ด้วยความเป็นรถเก๋งขนาดใหญ่ที่ได้รับการตอบรับจากคนไทยสำหรับ Toyota Camry ด้วยรูปลักษณ์ ความสง่างาม ความหรูหราภูมิฐาน
และเทคโนโลยีที่โดดเด่นสามารถก้าวขึ้นมาเป็นรถที่ขายดีอันดับ 1 อย่างสำเร็จด้วยยอดขายรวมสะสมมากกว่า 224,000 คัน ตั้งแต่จำหน่ายในไทยมากว่า 20 ปี และวันนี้ โตโยต้า จึงเปืดตัวความหรูหราใหม่ที่สมบูรณ์แบบตอบโจทย์สไตล์ที่เป็นคุณ กับ Toyota Camry Facelift การปรับโฉมครั้งแรกในรอบ 3 ปี กับร่างเจเนอเรชั่นที่ 8 ด้วยหน้าตาใหม่อิงจากสเปกญี่ปุ่นด้วยกระจังหน้าทรงสปอร์รูปแบบใหม่มาพร้อมกับคิ้วโครเมี่ยม ชุดไฟหน้าใหม่แบบ LED ลบขอบสีฟ้าออกไปในรุ่น Hybrid พร้อมไฟ Daytime Running Light กันชนหน้าใหม่ออกแบบให้มีช่องระบายอากาศสวยงามเข้มรับกับคิ้วโครเมี่ยมในรุ่น Hybrid และคิ้วสีเงินด้านในรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 2.5 พร้อมไฟตัดหมอกหน้า LED ล้ออัลลอยลายใหม่ทูโทนขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 235/45 R18 และขนาด 17 นิ้วลายใหม่พร้อมยาง 215/55R17 ไฟท้าย LED ใหม่ ออกแบบให้โฉบเฉี่ยวและหรูหราขึ้น
ภายในปรับเปลี่ยนเล็กน้อยมีการสลับตำแหน่งกันโดยจอสัมผัสขนาดใหญ่ไปอยู่ตำแหน่งลอยตัวอยู่ด้านบนสุดโดยมีขนาด 9 นิ้วใหม่และขนาด 8 นิ้ว รองรับ Android Auto และ Apple CarPlay พร้อมระบบ T-Connect และระบบเปิดประตูอัจฉริยะฝั่งผู้โดยสาร ตกแต่งภายในใหม่ด้วยลายไม้ เบาะนั่งกึ่งหนังแท้แบบนุ่มพิเศษตัดเย็บอย่างพิถีพิถัน โดยเบาะนั่งคู่หน้าปรับระดับได้ 8 ทิศทาง พร้อมปุ่มปรับดันหลังไฟฟ้านุ่มสบาย ผ่อนคลาย เบาะหลังในรุ่นท็อปสุด HEV Premium Luxury มาพร้อมพนักพิงศีรษะเบาะหน้าด้านซ้ายพับเก็บได้ เพิ่มการมองเห็นให้กับผู้โดยสารด้านหลัง เบาะหลังปรับด้วยไฟฟ้าพร้อมที่ท้าวแขนติดตั้งแผงควบคุมหน้าจอสัมผัสแบบดิจิทัล พร้อมลดความอับชื้น ด้วยพัดลมใต้เบาะและพนักพิง ผ่อนคลายและสะดวกสบายตลอดการเดินทาง พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นตกแต่งใหม่ และแผงกระจกไฟฟ้าตกแต่งใหม่ พร้อม มาตรวัดเรืองแสง พร้อมจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ TFT ขนาด 7 นิ้ว แสดงสถานะการทำงานของระบบต่างๆ อย่างเด่นชัด หน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบสีบนกระจกหน้ารถ Head-Up Display 10 นิ้ว ระบบปรับอากาศแยกอิสระ 3 โซน ซ้าย-ขวา และด้านหลังพร้อมระบบกรองอากาศภายในห้องโดยสาร nanoe อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย รองรับระบบการชาร์จไฟแบบ Qi ชาร์จไฟสะดวก พร้อม ช่องต่อ USB ด้านหลัง 2 ช่อง สะดวกสบาย
ด้วยพื้นฐาน TNGA ทำให้รถควบคุมง่ายการเข้าโค้งดีด้วย ช่วงล่างอิสระแบบปีกนกคู่ Double Wishbone Suspension ยังคงไว้ซึ่งความนุ่มสบายและความเงียบตลอดการเดินทาง พร้อมความแรงเร้าใจจากเครื่องยนต์เบนซิน Dynamic Force Engine 2.5 ลิตรที่มีให้เลือกถึง 2 รูปแบบตั้งแต่เครื่องยนต์เบนซิน A25A-FKB 2.5 ลิตร พร้อม VVT-iE ระบบวาล์วแปรผันอัจฉริยะควบคุมด้วยไฟฟ้า 209 แรงม้าที่ 6,600รอบ/นาที แรงบิด 250 นิวตันเมตร ที่ 5,000 รอบ/นาที และส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ Direct Shift-8AT กับเครื่องยนต์เบนซิน Hybrid VVT-IE A25A-FXS 2.5 ลิตร ให้กำลังถึง 178 แรงม้าที่ 5,700 รอบ/นาที แรงบิด 221 นิวตันเมตร ที่ 3,600-5,200 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 120 แรงม้า แรงบิด 202 นิวตันเมตร พร้อมแบตเตอรี่ นิกเกิลเมตัลไฮดราย ความจุ 6.5 แอมแปร์-ชั่วโมง โดยให้กำลังรวม 211 แรงม้า แรงบิด 221 นิวตันเมตร จับคู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ E-CVTพร้อม Sequential Shift
ระบบความปลอดภัยเวอร์ชั่นใหม่ Toyota Safety Sense เวอร์ชั่นล่าสุด ใหม่!!อัพเดตระบบป้องกันการชน Pre-Collision System ที่เพิ่มระบบการตรวจจับคนเดินเท้า คนขี่จักรยาน ใหม่!! ระบบล็อกความเร็วอัตโนมัติแบบควบคุมและปรับลดความเร็ว Dynamic Radar Cruise Control แบบ All Speed ลดความเร็วได้จนถึงจุดหยุดนิ่ง พร้อมระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางเลนและลดความเร็วขณะเข้าโค้ง Cruve Speed Reduction ใหม่!! ระบบช่วยเตือนการชนด้านหน้าและด้านหลังพร้อมระบบช่วยเบรกอัตโนมัติขณะถอยรถ Intelligent Clearance Sonar with Rear Cross Traffic Braking ใหม่!! ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางเลน Lane Tracing Assist และใหม่!! กล้องรอบคัน 360 องศา
พร้อมระบบความปลอดภัยพื้นฐานทั้ง ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน พร้อมหน่วงพวงมาลัยกลับอัตโนมัติ Lane Departure Alert ระบบควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ Automatic High Beams กล้องมองภาพขณะถอยหลัง พร้อม Back Guide Monitor ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ Rear Cross Traffic Alert ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน Hill-start Assist Control, ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง Blind Spot Monitorสัญญาณไฟกระพริบเมื่อเบรกกะทันหัน Emergency Stop Signal และถุงลมเสริมความปลอดภัย 7 กับ 9 ตำแหน่ง
Toyota Camry Facelift มีสีภายนอกทั้งหมด 6 สี และสีภายใน 2 สีทั้งสีดำและสีครีม โดยสีภายนอกมีดังนี้ สีใหม่ Metal Stream Metallic, Attitude Black, Graphite Metallic, Premium Red, Platinum White Pearl (เพิ่ม 10,000 บาท) และ Burning Black Crystal (เฉพาะรุ่นท็อป HEV Premium Luxury) และมี 4 รุ่นย่อยดังนี้
– 2.5 HEV Premium Luxury ราคา 1,809,000 บาท
– 2.5 HEV Premium ราคา 1,659,000 บาท
– 2.5 Premium ราคา 1,599,000 บาท
– 2.5 Sport ราคา 1,475,000 บาท
