More

    ครม. ไฟเขียวสนับสนุนตลาด EV ลดราคารถไฟฟ้า 70,000 ถึง 150,000 !

    หลังจากรอคอยกันมานานในเรื่องมาตรการจูงใจให้คนไทยหันมาใช้รถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าแทนรถขับเคลื่อนด้วยน้ำมันนั้นเป็นจริงเสียที

    MG

    เพราะเมื่อวานนี้ (15 กุมภาพันธ์) ทาง ครม. ไฟเขียวมาตรการส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้าในเมืองไทย โดยลดภาษีสรรพสามิต 0 % ลดอาการขาเข้าสูงสุด 40% และให้เงินอุดหนุนคันละ 70,000 กับ 150,000 บาท โดย นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติ รับทราบแนวทางการดำเนินงานส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้า ตามผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ ครั้งที่ 3/2564 และครั้งที่ 1/2565 เพื่อส่งเสริมให้เกิดการผลิต การใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศ ให้เป็นไปตามเป้าหมายการผลิตและการใช้ยานยนต์ไร้มลพิษ (Zero Emission Vehicle : ZEV) ของยานยนต์ทุกประเภทอีกด้วย

    MG

    การดำเนินงานส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้า นั้นมุ่งหวังให้ ราคารถทุกประเภทที่ใช้พลังงงานไฟฟ้าทั้ง รถยนต์ รถปิกอัพ และรถจักรยานยนต์ สามารถแข่งขันได้ตามแผน 30@30 จะผลิตยานยนต์ไฟฟ้า 30% ของการผลิตรถยนต์ในไทย หรือต้องผลิตรถ EV ได้ 725,000 คันต่อปี ภายในปี 2030 โดยมาตรการครั้งนี้เป็นมาตรการระยะสั้น ระหว่างปี 2022-2025 โดยสองปีแรก (ปี 2022-2023) จะสนับสนุนสร้างแรงจูงใจให้เกิดการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศอย่างกว้างขวางโดยเร็ว ครอบคลุมรถไฟฟ้าทั้งแบบนำเข้าและประกอบในประเทศ ผ่านการยกเว้นหรือลดอากรนำเข้า ลดอัตราภาษีสรรพสามิต และ/หรือให้เงินอุดหนุนตามเงื่อนไข

    ORA

    แต่สำหรับช่วงสองปีหลัง (ปี 2024-2025) ทางภาครัฐส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้าประกอบในประเทศเป็นหลัก โดยยกเลิกการยกเว้น/ลดอากรนำเข้ารถนำเข้าทั้งคัน แต่ยังคงมาตรการลดอัตราภาษีสรรพสามิต และ/หรือให้เงินอุดหนุนตามเงื่อนไขที่กำหนดต่อไป โดยมาตรการมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือน พฤษภาคม สำหรับมาตรการดังกล่าวจะส่งเสริมให้เกิดการใช้รถยนต์แบตเตอรี่ไฟฟ้า 3 กลุ่ม ครอบคลุมทั้งรถที่ผลิตและประกอบในประเทศ คือ

    1. กลุ่มรถยนต์นั่งไฟฟ้า
    • กรณีรถยนต์นั่งราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท *ลดภาษีศุลกากรหรืออากรขาเข้าสูงสุด 40% (ปี 2022-2023) ลดภาษีสรรพสามิตจาก 8 % เหลือ 2 % (ปี 2022-2025) และให้เงินอุดหนุน 70,000 บาท/คัน สำหรับรถที่มีความจุแบต 10 kWh และเงินอุดหนุน 150,000 บาท/คัน สำหรับรถที่มีความจุแบต 30 kWh ขึ้นไป (ปี 2022-2025) โดยผลิตและประกอบในประเทศ
    • กรณีรถยนต์นั่งราคา 2 ล้านบาทขึ้นไปแต่ไม่ถึง 7 ล้านบาท ที่มีความจุแบต 30 kWh ขึ้นไป *ลดภาษีศุลกากรหรือลดอากรขาเข้าสูงสุด 20% คือถ้านำเข้าแล้วอากรไม่เกิน 20 % ได้รับการยกเว้น, หากอากรเกิน 20 % ให้ลดอากรลงอีก 20 % และอากรนำเข้าให้ลดเหลือ 60 % (ปี 2022-2023) และลดภาษีสรรพสามิตจาก 8 % เหลือ 2 % (ปี 2022-2025) แต่ไม่ได้เงินอุดหนุน
    1. กลุ่มรถปิกอัพไฟฟ้าที่มีราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท ลดภาษีสรรพสามิตเหลือ 0 % (ปี 2022-2025) และให้เงินอุดหนุน 150,000 บาท/คัน สำหรับรถที่มีความจุแบต 30 kWh ขึ้นไป และไม่ลดภาษีอากรขาเข้า
    2. กลุ่มรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่มีราคาไม่เกิน 1.5 แสนบาท ให้เงินอุดหนุน 18,000 บาท/คัน ทั้งนำเข้าและประกอบในประเทศ (ปี 2022-2025)

    EQS

    ทั้งนี้เงื่อนไขในการรับสิทธิ์มาตรการครั้งนี้ต้องเป็นผู้ประกอบการในประเทศ และต้องผลิตชดเชยอัตรานำเข้า 1 คัน ผลิต 1 คัน (1:1 คัน) ภายในปีแรก (ปี 2022-2023) หากไม่สามารถทำได้ต้องผลิตชดเชยในปี 2024  ด้วยอัตราส่วนนำเข้า 1 คัน ผลิต 1.5 คัน (1:1.5 คัน) สำหรับรถยนต์นั่งและรถจักรยานยนต์

    ทางคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ (บอร์ดอีวี) เปิดเผยว่า มาตรการส่งเสริมครั้งนี้จะเป็นมาตรการประมาณ 4-5 ปี เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้คนไทยปรับมาใช้รถอีวีกันมากขึ้น รายละเอียดมาตรการจะมีทั้งการลดภาษีสรรพสามิต ภาษีศุลกากร และรัฐบาลให้เงินอุดหนุนภายใต้กรอบวงเงิน 40,000 ล้านบาท โดยมีเป้าหมายจูงใจให้ประชาชนหันมาใช้รถอีวี ประมาณ 300,000 คัน ในระยะเวลา 5 ปีตั้งแต่ปี 2565

    MG

    โดยจับตาแล้วว่าค่ายรถยนต์ทั้งญี่ปุ่น จีน ยุโรป ที่จำหน่ายรถไฟฟ้าในตอนนี้ทั้ง ORA Good Cat ,MG EP, Lexus UX300e, Nissan LEAF, BMW iX, BMW iX3, BMW i4 ฯลฯ และรถไฟฟ้าที่เตรียมจะเปิดตัวภายในปีนี้ทั้ง EQS From Mercedes-EQ, Hyundai IONIQ 5, Toyota Bz4x, MG ZS EV Facelift ฯลฯ อาจไดรับอานิสสงส์จากมาตรการครั้งนี้ แต่จะลดมากน้อยแค่ไหนนั้นต้องติดตาม

    ที่มา กรุงเทพธุรกิจ และ ประชาชาติธุรกิจ

    (*ค่ายรถญี่ปุ่นที่ปัจจุบันยังเสียภาษีนำเข้าอัตรา 20% จะเหลือ 0%, ค่ายรถเกาหลีปัจจุบันเสียภาษีนำเข้าในอัตรา 40% ก็จะได้รับการลดภาษี เหลือ 0% ,ค่ายรถยุโรปปัจจุบันเสียภาษีนำเข้าในอัตรา 80% ก็จะได้รับการลดภาษีเหลือ 60%)

    ABOUT THE AUTHOR

    Latest Posts