เป็นออพชั่นมาตฐาน) แถบกระจังหน้าขนาดใหญ่ และกระจังหน้าสีเดียวกับตัวรถแบบพื้นๆ เด่นด้วยชุด Color Key กันชนหน้า และ กะทะล้อขนาด 12 นิ้ว พร้อมยาง 145/80R12 กระบะท้ายแบบพื้นเรียบเปิดได้ทั้ง 3 ด้าน และไฟ LED ส่องท้ายรถ ภายในครบครันทั้งพวงมาลัย 3 ก้าน เครื่องปรับอากาศ วิทยุ FM/AM CD ช่องเก็บของรอบคัน กระจกไฟฟ้า เซ็นทรัลล็อกเป็นออพชั่นให้เลือก มาตรวัดความเร็ว ช่องใส่ของบนหลังคา และบนแผงคอนโซลหน้า และรุ่น Truck Jumbo แบบแค็บ เบาะปรับเอนได้มากขึ้น
Daihatsu Hijet ทุกรุ่นใช้เครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 0.66 ลิตร KF เลือกความแรงได้หลายระดับเริ่มที่ กำลังสูงสุด 46 แรงม้าที่ 5,700 รอบ/นาที แรงบิด 60 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบ/นาที ,53 แรงม้าที่ 7,200 รอบ/นาที แรงบิด 60 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบ/นาที และ Daihatsu Atrai เครื่องเดียวกันแต่แรงสุด64 แรงม้าที่ 5,700 รอบ/นาที แรงบิด 91 นิวตันเมตรที่ 2,800 รอบ/นาที ทุกขนาดเครื่องยนต์จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 5 สปีดและเกียร์อัตโนมัติลูกใหม่ CVT แทนแบบเดิม 4 สปีดมีทั้งแบบขับเคลื่อน 2 ล้อหลังและขับเคลื่อน 4 ล้อ 4WD ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ และระบบล็อกเฟืองท้าย Super Def Lock ในรุ่น Hijet Truck ระบบความปลอดภัยด้วยถุงลมนิรภัยคู่ ระบบเบรก ABS กระจายแรงเบรก EBD และระบบช่วยเหลือการขับขี่ ADAS
Daihatsu Hijet Series กับ Daihatsu Atrai จำหน่ายแล้วที่ญี่ปุ่นเริ่มที่ ¥902,000- ¥1,045,000 หรือราว 267,000-309,000 บาท สำหรับ Hijet Series รุ่น Truck และ Cargo และ ¥1,562,000 หรือราว 463,000 บาท สำหรับรุ่น Atrai โดยราคาดังกล่าวไม่รวมภาษีนำเข้าของไทย
ที่มา Carwatch
